มึงช่วยพูดอีกทีซิ!
เคร้งงงง!! เสียงแก้วกระทบกันของชายหนุ่มกับกลุ่มเพื่อนของเขาที่นัดกันมาดื่มกันในครั้งนี้ เลิฟนั่งก้มหน้าถอนหายใจออกมาเมื่อยังติดต่อโอลีฟไม่ได้ตั้งแต่วันนั้น เขาพยายามโทรหาหญิงสาวอยู่ตลอดแต่เธอก็ไม่ยอมรับสายบางครั้งก็ปิดเครื่องหนีเขา ไปหาที่บ้านก็ไม่อยู่ เขาไม่รู้ว่าจะทำยังแล้วตอนนี้ ในใจของเขายังคงคิดถึงหน้าเธอ คิดถึงเสียงของเธอ
"เป็นอะไร?" สงครามถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเองมีอาการแปลกไปไม่เหมือนเคย
"...." ชายหนุ่มนั่งเงียบไม่ตอบอะไรแต่เลือกที่จะกดโทรศัพท์โทรหาหญิงสาวอีกครั้ง
"มึงดูร้อนรนนะเลิฟ" ครูซมองหน้าเพื่อนพร้อมแย่งโทรศัพท์ออกจากมือชายหนุ่มเพื่อมองว่าเขากำลังโทรหาใคร เพราะตั้งแต่เจอหน้ากัน เลิฟก็เอาแต่กดโทรศัพท์อยู่แบบนั้น
"โอลีฟ?" ครูซหันไปถามชายหนุ่มเมื่อเห็นเบอร์โทรออก เห็นข้อความที่ส่งออกเป็นแต่ชื่อของโอลีฟ
"...."
"ไอ้เลิฟ โอลีฟนี่ใคร?" ครูซยังถามต่อ เพราะเริ่มรู้สึกว่าคนที่ชื่อโอลีฟต้องสำคัญกับเพื่อนเขามากแน่ๆ เพราะเขาไม่เคยเห็นเพื่อนตัวเองเป็นแบบนี้มาก่อน
"เมีย" ชายหนุ่มตอบออกไปอย่างไม่คิด ก็เขาคิดว่าเธอเป็นเมียแบบที่พูด
"...." ทุกคนในโต๊ะต่างพากันหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วหันไปมองเลิฟที่นั่งอยู่เป็นตาเดียว
"มึงอย่าบอกนะว่าเธอคนนั้น..." เพลิงพูดขึ้นเมื่อนึกถึงผู้หญิงคนนั้น คนที่กระชากเลิฟเข้าห้องน้ำชาย เพราะเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
"อืม" เลิฟเปล่งเสียงในลำคอก่อนที่จะยกกระดกแก้วเหล้าเพื่อดับความร้อนใจในตอนนี้
"ไอ้เหี้ยเลิฟ!" ทุกคนในโต๊ะพากันร้องขึ้นด้วยความตกใจปนประหลาดใจ เพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนชายเป็นคนหวงตัวมากขนาดไหน แต่เขากลับยอมทำแบบนั้นทั้งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำมัน
"แล้วมึงป้องกันบ้างเปล่า?" สงครามถามขึ้น ด้วยความเป็นห่วงเพราะกลัวว่าเพื่อนอาจจะพลาดถ้าเจอผู้หญิงที่ไม่ดีมาจับชายหนุ่ม เพราะเขารู้ว่าเพื่อนชายไม่ได้เคร่งเรื่องอย่างว่าเหมือนพวกเขา
"หึ" เขาตอบออกไปตามความจริง ทุกครั้งที่เขามีอะไรกับเธอ เขาไม่ได้ป้องกัน
"ฉิบแล้วไง คราวหลังมึงต้องพกอันนี้ด้วย" พูดจบเพลิงก็ควักถุงยางอนามัยยัดใส่มือชายหนุ่ม
"...." แต่เลิฟเลือกที่จะไม่รับแล้วส่งคืนเพื่อนเขาไป
"แล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมมึงถึงเป็นแบบนี้" ครูซถามต่อเมื่อเห็นว่าเพื่อนดูไม่สบายใจ
"...." เลิฟเลือกที่จะไม่ตอบอะไรแล้วหันไปยกกระดกเหล้าแทน
"แล้วชกมวยมึงเป็นยังไงบ้าง ได้คราวว่ารอบหน้าเป็นไฟท์ล้างตา" สงครามรีบเปลี่ยนเรื่องถามเพื่อนชาย เพื่อที่จะให้เขาไม่ต้องเครียด
"ก็เฉยๆ" เลิฟตอบแบบไม่ใส่ใจมากนัก แต่เขาเลือกที่จะไม่บอกเพื่อนๆ ว่าเขาจะล้มมวยในครั้งนี้
ผ่านไปหลายชั่วโมง...
