บท
ตั้งค่า

EP7 ละมุน

เครื่องบินมายังท่าอากาศยานนานาชาติมาเล่และกำลังแลนดิ้ง แต่ทว่าเธอรู้สึกปั่นป่วนในท้องอยู่มาก เพราะว่าเธอยังไม่ได้กินอะไรรองท้องก่อนขึ้นเครื่องนั่นเอง แม้แต่อาหารว่างที่จงกลนำมาให้เธอ เธอก็ไม่ได้กิน

“คุณแพร โอเคไหม” เสือเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงห่วงหาอาทร

“โอเคค่ะท่านรอง” แพรไหมเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม และปลดเบลล์ออกจากตัว ลุกขึ้นก้าวเดินออกจากเก้าอี้ เขาเดินนำหน้าเธอ เธอก้าวเดินตามเขาลงจากเครื่องบินไปยังพื้นลานของสนามบิน

“ขอบคุณมากที่บริการให้เรา” เสือเอ่ยบอกชาตรี ขุนศึก และจงกลที่ยืนคอยเขาอยู่ พวกเขายกมือไหว้เสือ เช่นเดียวกับแพรไหมที่ยกมือไหว้พวกเขาเช่นกัน เสือหันใบหน้ามองเธอด้วยความเอ็นดู อาจเป็นเพราะเขาไม่เคยเห็นเลขาคนไหนที่มารยาทดีเช่นเธอ

“ไปเถอะ ผมต้องเข้าไปดูโรงแรมต่อ กว่าป๊ากับม๊าจะกลับมาเป็นเดือน กะจะทิ้งบริษัทให้เด็กตาดำๆ มาคอยดูแล มันใช่หน้าที่ไหมเนี่ย ขอโทษทีผมไม่ได้บอกว่าจะมาดูโรงแรมด้วย” เสือเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง บ่นป๊าของเขา เธอเกือบหลุดขำออกมา

“ไม่เป็นอะไรค่ะ ท่านรอง” เธอเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม เธอมองไปยังด้านขวาเธอเห็นว่าชายวัยกลางเป็นคนไทยและมีชายหนุ่มชาวพื้นเมืองยืนข้างๆ ก้าวเดินตรงมาหาเขาและเธอที่ยืนอยู่ และชายวัยกลางคนไทยยกมือไหว้เสือด้วยความนอบน้อม และชายหนุ่มชาวพื้นเมืองเผยรอยยิ้มก้มหัวเล็กน้อย

“สวัสดีครับท่านรอง” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม

“เฉลิม บาตูไม่เจอกันตั้งนานสบายดีไหม” เสือเอ่ยบอกเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

“สบายดีครับ” บาตูเอ่ยบอกเสือด้วยรอยยิ้ม

“สบายดีครับท่าน” เฉลิมเอ่ยบอกเช่นนี้

“ไปที่รถเถอะครับฝนใกล้ตกแล้ว” เสือเอ่ยบอกเช่นนี้ เธอจึงทอดสายตามองท้องฟ้ามืดครึ้ม เธอคิดว่าอีกไม่ช้าฝนคงตกลงมาแน่ๆ

“เราอาจจะได้ค้างคืนที่โรงแรม” เสือเอ่ยบอกเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้เธอตาลุกโตทั้งสองข้างด้วยความตกใจ

“ท่านรองฉันไม่มีเสื้อผ้าที่จะเตรียมมา” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่เป็น ลีน่าเขาช่วยคุณได้” เขาบอกเช่นนี้ เธอคิดในใจว่า ใครวะ ลีน่า

“ไปเถอะก่อนที่ฝนจะตก” เสือเอ่ยบอก ก้าวเดินนำหน้าเธอไปยังรถเก๋งราคาแพงของทางโรงแรมสองคน เพราะมีบอดี้การ์ดหลายคนตามเขามาด้วย เธอจึงก้าวเดินไปยังที่นั่งข้ามคนขับ

“มานั่งข้างหลังกับผม” เสือเอ่ยบอกเธออีกครั้ง

“แต่...” เธอจะพูดต่อเขาก็พูดสวนขึ้นมา

“ไม่มีแต่ มานั่งข้างหลัง” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังเหมือนเป็นการออกคำสั่ง เธอจึงก้าวเดินไปนั่งด้านหลังกับเขา โดยมีบอดี้การ์ดของเขาปิดประตูรถให้เธอ ทำราวว่าเธอเป็นนายหญิงน้อยของพวกเขา

