จูบแรกของกันและกัน
ภายในรถของประธานกู้
บรรยากาศภายในรถอบอวลไปด้วยความเศร้าหมอง ลี่เสวี่ยปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น น้ำตาไหลพรั่งพรูราวกับต้องการชะล้างความเจ็บปวดทั้งหมดออกไป
แต่ไม่ว่าจะไหลมากเท่าไร หัวใจของเธอก็ยังปวดร้าวเกินจะทน ถูกเพื่อนรักหักหลังอย่างเลือดเย็น ความจริงที่ได้รับช่างโหดร้ายเกินกว่าจะทำใจยอมรับได้ ทำไมเธอถึงโง่เง่าได้ถึงเพียงนี้
“ลุง… ฉันมันโง่มากใช่ไหม ที่โดนหลอกขนาดนี้...”
เสียงของเธอสั่นเครืออย่างคนที่หัวใจแตกสลาย ประธานกู้ไม่ตอบอะไร เพียงยื่นมือมาดึงศีรษะของเธอให้ซบลงบนบ่ากว้างของเขา ความอบอุ่นจากร่างกายเขาแผ่ซ่านสู่เธอ ความอบอุ่นนั้นแทรกซึมเข้าไปในความหนาวเหน็บของหัวใจที่แตกร้าว ทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้รับการปลอบโยนอย่างน่าประประหลาดใจ
“ฉันไม่อยากกลับบ้าน…”
ประธานกู้ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ “แล้วจะไปไหน? นี่มันก็ใกล้มืดแล้วนะ ลุงของเธอจะเป็นห่วงเอา”
ลี่เสวี่ยเงยหน้าขึ้นแก้มยังคงเปียกชื้นด้วยคราบน้ำตา ดวงตาคู่งามแดงก่ำราวกับถูกเปลวเพลิงแห่งความเสียใจแผดเผา
“ไหนลุงบอกลุงเจียงว่าจะดูแลฉันไง”
ประธานกู้มองเธอครู่หนึ่ง หัวใจพลันกระตุกวูบ ภาพตรงหน้าทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร แก้มแดงเรื่อ ดวงตาหม่นเศร้าที่มีหยาดน้ำตาเกาะอยู่ตามแพขนตา มาสคาร่าที่เลอะเปรอะลงมาบนผิวเนียนยิ่งทำให้เธอดูน่าสงสารจนจับใจ
“เช็ดหน้าก่อน”
เขาพูดพลางหยิบทิชชูส่งให้เธอ
ลี่เสวี่ยรับมาแล้วค่อยๆ ซับน้ำตาออก แต่คราบมาสคาร่าสีดำยังคงเปรอะเปื้อน เขาจึงยื่นมือไปช่วยเช็ดให้อย่างเบามือ สัมผัสอ่อนโยนของเขาทำให้หัวใจของเธอสั่นไหว ใจเต้นแรงจนแทบควบคุมไม่ได้ เธอพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกนี้ด้วยคำพูดติดจะดื้อดึง
“ฉันขอไปร้านเหล้าได้ไหม? ถ้าลุงไม่พาไป ฉันจะไปเอง! ลุงจะกลับก็กลับไปเลย อย่าห่วงฉัน”
เขาถอนหายใจยาว ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“ผมจะโทรขอลุงของเธอก่อน”
เขาบอกเล่าทุกอย่างให้ลุงเจียงฟัง ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับมา ในที่สุด ลุงของเธอก็อนุญาต
“ลุงเธออนุญาตแล้ว แต่ต้องสัญญากับผมก่อน ห้ามทำตัววุ่นวาย แล้วก็ห้ามเมาจนเป็นภาระ เข้าใจไหม?”
ลี่เสวี่ยไม่ตอบ เพียงเบือนหน้าหนีไปทางหน้าต่าง ดวงตาที่เคยเปล่งประกาย บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
ผับของประธานกู้...
ภายในห้องส่วนตัวเงียบสงัด มีเพียงเสียงน้ำแข็งกระทบแก้วเบา ๆ แสงไฟสลัวทอดเงาบนผนัง สร้างบรรยากาศเงียบเหงาจนสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่า
“ดื่มได้ แต่อย่าเมา เข้าใจไหม?”
