EP5 ไปกินกัน
เธอมาจดจ่อกับแมคบุ๊คอีกครั้ง ไล่ดูงานของวันพรุ่งนี้ที่ไม่มีอะไร มีประชุมย่อยของแผนกนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศ ช่วงบ่ายนอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว
ฉันลงไปดูรถดีกว่า
แพรไหมก้าวเดินมาที่ลานจอดรถของผู้บริหารตรงล่างของตึก โดยมีบอดี้การ์ดและทีมรักษาความปลอดภัยคอยสอดส่อง เธอเห็นป้ายเขียนรถผู้บริหาร เธอก้าวเดินผู้ชายอายุประมาณสี่สิบ
“สวัสดีค่ะ คุณกำพล โพธิ์ชัยใช่ไหมคะ” เธอเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม
“ใช่ครับ มีอะไรเหรอครับ” กำพลเอ่ยบอกเธอ
“ฉันเป็นเลขาของท่านรองเสือค่ะ ชื่อแพรค่ะ” เธอเอ่ยบอกเช่นนี้
“คุณแพรไหมใช่ไหมครับ” เขาถาม
“ใช่ค่ะ เรียกแพรก็ได้ค่ะ” ฉันเอ่ยบอก
“เบอร์ผมอยู่ที่โต๊ะของคุณ วันหลังโทรลงมาก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องเดินมาครับ” เขาเอ่ยบอก
นี่ฉันปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อเลยเหรอ
“ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มแหยๆ
“ไม่เป็นอะไรครับ ทำงานวันแรกเดี๋ยวก็ปรับตัวได้”
หลังจากที่เธอได้ไปประชุมย่อยกับเขา เธอก็นำข้อมูลมาลงในแมคบุ๊ค เมื่อลงข้อมูลเสร็จ แจ่มจันทร์ชวนเธอไปกินข้าวกับพวกเธอที่โรงอาหาร แพรไหมก็ได้รู้จักผู้คนมากขึ้น และรู้จักผู้คนแต่ละแผนกที่เธอต้องร่วมงานและผสานงาน ยิ่งรู้จักผู้คนเยอะเธอจะได้ไม่เขินเวลารับงานและส่งงานให้พวกเขา
เมื่อกินข้าวเสร็จได้ยี่สิบนาที เธอมาหาเสืออีกครั้ง เขาเองก็มารอเธอที่หน้าลิฟต์ เธอรู้สึกอายที่มาช้ากว่าเขา แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอ เธอจึงก้าวเดินเข้ามาในลิฟต์พร้อมกับเขาแค่สองคนเท่านั้น เพราะลิฟต์ตัวนี้เป็นของผู้บริหาร เธอเองก็ยืนเกร็งๆ ข้างเขา ในมือถือสมุดกับปากกาลงมาด้วย ใจตุ้มๆ ต่อมๆ เธอไม่เคยอยู่ใกล้ชายที่ดูดีขนาดนี้มานานมากแล้ว อาจเป็นเพราะเธอไม่ได้สนใจผู้ชายมานานตั้งแต่เลิกกับแฟนเก่า
เสือหันมาหาแพรไหมใบหน้าของเธอมีคำถามในใจมากมาย และดูเกร็งๆ เธอเองก็รีบก้มหน้าไม่เอ่ยสิ่งใด ทำให้เขาคิดว่าวันแรกก็ใช้งานเธอแล้ว อาจทำให้เธอไม่พอใจอยู่บ้าง
แต่ท้องเจ้ากรรมดันร้องขึ้นมาเพราะเธอไม่ได้กินอะไรมัวแต่เม้าท์มอยจนไม่มีอะไรตกถึงท้อง อีกทั้งเมื่อเช้าฉันไม่ได้กินอะไรรองท้องมาด้วย นอกจากน้ำ เขาอมยิ้มเหมือนจะหัวเราะฉัน