ตอนนี้ชายหนุ่มเริ่มเมาได้ที่เนื่องจากดื่มหนักมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขามันดูช้า ดูโคลงเคลงไปหมด อืม ตอนนี้เขาเมามากแล้ว
"เดี๋ยวมานะ ขอไปดูดบุหรี่แป๊บ" ชายหนุ่มพูดขึ้นก่อนที่จะลุกเดินออกมาด้วยอาการโซเซ
เขาเดินออกมาทางด้านหลังของคลับอย่างโซเซ ตรงนี้เป็นจุดเพื่อให้สูบบุหรี่โดยเฉพาะ ก่อนที่เขาจะนั่งลงยองๆ ข้างกำแพง พร้อมจุดบุหรี่ยี่ห้อดังเพื่อสูบมัน
"ละ...เลิฟ" เสียงหญิงสาวดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มรีบเงยหน้าขึ้นไปมองต้นตอของเสียง
"ลีฟ" เขายิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นหญิงสาวที่ยืนอยู่ เธอเป็นคนที่เขาอยากเจอมากที่สุดในตอนนี้
"ไปอยู่ไหนมาลีฟ ฉันคิดถึงเธอ" ชายหนุ่มโยนมวนบุหรี่ลงพื้นพร้อมใช้เท้าเหยียบมันจนดับไป เมื่อเห็นเธอที่กำลังเดินมาทางเขา
"คิดถึงนะ" หญิงสาวพูดขึ้นก่อนที่จะยิ้มให้ชายหนุ่ม
"อืม คิดถึงเหมือนกัน" เลิฟยิ้มบางๆ ออกมาแล้วเดินไปกอดหญิงสาวด้วยความคิดถึง ใช่ เขาคิดถึงเธอมากๆ ถึงแม้จะเพิ่งรู้จักเธอได้ไม่นาน แต่ชายหนุ่มกับรู้สึกดีแบบไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน
ชายหนุ่มผลักหญิงสาวให้ชิดกับกำแพง ก่อนที่จะค่อยๆ เลื่อนใบหน้าไปประทับริมฝีปากกับเธอแบบคิดถึง ริมฝีปากของเขากับเธอเกี่ยวพันกันอยู่แบบนั้น ส่วนมือของเขาก็เลื่อนขึ้นมาบีบหน้าอกของหญิงสาวแบบที่เธอเคยสอน ชายหนุ่มคิดถึงเธอมาก เขาไม่ได้อยากให้เธอทิ้งเขาไปแบบนี้
พลั่ก!! ตุบ!! ชายหนุ่มผละออกจากหญิงสาวก่อนที่จะผลักเธอออกอย่างแรงเมื่อรู้สึกว่าคนที่เขากำลังจูบไม่ใช่โอลีฟ เขาจำรสจูบเธอได้
"แนนนี่" ชายหนุ่มร้องขึ้นเมื่อจ้องหน้าเธอคนนั้นพร้อมใช้สายตาเพ่งมองดีๆ ปรากฏว่าเป็นแนนนี่ไม่ใช่โอลีฟของเขา
"จูบต่อสิเลิฟ" แนนนี่พูดขึ้นพร้อมเดินมาหาเขาที่ยืนอยู่
"ขอโทษที พอดีว่าเมาน่ะ" เลิฟพูดออกไปด้วยความรู้สึกผิดต่อแนนนี่ เพราะเขาเมามากเลยเห็นหน้าโอลีฟเป็นหน้าแนนนี่
"ไม่เป็นไร แนนนี่ไม่ได้ว่าอะไร" เธอตอบกลับมาพร้อมยิ้มยั่วชายหนุ่ม
"หลีกทางให้หน่อย ฉันจะเข้าไปข้างใน" เลิฟพูดขึ้นเมื่อแนนนี่ยืนขวางเขาไว้ไม่ยอมหลีกทางให้
"เดี๋ยวสิเลิฟ" หญิงสาวถือวิสาสะคว้าข้อมือของชายหนุ่มเอาไว้
"อย่าจับ" เขาพูดแค่นั้นก่อนที่จะสะบัดข้อมือออกจากแนนนี่
"ทำไมล่ะเลิฟ ทำไมถึงจับไม่ได้ แล้วผู้หญิงคนนั้นถึงจับ..." แนนนี่พูดขึ้นเมื่อรู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้าทำท่ารังเกียจเธอ ทั้งๆ ที่เธอรู้สึกดีกับเขา