ประธานกู้เอ่ยเตือนเสียงเข้ม ขณะทอดสายตามองหญิงสาวที่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นจรดริมฝีปาก หลังจากดื่มไปสองแก้ว แก้มของลี่เสวี่ยก็เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ
“เธอคออ่อน แล้วยังจะกินอีกอีก” เขาพูดพลางขมวดคิ้ว ดวงตามีแววตำหนิแต่แฝงความห่วงใย
“ลุงเคยอกหักไหม?”
เธอถามพลางน้ำตาคลอ
“คนอกหัก... เขาก็ต้องย้อมใจไม่ใช่เหรอ?”
เขาไม่ตอบ เพียงแค่หันไปสั่งให้บาร์เทนเดอร์ออกจากห้อง
“เธอเมาแล้ว ถ้ายังฝืนดื่มต่อ จะปวดหัวเอา”
“งั้นดื่มด้วยกันสิ ไหนบอกจะดูแลไง เอาชนแก้วหน่อย” เธอยื่นแก้วมาตรงหน้าเขา
แต่แทนที่ประธานกู้จะชนแก้ว เขากลับยื่นมือไปคว้ามันไว้ก่อน หญิงสาวพยายามดึงกลับ ทว่าเกิดการยื้อแย่งจนเหล้าหกเปื้อนชุดของเธอ
“ลี่เสวี่ย! วุ่นวายจริง ๆ”
เขาวางแก้วลงกับโต๊ะแล้วลุกขึ้นพยุงเธอให้ยืนตรง
ร่างบางโอนเอนไปซบอกเขาอย่างหมดแรง เขาพยายามจะประคองให้เธอนั่งดี ๆ แต่เธอกลับใช้สองแขนคล้องคอเขาไว้ก่อน แรงดึงทำให้เขาเสียหลัก ล้มลงไปทับเธอในทันที
บรรยากาศพลันเงียบงัน...
ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันจนได้ยินเสียงลมหายใจ ลมหายใจอุ่นรินรดกันและกัน หัวใจของประธานกู้เต้นรัวจนแทบทะลุออกจากอก
และก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว...ลี่เสวี่ยก็โน้มใบหน้าลงมาประกบริมฝีปากของเขา!
เขาเบิกตากว้าง ใจสั่นวูบวาบ เพราะนี่คือจูบแรกของเขา! ประธานหนุ่มผู้เย็นชาถึงกับเสียอาการ
“ลี่เสวี่ย… หยุดเถอะ! เธอรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไร?”
“รู้สิ…”
เธอกระซิบเสียงแผ่ว
“ฉันแค่อยากพิสูจน์ว่าฉันไม่ได้จืดชืดเหมือนที่ชิงหยูว่า หรือว่าลุงก็คิดแบบนั้น?”
“พอเถอะ! เลิกคิดอะไรแบบนี้สักที”
“ลุงรังเกียจฉันเหรอ?” น้ำเสียงเธอสั่นไหว
“นี่เป็นจูบแรกของฉันเลยนะ…”
หัวใจของเขาสั่นสะท้านทันทีได้ได้ยินแบบนั้น เพราะเธอก็คือจูบแรกของเขาเช่นกัน!
“ฉันมันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่ถูกตราหน้าว่าโง่ โดนเพื่อนกับแฟนหักหลังจนไม่เหลืออะไร! ฉันผิดเหรอ แค่ฉัน… ไม่ยอมเป็นของเขา เขาก็เลยทนไม่ได้ต้องทำแบบนี้…”
เธอร้องไห้ออกมาอีกครั้ง น้ำตาของเธอช่างกรีดแทงหัวใจของของเขา
“พอได้แล้ว!”