“พวกหัวหน้าคงชวนคุณคุยจนคุณไม่ได้กินข้าว ไม่เป็นไร เราหาอะไรกินหน่อยไหมก่อนไปโรงผลิต” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นอะไรค่ะท่าน ฉันไม่ค่อยหิว” เธอโกหกเขาไป แต่ท้องของเธอไม่รักดีมันร้องขึ้นมาอีกครั้ง มาร้องอะไรเวลานี้วะ
“เห็นไหมท้องคุณยังไม่ร่วมมือกับคุณเลย คุณแพรไหม” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงขบขัน เธอกลับรู้สึกว่า เหมือนโดนผู้ใหญ่ดุเลยอะ -.-
“เดี๋ยวผมพาไปกินอะไรอร่อยๆ แล้วค่อยไปทำงาน ผมไม่อยากเห็นเลขาของผมเป็นลมไปก่อน” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม
ท่านรอง ฉันอยากจะบอกว่าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นนะ
“คุณนินทาผมในใจหรือเปล่า” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้ ขณะที่มองใบหน้าเขา เหมือนกับว่าเธอกำลังต่อว่าเขาในใจ
“เปล่าค่ะ” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
คนอะไรรู้ดีจริงๆ
เธอก้าวเดินตามเขาด้านหลัง ตลอดตั้งแต่ฉันออกลิฟต์มา พนักงานยกมือไหว้ให้เขาทุกคนจนถึงตู้หรูหราราคาหูฉีก โดยมีบอดี้การ์ดเป็นคนเปิดประตูรถให้เขา
“กำพล ไปร้านคาเทียก่อน แล้วค่อยไปโรงงาน” เสือเอ่ยบอกกำพล
“ครับท่าน” กำพลรับคำสั่ง เธอจึงขึ้นไปนั่งหลังคนขับรถ
“คุณจะไปไหน มานั่งกับผม” เสือเอ่ยบอกเช่นนี้
“แต่...” เธอเอ่ยบอกยังไม่จบคำ เขาก็พูดแทรกขึ้นมาโดยทันที
“อย่าขัดใจผม” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังเหมือนกำลังออกคำสั่ง
ไปนั่งก็ได้วะ นึกว่าจะโดนกินหัวชะแล้ว -- ค่ะเจ้านาย
เธอจึงขึ้นมานั่งข้างเขาที่นั่งโซฟาด้านหลัง โดยมีรุจไปนั่งข้างคนขับ
“ยังไม่มีอะไรมาก เพราะเป็นกลางเดือน แต่ปลายเดือนจะหนักหน่อย แล้วพรุ่งนี้ส่งรายงานใบประมูลอาหารไปให้แต่ละบริษัทที่เป็นคู่ค้าของเรา ผมอยากจะปรับเปลี่ยนอาหารของชั้นเฟริ์สคราส ให้เขาส่งเสนอราคามาประมูลใหม่” เขาเอ่ยบอก ขณะที่เธอจดด้วยความเร็วไม่ขาดแม้แต่ตัวเดียว เพราะเธอเป็นคนที่เขียนไวมาก อีกทั้งยังลายมือสวยอีกด้วย
“ท่านรองคะ ขอถามได้ไหมว่า ทำไมต้องเปลี่ยนละค่ะ” แพรไหมเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ผมจะเปลี่ยนจากเนื้อวัวนำเข้ามาเป็นเนื้อในประเทศรสชาติก็ไม่ได้ต่างกัน และอีกอย่างก็ลดต้นทุนอีกด้วย ผมได้ปรึกษากับป๊าไว้ก่อนที่เขาจะไปเที่ยวกับม๊า” เขาเอ่ยบอกเช่นนี้
“ได้ค่ะท่านรอง” เธอเอ่ยบอก
“ถึงร้านแล้วเราไปกินกัน”
...................................................
มาแล้วน๊า สนุกไหมคะ
อย่าลืมคอมเม้นท์ และกดหัวใจ เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน๊ะ