"ก็เขาเป็นเมีย ส่วนเธอไม่ใช่!" ชายหนุ่มพูดแค่นั้นก่อนที่จะเดินชนไหล่ของแนนนี่จนกระเด็นออกไป
พอเลิกจากสังสรรค์เลิฟก็ขับรถมาจอดที่หน้าบ้านหลังนึง ซึ่งเป็นบ้านของโอลีฟ ไม่ใช่บ้านของเขา เขานั่งอยู่ในรถก่อนที่จะสอดส่องสายตามองเข้าไปในบ้านของหญิงสาว แต่ก็เหมือนเคย ภายในบ้านมืดสนิท เพราะตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีสองแล้ว
แต่จู่ๆ ก็มีรถคันนึงมาจอดที่หน้าบ้านของหญิงสาว ในขณะที่เขากำลังจะวนรถกลับบ้าน ร่างบางที่เขาตามหามานานก้าวขาลงจากรถคันนั้นด้วยอาการเซเล็กน้อยคล้ายคนเมา ก่อนที่จะเห็นผู้ชายบางคนก้าวขาลงจากรถตามเธอมา
"ไอ้ราชันย์!!" ชายหนุ่มเรียกชื่อผู้ชายที่อยู่กับโอลีฟในตอนนี้ มันคือราชันย์นักมวยคู่ปรับของเขา
ประเด็นตอนนี้มันไม่ได้อยู่ที่เธอหายไปไหนมา แต่ประเด็นที่ไอ้ราชันย์มาอยู่กับเธอได้ยังไง อันนี้สำคัญที่สุด
OLIVES TALK...
"ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่มาส่ง" ฉันบอกราชันย์ที่มาส่งฉันถึงหน้าบ้าน ก็รถฉันมันดันไปเสียอยู่ข้างทางหลังกลับจากดื่มที่คลับ แล้วราชันย์เขาผ่านมาเห็นพอดีก็เลยให้ฉันติดรถมาด้วย เพราะบ้านเขาก็อยู่ระแวกนี้เหมือนกัน
"ถ้าผมจำไม่ผิด คุณเป็นผู้หญิงของรังสิมันต์ใช่มั้ย?" เขาเอ่ยถามฉัน
"เอ่อ...ฉันว่าคุณคงเข้าใจผิดน่ะค่ะ" ฉันพูดออกไป ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของใครทั้งนั้น แล้วฉันกับเลิฟก็ขาดการติดต่อกันไปแล้วด้วย
"เข้าใจผิดอะไร?" อันนี้ไม่ใช่เสียงฉัน แต่เป็นเสียงของเลิฟที่ดังขึ้นด้านหลัง
"ละ...เลิฟ" ฉันร้องเรียกชื่อเขาด้วยความตกใจปนงุนงง เขามาที่นี่ทำไมอีก
"ตกใจอะไร จำหน้าผัวตัวเองไม่ได้หรือไง?" เขาพูดออกมา ก่อนที่จะเดินมาหาฉันที่ยืนอยู่พร้อมกับมองหน้าราชันย์ที่ยืนข้างฉัน เอิ่ม ท่าทางเขาจะเมามากแล้วด้วย
หมับ!! เขากระชากข้อมือฉันอย่างแรงให้เข้ามาหาตัวเขา
"ไปไหนกันมา?" เขาละสายตาจากราชันย์แล้วหันมาจ้องหน้าฉันแทน
"จะใช้ความรุนแรงทำไม คุยกันดีๆ ก็ได้นิหว่า" ราชันย์พูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางสีหน้าไม่ดีของเลิฟที่กำลังโมโห
"มันไม่ใช่เรื่องของมึง!" เลิฟตอบกลับไปพร้อมบีบข้อมือฉันแรงขึ้น
"โอ้ยย จะ...เจ็บนะ ปล่อย" ฉันสะบัดข้อมือออกอย่างแรงเมื่อเขาบีบมันแรงกว่าเดิม
"ไปกับฉันโอลีฟ เรามีเรื่องต้องคุยกัน" เขากระชากลากถูฉันให้เดินตามเขามาขึ้นรถ โดยมีสายตาของราชันย์ที่มองตามมา
