ห้องบรรทมที่ 4(4)
หอเก๋งหกเหลี่ยมงดงามริมน้ำ นี่เป็นอุทยานหลวงชั้นใน นอกจากองครักษ์และขันทีนางกำนัล ต่อให้เป็นนกหนูซักตัว ก็ไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้
“อ่า อ่า อ่า”
เสียงครวญครางและเสียงเนื้อกระทบกันดัง พั่บ พั่บ ลอยออกไปนอกหอเก๋ง จางฮองเฮานอนหงายท้อง ขาข้างหนึ่งพาดอยู่บนบ่าฮ่องเต้ อีกข้างถูกจับแยกออกห้อยตกลงพื้น แม้ร่องรักนางจะถูกกระหน่ำทิ่มแทง แต่ปากนางกลับกัดกินน้องไก่น่องหนึ่งอยู่
“ฝ่าบาท หม่อมฉันหิวน้ำ”
หรงชิ่งก้มหน้าก้มตาซอยเอวเข้าออกรูร่องนาง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบว่านางกินน่องไก่หมดแล้ว
“รินชาให้ฮองเฮา”
นางกำนัลน้อยที่ยืนคอยรับใช้อยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินคำสั่งก็รีบรินชาป้อนฮองเฮาถึงปาก
“อิ่มรึยัง”
“อิ่มแล้วเพคะ”
“อิ่มแล้วเจ้าก็ไปยืนเกาะเสาตรงนู้น”
จางฮองเฮาทำหน้าตาเหรอหรา ฮ่องเต้หรงชิ่งเห็นนางเหมือนจะไม่เข้าใจ จึงจูงมือนางไปที่ต้นเสา จัดท่าจัดทางให้ครู่หนึ่ง หญิงงามที่บัดนี้ร่างเต็มไปด้วยรอยบอบช้ำและน้ำกามก็ยืนโก้งโค้งกอดเสา เตรียมพร้อมให้เขาเดินเข้าไปควบขี่อีกครั้ง
“เฟยหรง ยืนรอตรงนั้นก่อน เดียวข้าเสร็จเรื่องแล้วจะไปเล่นกับเจ้าต่อ”
“ส่วนเจ้ามานี่!”
ฮ่องเต้หรงชิ่งคว้าแขนนางกำนัลที่รินชาให้ฮองเฮาเมื่อครู่ นางถูกผลักให้คว่ำหน้าลงกับโต๊ะ กระโปรงยาวละพื้นถูกตวัดเพียงครั้งเดียว บั้นท้ายขาวผ่องก็อวดสู่สายตาคนภายนอก
“เพี๊ยะ! นางแพศยาน้อย เจ้ากล้าไม่ใส่กางเกงชั้นในไว้หรือ”
เมื่อหรงชิ่งเปิดกระโปรงนางออกดู แทนที่จะพบกับกางเกงใน กลับเห็นเพียงกาบหอยฉ่ำแฉะ
“ฝ่าบาท โปรดเมตตาบ่าวด้วย”
หากมีผู้คนในตำหนักเฉียนชิงเดินเข้ามาในหอเก๋ง คนผู้นั้นคงต้องประหลาดใจไม่น้อย นั่นเพราะสตรีที่ถูกจับคว่ำหน้าอยู่ตอนนี้ นางคืออวี๋เจินเอง
***