บาตูขับรถ ด้านข้างคนขับคือรุจ ส่วนเฉลิมขับรถอีกคันไปกเตรียมการที่โรงแรม เจ้านายมาก็อย่างนี้ผักชีโรยหน้าเก่ง

เมื่อมาถึงโรงแรมริมทะเลซึ่งยื่นลงไปในทะเล มีบ้านเป็นหลังๆ คล้ายกับรีสอร์ตมีมากกว่าห้าสิบหลัง เธอมองดูความหรูหราอลังการของรีสอร์ต มองไปทางไหนมีแต่สีขาว บอดี้การ์ดเปิดประตูรถเธอจึงก้าวลงมาและยกมือขอบคุณเขาทันที เธอเห็นว่าเขาก้าวเดินไปยังสะพานไม้สีขาว เธอจึงเดินตามหลังเขา ไปทางด้านขวาไม่ได้ไปทางรีสอร์ต แต่ไปทางตึกของตัวโรงแรม ภายในโรงแรมดูกว้างสะอาดตาได้ยินเสียงดนตรีคลาสสิกเปิดเบาๆ

โดยมีพนักงานต้อนรับใส่ยูนิฟอร์มสีขาว สูทสีขาว เสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงทรงเอสีขาว ตลอดที่เขาเดินพนักงานทุกคนก้มศีรษะให้เขาอย่างนอบน้อม

“สวัสดีค่ะ ท่านรอง” พนักงานหญิงคนหนึ่งพูด หญิงวัยกลางคนก้าวเดินมายกมือไหว้เขา และเธอเป็นหญิงสาวไทย

“คุณแพรไหม นี่คือคุณรัศมี เธอเป็นหัวหน้าส่วนต้อนรับของที่โรงแรมนี่” เสือเอ่ยบอกแพรไหม แพรไหมยกมือไหว้รัศมี รัศมียกมือรับไหว้เธอเช่นกัน

“สวัสดีค่ะคุณรัศมี” แพรไหมเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดีค่ะคุณแพรไหม” รัศมีเอ่ยบอกแพรไหมด้วยรอยยิ้มเช่นกัน ขณะที่เสือยกมือถือขึ้นมาดู

“ห้าโมงเย็นแล้วเหรอนี้ บนเครื่องคุณกินอะไรมาหรือยัง” เสือเอ่ยถามแพรไหม

“ฉันยังไม่ค่อยหิวค่ะ” แพรไหมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ที่จริงเธอหิวไส้จะขาด

“คุณต้องกิน ตามผมมา”

เสือพาเธอเดินไปยังห้องอาหารที่ฉาบไปด้วยน้ำทะเลสีครามฝูงปลาแหวกว่ายรอบตัวเธอทำให้เธอตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะว่าเธอเห็นภาพเหล่านี้แค่ในทีวีแต่นี่เหมือนอควาเรียมที่เธอเคยไปเที่ยวกับโรงเรียนเมื่อสิบกว่าปีก่อน เมื่อเดินเข้าไปเรื่อยๆ เธอได้ยินเสียงเพลงแจ๊สเบาๆ ดังขึ้นมาจากด้านในสุดปลายทาง เธอเห็นว่าเป็นห้องอาหารสุดหรูมีปลาแหวกว่ายอยู่บนหัว เสือขยับเก้าอี้ให้เธอ ขณะที่เธอตื่นตาตื่นใจเหมือนเธอเป็นเด็กน้อยที่ไม่เคยออกไปเที่ยวที่ไหน

“นั่งลง” เสือเอ่ยบอกเธอ เธอกลับคืนสติอีกครั้ง มองเขาด้วยความแปลกใจที่เขาขยับเก้าอี้ให้เธอเหมือนเธอเป็นคนรักของเขา

“ท่านรองนั่งเถอะค่ะ ฉันไปนั่งอีกฝั่ง” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเกรงใจ หมายใจจะไปนั่งอีกฝั่งของโต๊ะ แต่ทว่าเขาพูดขึ้นมาก่อน

