ตอนที่ 4 :: เสียมารยาท
ตอนที่ 4
เสียมารยาท
อีกด้านหนึ่ง
"สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะที่เขมมาสาย" เขมิกาเอ่ยอย่างรู้สึกผิดกับชายหนุ่มที่เธอนัดเอาไว้ ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับเขาเมื่อมาถึงร้านลาบ
"ไม่เป็นไรครับ คุณเขมช้าแค่ครึ่งชั่วโมงเอง ผมรอได้ครับ" กิตติกรยิ้มหวานให้เธอจนตาหยี เขมิกาเลยยิ้มตามเพราะเขาน่ารัก แถมยังหล่ออีกต่างหาก
"ว่าแต่...ทำไมคุณกรไม่สั่งอาหารมาทานก่อนล่ะคะ ไม่เห็นต้องรอเขมก็ได้"
"ไม่เป็นไรครับ ผมรอทานพร้อมคุณเขมดีกว่า อาหารจะได้อร่อยขึ้น"
"ยังไงนะคะ"
"ก็...ทานไปมองหน้าคุณเขมไป ผมว่าแบบนั้นอาหารต้องอร่อยขึ้นแน่ ๆ" กิตติกรหยอดเธอพร้อมกับรอยยิ้มตาหยีของเขาเพื่อหวังจะพิชิตใจเธอได้บ้าง เพราะเขากับเขมิกาคุยกันมานาน แต่เธอก็ให้เขาเป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น
หากแต่ครั้งนี้เธอชวนเขาออกมาทานข้าวด้วยกัน ต่างจากเมื่อก่อนที่แค่คุยแชตกันเท่านั้น
"เอ่อ...เราสั่งอาหารกันเลยไหมคะ" เขมิกาบ่ายเบี่ยงแล้วรีบยกเมนูอาหารขึ้นมาดูด้วยความรู้สึกที่ร้อนผ่าว ๆ บนใบหน้า เห็นแบบนั้นกิตติกรเลยระบายยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูก่อนจะสั่งอาหารกัน
"คุณเขม...คิดยังไงเหรอครับถึงชวนผมมาทานข้าว" กิตติกรพยายามชวนคุยระหว่างรออาหาร
"คือเขม...อยากเห็นคุณกรตัวเป็น ๆ อีกครั้งน่ะค่ะ เราก็คุยแค่แชตกันมานานแล้วนี่คะ" เขมิกาบอกไปตามตรง อีกอย่างคือเธอก็อยากมูฟออนจากพายัพ เลยอยากลองเปิดใจให้กับกิตติกรดูบ้าง
จำได้ว่าเธอกับกิตติกรเคยเจอกันที่โรงหนังเมื่อปีที่แล้ว เขาเข้ามาขอไอดีไลน์เธอ แล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มแชตมาจีบ แต่เธอขอให้เขาเป็นเพื่อนกันไปก่อน ไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะยอมและรอเธออยู่ตลอด
"หึ คุณเขมรู้ไหมครับว่าตอนที่คุณเขมชวนผม ผมดีใจมากแค่ไหน" กิตติกรเล่าไปยิ้มไป เขาเคยชวนเธอหลายครั้งแต่เขมิกาก็ปฏิเสธ เพราะเธอรู้สึกผิดที่ตัวเองมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับพายัพอยู่
"ถ้าอย่างนั้นคราวนี้เวลาที่คุณกรชวนไปไหน เขมจะไม่ปฏิเสธแล้วค่ะ เขมจะตอบตกลงทันทีเลย" เขมิกาบอกยิ้ม ๆ เวลาที่เธอคุยกับเขาทีไรมันสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเลย
"แล้วถ้า...ผมขอคุณเขมเป็นแฟน...จะตอบตกลงเลยไหมครับ" เห็นว่าได้จังหวะกิตติกรเลยรีบเอ่ยสิ่งที่ต้องการมาตลอดออกไป
"เอ่อ..."
"ขออนุญาตที่ต้องมาขัดนะครับ!"
