บทที่4. จบตอน
“พอแล้วๆ ๆ ไม่ต้องตื่นเต้นมากขนาดนั้นก็ได้ ดูสิคนมองกันใหญ่แล้ว แล้วนี่เราจะไปโรงแรมกันยังไง” ตวิษาถามขึ้นมาทำให้คนที่วิ่งวนรอบๆ ร่างอวบอิ่มนั้นหยุดหอบเล็กน้อยก่อนจะตอบเสียงใส
“เดี๋ยวจะมีรถมารับเรา แต่เอ.. รอมาสักพักแล้วไม่เห็นมาหรือว่าเขาลืมนะ” บัวบุษราเอ่ยอย่างกังวลนิดๆ แก้มนวลใสแดงปลั่งจากการวิ่งเมื่อครู่
“แต่ไม่ต้องห่วงเพราะแดนิชติดต่อประสานเรื่องการเดินทางและที่พักสำรองไว้ให้ หากมีอะไรผิดพลาด เพื่อนของแดนิชจะคอยช่วยเหลือเรา เพื่อนของแดนิชเป็นสาวๆ ในคณะแซมบ้าที่มีชื่อเสียงของที่นี่และจะเข้าแข่งขันในงานคาร์นิวัลปีนี้ด้วยนะ” บัวบุษราเล่าอย่างตื่นเต้น
“แล้วไง”
“อ้าว ก็เราจะได้เข้าไปดูเขาแต่งตัวและซ้อมเต้นด้วยน่ะสิ นี่ไงที่อยู่และเบอร์โทรของ คริสติน เมาโรนี่ เพื่อนของแดนิช หากมีอะไรผิดพลาดโทรหาเขาได้เลย ไม่ต้องห่วงน่าหนูบัวเตรียมตัวมาดี”
“จ้า.. แม่คนเจ้าวางแผน เอาเป็นว่าตอนนี้ใครจะมารับเราไปที่พัก” ตวิษาถามขึ้นเมื่อรู้สึกเหมือนว่าพวกเธอถูกมองอย่างสนใจจากผู้คนในบริเวณนี้มากเกินไป
จะไม่ให้ใครๆ สนใจพวกเธอได้อย่างไร ในเมื่อมีสาวน้อยแสนสวยจากเอเชียสองคนซึ่งมีความงดงามไม่แพ้กันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสอีกทั้งยังโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งงดงามน่าชม บัวบุษรานั้นอยู่ในชุดกระโปรงยีนเอวต่ำสั้นเหนือเข่ามน ฟอกสีและเพ้นท์ลายงดงามพร้อมกับเสื้อยืดสีชมพูหวานน่ารักสวมทับด้วยเสื้อคลุมยีนสุดเก๋สีเดียวกัน กับรองเท้าบู้ทยาวครึ่งหน้าแข้ง และเวลาที่เธอยกแขนชายเสื้อที่ร่นขึ้นนั้นก็เผยผิวขาวใสกระจ่างตาบริเวณสะเอวคอดกิ่ว อวดลวดลายสักผีเสื้อและจันทร์เสี้ยวตรงบั้นเอวบางให้ได้ยล ส่วนตวิษานั้นแม้จะอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนแสนธรรมดา แต่กางเกงยีนฟอกสุดเก๋นั้นมีรอยขาดบริเวณหน้าขาหลายรอยทั้งสองข้างอย่างมีศิลป์ โชว์ผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนน่าสัมผัส และเสื้อยืดสีอ่อนพร้อมสวมทับด้วยเสื้อคลุมยีนสีเดียวกับกางเกง แม้จะดูธรรมดา แต่ส่วนสัดที่อวบอิ่มนั้นก็ดุนดันเสื้อตัวสวยออกมาโชว์ความอะร้าอร่ามดึงดูดสายตาได้ไม่ยาก อีกทั้งสะโพกสุดแสนเซ็กซี่ของเธอภายใต้กางเกงยีนตัวเก่งนั้นมันก็ยักย้ายเชิญชวนโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าสองสาวจะแต่งกายแสนจะธรรมดา แต่ความงดงามแสนเย้ายวนโดยไม่ต้องปรุงแต่งมากมายนั้น ก็สะดุดตาเชิญชวนให้บรรดาชายหนุ่มๆ ต่างก็มองเหลียวหลัง...