“นั่งตรงนี้ ถือเป็นคำสั่ง” น้ำเสียงของเขาเหมือนเป็นการออกคำสั่ง เธอจึงนั่งลงบนเก้าอี้ เขาจึงก้าวเดินไปนั่งตรงข้ามเธอ บริกรเดินมาพร้อมกับสมุดเมนูอาหารวางทั้งฝั่งเขาและเธอ

“เอาสเต็กปลาแซลมอนย่างเกลือหนึ่งที่ และเอามาการิต้า เมอร์นอส มาแก้วหนึ่ง” เขาเอ่ยบอกโดยที่ไม่ได้เปิดสมุดดู

“ครับท่าน” บริกรเอ่ยบอก

“คุณกินอะไร” เขาเอ่ยถามเธอ เธอมองเมนูอาหารด้วยสีหน้าตกใจกับราคาอาหารพอสมควร

“คุณไม่ต้องกังวลผมเลี้ยงเอง” เสือเอ่ยบอกเธอด้วยรอยยิ้ม

“แต่...”

“เอาแบบที่ฉันสั่งเพิ่มอีกอย่างละที่” เขาบอกบริกรเช่นนี้

“ทวนรายการอาหารนะครับ สเต็กปลาแซลมอนย่างเกลือสองที่ และเอามาการิต้า เมอร์นอส มาแก้วสองแก้ว” บริกรเอ่ยทวนรายการอาหาร เสือพยักหน้า บริกรจึงก้าวเดินออกไปทันที

“มันแพงไปนะคะ” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง และเธอเองก็รู้สึกแกรงใจ

“ผมเลี้ยงคุณได้ คุณกินเถอะไม่ต้องกังวลที่นี่มันก็เหมือนบ้านของผม” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม เธอเองก็หมดคำพูดที่จะพูดกับเขา

จนบริกรคนเดิมก้าวเดินมาพร้อมกับบริกรสาว เขาใช้ถุงมือสีขาวจับขวดให้เขาดู

“มาการิต้า เมอร์นอส มาแล้วครับ” บริกรเอ่ยบอกเสือ เสือพยักหน้าบริกรคนเดิมใส่ไวน์ทั้งสองแก้ววางที่วางฝั่งของเธอและของเขาตามลำดับ

“ไวน์ยี่ห้อนี้อร่อยและกลมกล่อม” เสือเอ่ยบอก เธอยกแก้วขึ้นมาลองดมไวน์จากในแก้ว เธอรู้สึกได้ว่ากลิ่นไวน์มันแรงมาก เธอคิดว่ากินแค่แก้วเดียวเธอคงล่วงแน่นอน

“คุณไม่ชอบมันเหรอ” เขาเอ่ยถามด้วยความสงสัยเห็นว่าเธอมีสีหน้าเหยเกเหมือนกับไม่ชอบไวน์ยี่ห้อนี้

“เปล่าค่ะ” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และมองไวน์ในแก้วอีกครั้ง

เอาวะดื่มก็ดื่มวะ เป็นไงเป็นกัน

เธอดื่มเพียงแค่หนึ่งคำสัมผัสแรกเธอรู้สึกฟาดๆ ขมๆ แต่พออมเอาไว้ความหวานและแอลกอฮอล์ซึมซาบผ่านลิ้นลงไปในลำคอ ทำให้เธอรู้สึกชอบรสชาตินี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“เป็นไงบ้าง” เขาเอ่ยถามเธอ

“มันละมุนดีค่ะ” เธอเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม

“คุณชอบผมก็พอใจ” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มเช่นกัน บริกรคนเดิมเอาไวน์เติมให้เขาและเธอ บริกรคนใหม่เอาสเต็กมาวางตรงหน้าเธอและเขา เธอดื่มไวน์อีกแก้วจนหมด ทำให้เธอรู้สึกมึนๆ อย่างบอกไม่ถูก เธอกลับรู้สึกปวดปัสสาวะขึ้นมากะทันหัน

“ฉันขอเขาห้องน้ำก่อนนะคะ” เธอเอ่ยบอก

“ครับ”

...................................................

มาแล้วน๊า สนุกไหมคะ

อย่าลืมคอมเม้นท์ และกดหัวใจ เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน๊ะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel