ห้องบรรทมที่ 3(1)
จางฮองเฮา
คฤหาสน์ขนาดใหญ่ไม่ห่างจากวังหลวง เสนาบดีหลินหารือกับเหล่าที่ปรึกษาภายในห้องหนังสือ นับตั้งแต่หลี่ไทเฮาสิ้นพระชนม์เมื่อสิบปีก่อน อำนาจการปกครองก็ถูกส่งมอบคืนให้กับฮ่องเต้ แต่กว่าจะถึงวันนั้น เหล่าผู้มีอำนาจในราชสำนักก็เตรียมการไว้ก่อนแล้ว แม้ฮ่องเต้หรงชิ่งหน้าฉากจะดูเหมือนมีอำนาจยิ่งใหญ่ แต่เรื่องภายในยังคงถูกกลุ่มขุนนางที่ควบคุมกำลังต่างๆ ชักใยอยู่เบื้องหลัง
“นายท่าน หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ นี่ย่อมไม่เป็นผลดีต่อพวกเรา ยามนี้ขอเพียงผู้ใดให้กำเนิดโอรสได้ก่อน ก็เท่ากับถือไพ่เหนือกว่าพวกเราแล้ว”
วันนี้เสนาบดีหลินเรียกรวมที่ปรึกษาส่วนตัว เพื่อหารือแผนการว่าจะทำอย่างไรถึงจะให้หลินกุ้ยเฟยผู้เป็นบุตรสาวตั้งครรภ์โอรสก่อนผู้อื่น สองวันก่อนวังหลังส่งข่าวออกมาว่า ยาคุณไสยที่ได้มาจากเผ้าแม้วทางใต้ไม่ได้ผล ฮ่องเต้ไม่เพียงไม่เสด็จเยือนวังหลัง ซ้ำยังมีอารมณ์โมโหร้ายขึ้น สั่งโบยขันทีนางกำนัลแทบทั้งตำหนัก
“ปีนี้กำหนดคัดเลือกนางกำนัลใกล้เข้ามา ผู้น้อยคิดว่าเราควรส่งคุณหนูในตระกูลเข้าไปเพิ่ม หลินกุ้ยเฟยอายุไม่น้อยแล้ว เกรงว่าจะตั้งครรภ์ได้ยาก”
อู๋เวยที่ปรึกษาหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เสนอความคิด เสนาบดีหลินเมื่อได้ฟังก็พยักหน้าเห็นด้วย บุตรสาวคนโตของตนเข้าวังมาสิบกว่าปีแล้ว เมื่อก่อนแม้จะเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ แต่ระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา นางกลับไม่ตั้งครรภ์เลยซักครั้ง
“เรื่องนี้ข้าเห็นด้วย แต่ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้คือฮ่องเต้ไม่เสด็จค้างคืนวังหลังมาหลายเดือนแล้ว ข้าสังหรใจไม่ดีเลยจริงๆ ว่าเจ้าผู้นี้จะเล่นลวดลายใด”
เสนาบดีหลินยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่า เรื่องที่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ไม่ค้างคืนกับสนมชายาคนใดนานหลายเดือนมีลับลมคมในอยู่บ้าง แต่ยังมองไม่ออกว่าฮ่องเต้โง่เขลาผู้นี้ต้องการอะไร
“หรือฮ่องเต้ช่วงล่างจะมีปัญหา?”
“ไม่ใช่ วันก่อนสายของข้ายังรายงานมาว่า ฮ่องเต้รั้งตัวนางข้าหลวงฟางให้อยู่รับใช้แทบทุกคืน”
“ใต้เท้า ข้าคิดว่าคงมีใครไปเป่าหูอะไรบางอย่างฮ่องเต้ เกรงว่าเรื่องนี้คงมีเงื่อนงำจริงๆ”
เสนาบดีหลินและที่ปรึกษาทั้งหมด หารือถึงความเป็นไปได้ต่างๆ นาๆ ที่จะเกิดขึ้น นับจากหลี่ไทเฮาสิ้นพระชนม์ ขุนนางกลุ่มต่างๆ ก็แบ่งแยกอำนาจกันอย่างลับๆ แต่ละกลุ่มก็มีตัวแปรสำคัญที่ส่งเข้าวังไปเป็นสนมฮ่องเต้ ต่างฝ่ายต่างทราบดีว่าขอเพียงคนของตนให้กำเนิดโอรส โอกาสที่จะกลืนกินอำนาจขั้วตรงข้ามย่อมมีเหนือกว่า
ท้องพระโรง
“ฝ่าบาท การมีทายาทสืบราชบัลลังก์ก็สำคัญไม่แพ้การบริหารบ้านเมือง โปรดเห็นแก่ราษฎรพระองค์ทรงให้กำเนิดโอรสโดยเร็วด้วย”
ขุนนางทั้งห้องคุกเข่าลงหมอบกราบกับพื้น วันนี้หลังจากรายงานเรื่องเล็กๆ ไม่กี่เรื่อง ขุนนางชราผู้หนึ่งก็เอ่ยปากเตือนฮ่องเต้เรื่องทายาท คนทั้งหมดพอฟังว่ามีคนเปิดประเด็นนี้ก็กล่าวสนับสนุน เนื่องจากการที่ฮ่องเต้ไม่เสด็จค้างคืนวังหลัง ไม่ว่าจะเป็นขุนนางกลุ่มไหนก็เป็นผู้เสียผลประโยชน์ ทั้งห้องจึงพร้อมเพียงกันคุกเข่าโดยมิได้นัดหมาย
“เพร้ง!”
“พวกเจ้าถึงกับบังอาจก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวข้า!”
จอกทองถูกขว้างไปกลางห้อง ขุนนางทุกคนพอเห็นฮ่องเต้เดือดดาลก็ยังไม่ลดละ ทั้งหมดยังคงกดดันจนฮ่องเต้สะบัดก้นกลับตำหนักไป
***
