บทที่ 6 เล่นกับหัวใจ
"ขะ...ขอโทษค่ะ" นุชจรีย์เอ่ยน้ำเสียงตะกุกตะกัก หลังจากกระโดดถอยห่างจากเขามาแล้ว
กิริยาก้มหน้างุด ทำเอาเขายิ้มพอใจ แต่เธอไม่ได้มีโอกาสเห็นหรอกว่าตอนนี้แววตาคมเปล่งประกายแค่ไหน รวมไปถึงยายเทียมด้วย...ผู้ที่กำลังง่วนอยู่ในครัว ไม่ได้รู้เลยว่า ในห้องนั่งเล่นเกิดเหตุการณ์ชวนหัวใจจะวายอยู่
"ไม่เป็นไร ขอบใจนะ" ศรัญทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาอ้าปากหาวเชิงบอกว่าตัวเองง่วงแค่ไหน
ผมที่ดูจะไม่พันกันเลย ยุ่งเล็กน้อย...พอให้ได้รู้สึกเอ็นดู นุชจรีย์รีบหักห้ามความคิดเรื่อยเปื่อยของตัวเอง ก้มหน้ามองพรมเพื่อที่จะไม่ได้ชื่นชมเขาไปมากกว่านี้
"ขอนอนสักงีบ...ง่วงเต็มที่" ว่าแล้วเขาก็นอนเอกเขนกไปกับโซฟา เอาแขนมาหนุนศีรษะตัวเองเอาไว้
"เดี๋ยวหนูไปหยิบหมอนมาให้นะคะ" เธอว่าอย่างกระตือรือร้น รีบสั่งให้ตัวเองทำตามหน้าที่และลืมกลิ่นของเขา สัมผัสของเขา ที่อวลอยู่ทั่วแก้มร้อนผ่าวของตัวเอง
ให้ตายสิ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น...
ห้าวันผ่านไป
อาการแก้มร้อน เผลอยิ้มคนเดียว หายใจหอบโยนบางครั้ง...ยังคงเกิดขึ้นอยู่แทบทุกวินาที
นุชจรีย์เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมตัวเองถึงเอาสัมผัสของเขาออกจากหัวไม่ได้ ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้มีอะไร เป็นความบังเอิญที่เจ้าตัวเอง ก็แทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำ
เขาไม่ได้มีทีท่าอะไร มีแต่เธอเองนี่แหละที่พยายามหลบหน้าเขา เห็นรถศรัญที่ไหนเธอจะไม่ไปที่นั่น และในที่สุดเธอก็รอดมาจนถึงวันสุดท้ายของสัปดาห์
'มีงานด่วนเข้ามา ธีม...สาวนักศึกษา โอเคไหม'
ต้นอ้อโทรมาแจ้งบรีฟงานกับเธอ ซึ่งคนที่รู้ดีว่างานของตัวเองไม่ได้พบปะกับใครนอกจากทีมและช่างภาพที่อยู่ไกลออกไป และเธอไม่เคยเห็นหน้าเขาสักที ทำให้เธอกล้าที่จะรับงานนี้
"พร้อมหรือยังนุช?" เสียงของผู้ช่วยช่างภาพอย่างน้ำทิพย์ตะโกนเข้ามาถามในขณะที่เธอเปลี่ยนชุดอยู่
นุชจรีย์อยู่ในชุดนักศึกษา แบบที่ในชีวิตจริงไม่เคยใส่มาก่อน...เธอมองเข้าไปในกระจกที่สะท้อนภาพของตัวเอง ทรวงอกอวบอัดเด่นชัด ดันนูนมาจากเสื้อตัวจิ๋ว ที่ชายเสื้อลอยอยู่เหนือขอบกระโปรง ที่อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน กระโปรงสั้นแค่คืบเดียว ห่อหุ้มแพนตี้สีแดงของเธอเอาไว้
"ใส่กางเกงในสีแดงนะ อาจจะมีภาพที่จะต้องเปิดหวี่หวอเล็กน้อย เผื่อฉุกเฉิน" น้ำทิพย์พูดภาษาของตัวเองไปอย่างนั้น แต่หญิงสาวเข้าใจได้ทุกอย่าง เธอรู้ว่ามันจะไม่มีวันน่าเกลียด ฝีมือของช่างภาพคนนี้ไม่ธรรมดาเลย
เขาสามารถสร้างภาพลักษณ์เซ็กซี่ของเธอออกมาได้อย่างน่าชม เธอมีโอกาสได้เห็นภาพของเธอหนึ่งสัปดาห์หลังถ่ายเสร็จ แต่ก็ไม่เคยเห็นไปเผยแพร่ที่ไหน
ดีแล้วล่ะ...ถ้ามีการเผยแพร่ออกไป เธอคงไม่ยอมถ่ายแน่
"ตามนั้นพี่" เธอหมุนตัวไปมาเชิงสำรวจ ก่อนจะรีบออกไปที่ห้องถ่ายรูป
ห้องคับแคบที่ถูกเนรมิตให้เป็นห้องสมุดในชั่วพริบตา มันน่าทึ่งมาก เธอไม่เคยชินเลยกับฝีมือของทีม ที่ทำอะไรออกมาตาม 'ธีม' แบบไม่เคยขาดตกบกพร่อง
"ขอบรีฟอีกครั้ง คิดว่าตัวเองเป็นดาวคณะ ที่ทั้งสวยและเก่ง มั่นใจในตัวเอง...กำลังอ่านหนังสือในห้องสมุด แล้วมีพี่เนิร์ดมาแอบดู เรารู้ว่าเขาแอบดู เราแอบชอบเขาด้วย...หน้าแดง เขินแบบไม่เขิน..."
คำว่าหน้าแดง ทำให้แก้มของนุชจรีย์ร้อนขึ้นมา
อารมณ์และความรู้สึกที่ยังอวลอยู่บริเวณแก้มใส ที่ปลายจมูกของใครบางคนทิ่มลงมา
ให้ตายเถอะ แค่นึกถึง...เธอก็เข้าใจอารมณ์ของนักศึกษาสาว ที่ถูกหนุ่มเนิร์ดแอบมองแล้ว
"พร้อม...ไป!" นุชจรีย์นั่งอยู่บนเก้าอี้ ที่คั่นกลางเอาไว้ด้วยชั้นหนังสือทั้งสองฝั่ง แยกเรียวขาคร่อมลงบนเก้าอี้หัวโล้นตัวเล็ก แอ่นหน้าอกขึ้นเล็กน้อย มือกำลังเลือกหนังสือที่วางเรียงเอาไว้ในชั้น
ทีมทำงานมืออาชีพมาก หนังสือที่วางอยู่ล้วนเป็นหนังสือเรียนจริงๆ บางเล่ม...เธอก็กำลังอ่านอยู่
"นั่นแหละ ไปเรื่อยๆ ยังไม่รู้ตัวว่าใครแอบมอง..."
"อา...มองลอดชั้นหนังสือออกมา" เสียงของน้ำทิพย์เป็นไปอย่างพึงพอใจ เมื่อนางแบบรู้งานสบตากับเขากล้องและได้ยินเสียงชัตเตอร์ดัง วันนี้ช่างภาพไม่ได้เอ่ยอะไร แสดงว่างานวันนี้ราบรื่น
อยู่ๆ นุชจรีย์ก็นึกถึงใบหน้าเรียวคมของใครขึ้นมา เส้นผมลื่นมือของเขา ทำให้เธอเผลอทำใบหน้าพึงพอใจ
การที่กระโปรงสั้นมาเหนือเข่า ร่นขึ้นไปอยู่ที่ต้นขาอ่อน ทำให้เธอหลบซ่อนความประหม่าเอาไว้ไม่ไหว
ถ้าคนที่แอบมองอยู่คือเขา...