"บอส..." เขมิกายังไม่ทันได้ตอบอะไรเธอก็ต้องหันไปมองตามเสียงแล้วเอ่ยเรียกเขาเสียงแผ่ว
"พอดีผมมีเรื่องจะคุยกับเลขาส่วนตัว ก็เลยต้องตามมาครับ" พายัพจ้องมองใบหน้าของเธอชั่วครู่ก่อนจะหันไปพูดกับกิตติกรด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร(มิจ-ฉา-ชีพ)
"ธุระอะไรคะ โทรมาก็ได้ทำไมต้องตามมา...ให้เหนื่อยเปล่า ๆ" ความจริงเขมิกาอยากบอกว่า ทำไมต้องตามมาให้เสียมารยาท
"ผมคิดว่าคุณไม่ได้ดูยุ่งอะไร ก็เลยตามมา ว่าแต่...ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ" ยังไม่ทันมีใครอนุญาตแต่พายัพก็นั่งลงข้าง ๆ เขมิกาเรียบร้อยแล้ว นั่นเลยทำให้เธอถลึงตาใส่เขาอย่างเหลืออด กิตติกรเองก็ไม่ค่อยพอใจเช่นกัน แต่เขาก็พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองเอาไว้เพราะเห็นว่าเป็นเจ้านายของเขมิกา
"ว้าว อาหารมาพอดีเลย น่ากินทั้งนั้น" พายัพทำหน้าตื่นเต้นพลางมองอาหารทั้งลาบทั้งก้อยแบบอีสานที่พนักงานเพิ่งมาเสิร์ฟ
"เอ๊ะ ทำไมมีแต่ของคาวล่ะครับ ไม่เห็นมีของหวานเลย" คราวนี้คนมาใหม่หันมามองเขมิกากับกิตติกรสลับไปมา ก่อนจะกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์
"อ๋ออ ของหวานคงจะไปกินกันหลังจากนี้สินะครับ"
"บอส!" เขมิการีบกัดฟันเรียกเขาด้วยความโมโห กิตติกรก็กำหมัดแน่นเช่นกันเพราะรู้ดีว่าสิ่งที่พายัพพูดมันหมายความว่ายังไง
"ทำไมล่ะครับคุณเลขา" ใบหน้าคมมองเธอพลางเลิกคิ้วอย่างกวน ๆ
"คุณกรคะ เขมต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ แต่ว่าวันนี้เขมขอตัวกลับก่อนได้ไหม บอสคงมีธุระด่วนจริง ๆ เดี๋ยวเอาไว้วันหลังเรานัดกันใหม่ค่ะ" เขมิกาหลบสายตาเขาแล้วรีบหันไปพูดกับกิตติกรด้วยความรู้สึกผิด แต่จะให้เขามานั่งทานข้าวด้วยโดยที่มีคนสารเลวอย่างพายัพมาคอยกวนประสาทแบบนี้ คงอึดอัดแย่
"ไม่เป็นไรครับ เอาไว้วันหลังก็ได้ คุณเขมบอกแล้วนี่นาว่าต่อไปเวลาผมชวนไปไหนจะตอบตกลงหมดเลย" กิตติกรยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน เขมิกาเลยยิ้มให้เขาบ้าง
"ใช่ค่ะ ตามนั้นเลย ส่วนค่าอาหารมื้อนี้เดี๋ยว..."
"เดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง" พายัพรีบขัดขึ้นพร้อมกับหยิบธนบัตรสีเทาออกมาวางตรงหน้าของกิตติกรแล้วกระตุกยิ้ม
"ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่นี้ผมจ่ายเองได้ คุณเขมกลับไปเถอะครับ" กิตติกรพยายามฝืนยิ้มให้เขาก่อนจะหันไปบอกเขมิกา
"ผมก็ไม่เป็นไรครับ เงินแค่นี้ผมจ่ายได้ คุณรับไว้เถอะครับ คิดซะว่าเป็นค่าเสียมารยาท"
"หึ" กิตติกรแค่นหัวเราะให้เขาอย่างไม่เป็นมิตร มือหนาก็กำเข้าหากันอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
"คุณกรรับไว้เถอะค่ะ ส่วนบอสเขมว่าเรากลับกันเถอะค่ะ มีธุระอะไรจะได้รีบคุยกันให้จบ" เขมิกาเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเอ่ยขึ้น เธอบอกยิ้ม ๆ กับกิตติกร หากแต่กัดฟันบอกกับพายัพ
"ได้สิ งั้นผมขอตัวนะครับ" พายัพรีบลุกขึ้นยืนแต่ก็ไม่ลืมบอกลากิตติกรด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเดินจากไป
"เขมขอตัวนะคะ" เขมิกาลาเขาบ้างจากนั้นก็เดินตามร่างสูงออกไปเช่นกัน กิตติกรเลยทำได้แค่นั่งมองทั้งสองคนด้วยความสงสัยแต่ก็ยังทำอะไรมากไม่ได้
"เร็ว ๆ สิ รถผมจอดอยู่ตรงนั้น" พายัพหันมายิ้มกวน ๆ ให้ร่างบางที่เดินตามเขามาเงียบ ๆ
"บอสไม่ได้มีธุระอะไรใช่ไหมคะ" พอมาถึงรถเขาเขมิกาก็รีบเปิดประเด็นทันที
"หึ ฉลาดเหมือนกันนี่" พายัพยืนพิงหลังกับประตูรถแล้วเอามือล้วงกระเป๋าอย่างสบายอารมณ์
"ทำแบบนี้ทำไมคะ ปกติบอสก็ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเขมนี่" เขมิกามองเขาอย่างไม่พอใจและไม่เข้าใจไปในตัว ซึ่งประโยคนั้นก็ทำเอาร่างสูงชะงักไปทันที เพราะเขา...ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