“ขอโทษครับ ผมมาจาก มาเวลส์ แกรนด์ คุณคือคุณบัวบุษรา จันทรโสภากุล ใช่ไหมครับ” เสียงแหบห้าวสำเนียงภาษาอังกฤษชัดแจ๋วจากชายร่างยักษ์ผิวดำที่ยืนห่างจากสองสาวไปไม่กี่ก้าวนั้น แม้จะเอ่ยชื่อเธอไม่ชัดนัก แต่ก็ทำให้ทั้งสองสาวหันมามองเจ้าของเสียงอย่างพิจารณา และก็พบว่าใบหน้าของชายคนนั้นเรียบเฉย
“ใช่ค่ะฉันคือบัวบุษรา นี่เพื่อนฉันตวิษา คุณมาจากมาเวลส์ แกรนด์ หรือคะ”
บัวบุษราถามย้ำเพื่อความมั่นใจและพิจารณาคนตรงหน้าอีกครั้ง แต่ก็ไม่พบวี่แววความผิดปกติใด เมื่อชายคนนั้นตอบรับและเชื้อเชิญไปยังรถยนต์คันหรู ที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าราคามันสูงลิบลิ่วยิ่งกว่ากับตึกสิบชั้น มันทำให้เธออดแปลกใจไม่ได้ว่าทางโรงแรมดังติดอันดับโลก อย่าง มาเวลส์แกรนด์ อินเตอร์เนชันแนล โฮเต็ล นั้นใช้รถยนต์หรูระดับโลกไว้บริการลูกค้าถึงเพียงนี้เทียวหรือ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละนะ คนรวยๆ ที่มีกิจการระดับโลกและโรงแรมก็ดังมีชื่อกระฉ่อนนั้นย่อมสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อบริการลูกค้าอยู่แล้ว
สาวน้อยแสนสวยทั้งสองก้าวขึ้นไปนั่งในรถยนต์คันหรูเรียบร้อย ชายร่างยักษ์ก็ปิดประตูให้พวกเธออย่างน้อมนอบ แล้วเดินอ้อมมาด้านคนขับและขับรถออกจากสนามบินไปยังจุดหมายปลายทาง โดยที่ทั้งสองไม่มีโอกาสรู้เลยว่านับแต่เท้าของเธอทั้งคู่ก้าวขึ้นมาบนรถหรูคันนี้ ชีวิตของพวกเธอจะเปลี่ยนไปตลอดกาล...
“คุณพี่คะ น้องขอเบิกเงินในส่วนของน้องแค่ห้าแสนเท่านั้นทำไมคุณพี่ไม่เซ็นเช็คให้คะ” เสียงแหลมที่แหบพร่าลงตามวัยของหญิงวัยห้าสิบต้นๆ เอ่ยอย่างฉุนเฉียว และยิ่งฉุนเฉียวมากขึ้นเมื่อคนที่นางพูดด้วยยังคงนั่งร้อยมาลัยนิ่งเฉย
“พี่หนึ่ง..” คุณสายสนมเอ่ยเรียกชื่อของพี่สาวตนอย่างไม่พอใจ จนใบหน้าสวยสงบเยือกเย็นนั้นหันมามอง
“พี่ให้เธอไปเมื่อวันจันทร์แล้วห้าแสนนะสอง นี่มันเพิ่งจะวันพฤหัสฯ เธอจะมาขอเบิกอีก พี่ก็คงให้ไม่ได้”
“แต่นั้นมันเป็นเงินในส่วนของสองนะคะ”
“เธอคิดว่าเธอมีเงินในส่วนของเธอมากแค่ไหนกันสอง ทั้งในส่วนของเธอและส่วนของลูกจันนั้นถ้าจะให้พูดตรงๆ และเอาบัญชีมาแจกแจงตอนนี้มันเรียกได้ว่าติดลบ” คุณสายสุนีย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบพลางโบกมือให้เด็กรับใช้นำดอกไม้และมาลัยไปเก็บเพื่อในศาลาเล็กๆ แห่งนี้จะได้มีเพียงแค่นางกับน้องสาวผู้ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
“คุณพี่ ตะแต่ว่า” คุณสายสนมหน้าซีดเมื่อเจอสายตาเฉยชาของผู้เป็นพี่สาว
“ทุกคนเขาต่างทำงานและทำตัวเป็นประโยชน์ ลูกๆ ทุกคนของคุณใหญ่ก็มีหน้าที่การงาน กิจการรุ่งเรือง แต่ลูกจันของเธอกลับทำตัวเหลวแหลกล่องลอยไปวันๆ และยังมีแต่ข่าวเสียๆ หายๆ ให้เป็นที่อับอายเสมอเธอคิดว่าพี่โง่หรือสอง”
“คุณพี่กล่าวหา หรือไปฟังคำพูดของอีพวกขี้อิจฉาพูดมาล่ะสิ หนูลูกจันของสองเธอเป็นเด็กดีและยังหางานที่เหมาะกับตัวเองไม่ได้เท่านั้นเอง อีกอย่างสองก็เคยขอให้คุณใหญ่เปิดร้านจิวเอลรีให้แก แต่คุณพี่กับคุณใหญ่ก็บ่ายเบี่ยงตลอดๆ แล้วแบบนี้จะให้สองกับลูกทำยังไงล่ะคะ” คุณสายสนมค้านเสียงแข็งไม่ยอมรับในสิ่งที่พี่สาวกล่าว
“เด็กๆ คนอื่นเขาไม่เห็นอยากจะมีร้านจิวเอลรี และทุกคนเขาก็หางานทำได้ ทำกิจการของตัวเองด้วยเงินที่ทุกคนได้รับเป็นมรดก ไม่มีใครมาเกี่ยงงอนเกี่ยงงานเหมือนลูกจันเลยสักคน..”
“เห๊อะ ก็แค่ขี้ข้าลูกจ้างไอ้พวกต่างชาติ หรือไม่ก็แค่พนักงานกระจอกๆ คุณใหญ่ก็ให้ตำแหน่งแต่เฉพาะลูกอีช่างประจบ บังเอิญว่าสองกับหนูลูกจันไม่ใช่คนช่างประจบ หนูลูกจันของสองจบจากเมืองนอกเมืองนาจะมาทำแค่ตำแหน่งกระจอกๆ อย่างลูกๆ คนอื่นๆ ของคุณใหญ่ไม่ได้หรอกค่ะ ยิ่งต้องมาขายขนมกระจอกๆ อย่างนังลูกชู้ยิ่งไม่ได้ใหญ่” มิวายที่คุณสายสนมจะเหน็บแนมถึงใครอีกคนที่นางแสนจะเกลียดชัง