บ้าน่า เป็นไปไม่ได้
ผู้ชายเรียบร้อย สุภาพ ใจดีอย่างศรัญ...ไม่มีวันทำแบบนั้นเธอรู้ดีแก่ใจ
"หนังสือหล่น ก้มลงไป..." แต่ถ้าเธอทำหนังสือหล่น แล้วเขามาอยู่ตรงหน้า เขาจะเห็นหน้าอกของเธอไหม
แค่คิด ใจหญิงสาวก็สั่นพร่า ช้อนสายตาสบกับกล้องที่รู้ว่าซ่อนอยู่มุมไหน แววตาหวานประกาย ส่งความเย้ายวนออกไปโดยที่เจ้าตัวไม่รู้
ห้วงอารมณ์ล้ำลึกจากการถ่ายแบบ ทำให้หญิงสาวได้ปลดปล่อย..ส่วนหนึ่งของตัวเองออกมา และเธอเชื่อว่ามันไม่ได้ผิดเลย อารมณ์เหล่านี้มนุษย์ทุกคนมี อยู่ที่ว่าจะได้มีโอกาสแสดงออกในสถานการณ์แบบไหน
มันคืองาน เธอคือคนทำงาน เธอก็ต้องทำมันไป...
ส่วนอารมณ์ที่เธอสามารถถ่ายทอดออกมาได้ ก็ถือว่าเป็นความสามารถอย่างหนึ่ง
"ดีมาก...ยกสะโพกขึ้นหน่อย สมมติว่าหนุ่มเนิร์ดแอบมองอยู่ด้านหลัง" น้ำทิพย์พอใจกับภาพเซ็ตนี้มาก เพราะนุชจรีย์โพสต์อย่างเป็นธรรมชาติ สีหน้าแและแววตาของเธอ เข้าถึงตามที่บรีฟไปให้ ได้ดีกว่าทุกวัน...
แช๊ะ!
หลังเลนส์กล้องที่ถูกบังคับจากทางไกล มีรอยยิ้มหนึ่งผุดผายขึ้นมา
ภาพสาวนักศึกษา ในชุดรัดรึง...ทำเอาเขาตื่นเต้นใหญ่
สีหน้าและแววตาของเธอในเวลานี้ แตกต่างจากการพบเจอในแต่ละวันอย่างสิ้นเชิง แม่เสือสาวซุกซ่อนเบื้องหลังอารมณ์และความรู้สึกเอาไว้ได้ดีอย่างน่าทึ่ง
เธอตีบทแตก ขึ้นทุกวัน...
"นั่งลงไปกับพื้น แหงนขึ้นมาบนเพดาน...กัดริมฝีปากตัวเอง" เขาสั่งผ่านเสียงที่แปลคลื่นด้วยเอไอ ซูมเข้าไปที่ริมฝีปากของเธอ แก้มใสนวลระเรื่อ แววตาขัดเขิน...ไม่ต่างจากเมื่อวันนั้นสักเท่าไหร่
ทีท่าตกใจ แววตาตื่นตระหนก ยังคงระบายอยู่ไม่ต่างจากวันนั้น
"มึงนี่ก็โรคจิตดีเหมือนกันนะ" มนัส ทินธุนา ผู้นั่งอยู่ในห้องนี้ด้วยตั้งแต่ แต่ไม่มีโอกาสได้เห็นภาพที่เขากำลังถ่าย หรือสถานการณ์ภาพรวมของสตูดิโอนั้น เอ่ยขึ้นมาพร้อมส่ายหน้า
ศรัญถอดหมวกครอบและแว่นตาที่ตัวเองสวมเอาไว้ออก หลังจากบอกพักกลองผ่านเสียงเอไอ
"ผมก็ได้แรงบันดาลใจจากเสี่ยกิตแหละครับ" เขาหมายถึงวรกิตเพื่อนของมนัส ที่จีบสาวด้วยการแกล้งเป็นเสี่ยไปขอเลี้ยงดู มิหนำซ้ำยังสร้างเรื่องราวสารพัดเพื่อทำให้เขายอมมาเป็นเด็กของตัวเอง (จากนิยายเรื่อง เสี่ยขา...หนูมาแล้วค่ะ)