"ไอ้บ้าเอ้ย ฉันเจ็บนะ!" ฉันร้องโวยวายออกมาเมื่อเขาผลักฉันใส่รถอย่างแรง
"หุบปาก!!" เขาตอบกลับมาแค่นั้น ก่อนที่จะสตารท์รถแล้วขับออกมาด้วยความเร็ว
"นายจะพาฉันไปไหน จอดเดี๋ยวนี้!" ฉันร้องตะโกนขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ก็เขาเมามากแล้วก็ขับรถเร็ว เร็วจนฉันกลัว
"งั้นเธอก็ตอบมาสิ ว่าไปไหนกับมันมา" เขาหันมามองหน้าฉันตาเขม็ง กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจของเขามันตลบอบอวลไปหมด
"ไปไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วยเล่า" ฉันตะโกนตอบไปสุดเสียง เมื่อเริ่มรู้สึกว่าไม่ชอบความเผด็จการของเขาเอาซะเลย
เอี๊ยดดดดดด!! เสียงล้อยางดังเสียดสีกับพื้นถนนดังไปทั่วบริเวณเมื่อเขาหักพวงมาลัยหลบเข้าข้างทางกระทันหันทันทีที่ฉันพูดจบ
"เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะ พูดอีกทีซิ" เขาหันมามองหน้าฉันด้วยน้ำเสียงเรียนิ่ง
ฉันก้มหน้ามองต่ำเมื่อรู้สึกว่าไม่ชอบสายตาแบบนี้ของเขาเอาซะเลย แต่สายตาอันเฉียบคมของฉันดันไปปะทะกับอะไรบางอย่างที่สะท้อนแสงวับวิบอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนเขา
'ฉิบหายแล้วอีอ้อย' ฉันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อเห็นปืนพกขนาด 9 มม กระบอกสีเงินมันวาวของมัน แล้วสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของฉันก็บังเกิดขึ้นอีกครั้ง
"ละ...เลิฟ ฉันคิดถึงนายนะ" ฉันทำเสียงเล็กเสียงน้อยพร้อมเอาหน้าซบลงที่ต้นแขนของเขา เขาทำหน้างง ก่อนที่ฉันจะค่อยๆ เบ้หน้าออกมาคล้ายกับว่าจะร้องไห้ ใช่ ฉันตอแหล ถ้าไม่ตอแหลก็ไม่รอดน่ะสิ
"แต่เมื่อกี้มึงไม่ได้พูดแบบนี้!" เขาจ้องหน้าฉันราวกับว่ากำลังจับพิรุธ
"ฉันคิดถึงนายนะ" ฉันพุ่งตัวไปกอดเอวเขาไว้ ก่อนที่จะเอาหน้าซุกไซ้ที่แผงอกแกร่งของเขา เขามองหน้าฉันนิ่ง ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา
"ฉันก็คิดถึงเธอนะลีฟ" เลิฟพูดขึ้นก่อนที่จะเอามือลูบที่หัวฉัน พร้อมก้มลงหอมที่หัวฉันเบาๆ
"...." ฉันกอดเขาแน่นขึ้น พร้อมถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจเมื่อเลิฟมีท่าทางที่อ่อนลง
"ถ้าเธอคิดถึงฉันแบบที่พูด เธอก็ต้องไปอยู่กับฉันตกลงมั้ย?" เขาเอามือประคองหน้าฉันก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงมาจูบที่ริมฝีปากฉันเบาๆ เกมพลิกเลยที่นี้ เอาไงดีล่ะ คิดสิคิด คิดไม่ออกขอกรี๊ดเลยแล้วกันกรี๊ดดดดด