เขากระชากร่างของเธอเข้ามาแนบอก มือแกร่งประคองท้ายทอยของเธอ แล้วดึงเข้ามาใกล้ ก่อนจะมอบจูบที่แนบแน่นและหนักแน่นกว่าครั้งก่อน
ลี่เสวี่ยตกใจ พยายามผลักเขาออก แต่แรงของเธอกลับอ่อนลง น้ำตาหยดลงบนเสื้อของเขาอีกครั้ง
“มีสติหรือยัง?” เขาถามเสียงแผ่ว
เธอไม่ตอบ... เพียงแค่โอบกอดเขาแน่นและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
“อยากร้องก็ร้องออกมา... แต่ต่อจากนี้ ห้ามร้องไห้ให้ผู้ชายแบบนั้นอีก”
เขากอดเธอไว้ พลางลูบหลังเบา ๆ และในที่สุด... ลี่เสวี่ยก็ผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของเขา
ประธานกู้อุ้มเธอมาที่รถเพื่อไปส่งเธอกลับบ้าน ภายในรถเงียบงัน มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ทำงานอย่างแผ่วเบา กับเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของลี่เสวี่ยที่ซุกตัวอยู่บนตักของเขา
เขาก้มลงมองร่างบางที่หลับพริ้ม แก้มเนียนแนบชิดต้นขาของเขา ลมหายใจอุ่น ๆ เป่ารดผ่านกางเกงของเขาเป็นจังหวะ
เขาขยับตัวเล็กน้อย แต่เธอกลับครางฮึมฮำและขยับเข้าหาเขามากขึ้น มือเล็กกำชายเสื้อเขาแน่นราวกับเด็กน้อยที่ไม่อยากปล่อยของเล่นแสนรัก
เขาชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ มุมปากยกยิ้มบาง ๆ
“เด็กดื้อขนาดนี้... แต่ตอนหลับกลับดูน่ารัก” ฉันเริ่มสนใจเธอแล้วลี่เสวี่ย เธอคือผู้หญิงคนแรกที่ทำให้หัวใจของฉันเต้นผิดจังหวะ
เมื่อรถเคลื่อนเข้าสู่รั้วบ้านของลุงเจียง เขาขยับตัวเตรียมจะปลุกเธอ แต่ลี่เสวี่ยกลับขยับซุกเข้ามาอีก ใบหน้าของเธอแนบชิดหน้าท้องของเขาโดยไม่รู้ตัว
...ให้ตายเถอะ
เขากัดฟันแน่น ก่อนจะตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นแนบอก ลี่เสวี่ยครางงึมงำ มือเล็กขยุ้มคอเสื้อของเขาแน่นราวกับแมวน้อยที่ไม่อยากปล่อยให้เจ้าของไปไหน
ประธานกู้ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปในบ้าน ลุงเจียงที่ยืนรออยู่ถอนหายใจเบา ๆ พลางส่ายหัว
“วันนี้ดื่มไปเยอะสินะ? ลำบากประธานกู้แล้ว”
เขาวางเธอลงบนโซฟาแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมให้
“ครับ ดูเหมือนเธอจะใช้เหล้ากลบความรู้สึกตัวเอง”
ลุงเจียงทอดสายตามองหลานสาวนิ่ง ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามประธานกู้ตรง ๆ
“ว่าแต่คุณล่ะ... ชอบหลานสาวผมหรือเปล่า?”
เขาชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาคมสบกับสายตาเจ้าเล่ห์ของลุงเจียง
“หากคุณถูกใจและอยากคบกับเธอ ผมไม่ขัดข้องหรอกนะ” ลุงเจียงหัวเราะเบา ๆ
“กลับดีใจเสียอีก จะได้มีคนดูแลเธอแทนผม”
ประธานกู้ยังไม่ตอบอะไร เพียงแต่ทอดสายตามองลี่เสวี่ยที่ยังคงหลับสนิท แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและลึกซึ้ง
“เธอน่ารักมาก ผมชอบเธอ”
“ผมสนับสนุนคุณเต็มที่ ประธานกู้” ลุงเจียงกล่าว
“ขอบคุณครับพี่เจียง งั้นผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ ไว้พรุ่งนี้ผมจะมาหาแต่เช้าครับ”
ลุงเจียงพยักหน้าอย่างสบายใจ อย่างน้อยประธานกู้ผู้เย็นชาเปิดใจชอบหลานสาวเขาแล้ว แต่หลานสาวตัวแสบนี่สิ จะยอมเปิดใจให้กับประธานกู้หรือไม่