บท
ตั้งค่า

ตำหนักที่ 8ประชวร(1)

ข่าวฮ่องเต้หมดสติทำให้ราชสำนักเกิดความวุ่นวายไม่น้อย หมอหลวงวิ่งเข้าๆ ออกๆ วังหลังทั้งคืนฮ่องเต้ค่อยฟื้นขึ้นมา

“ฮือ ฮือ ฮือ ฝ่าบาท”

หลี่ฮองเฮายามนี้กอดฮ่องเต้ร้องไห้อยู่บนที่นอน กุ้ยเฟยทั้งสองฟุบอยู่ข้างเตียงร่ำไห้แทบขาดใจ

“ฮือ ฮือ พระองค์ห้ามเป็นอะไรไปเด็ดขาด หากท่านเป็นไรไปพวกเราก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว”

สตรีสูงศักดิ์สามนางต่างพากันร่ำไห้ ภาพเช่นนี้ในสายตาฮ่องเต้กลับทำให้เขายิ่งรักพวกนางขึ้นไปอีก หลายปีที่ผ่านมามีเพียงพวกนางสามคนที่ปรนนิบัติรับใช้ถูกใจ สนมหลายสิบนางที่เคยโปรดปรานตอนขึ้นเป็นฮ่องเต้ใหม่ๆ ยามนี้เพียงแค่เห็นหน้าหญิงพวกนั้นเขาก็หมดอารมณ์แล้ว

“พวกเจ้าไม่ต้องร้องให้แล้ว เราไม่เป็นไร”

ฮ่องเต้ลุกขึ้นจากเตียงกล่าวปลอบโยนฮองเฮาและกุ้ยเฟยทั้งสองครึ่งค่อนวันค่อยให้คนส่งพวกนางกลับตำหนักไป

***

ท้องพระโรง

เสียงโต้เถียงแบ่งฝักแบ่งฝ่ายของขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายคนทำให้ฮ่องเต้ปวดหัวยิ่งนัก

“ฝ่าบาท นี่ไม่ใช่พวกกระหม่อมเร่งรัด หากแต่พระองค์ครองราชย์เจ็ดปีแล้ว”

วันนี้พอเปิดประชุมก็มีขุนนางหลายสิบคนถวายฎีกาขอให้แต่งตั้งรัชทายาท แน่นนอนเมื่อมีคนต้องการให้แต่งตั้งก็ต้องมีคนไม่อยากให้แต่งตั้งด้วยเช่นกัน

“เอาละ พวกเจ้าไม่ต้องเถียงกันแล้ว ข้ารู้ดีว่าต้องทำอะไร”

หลังจากนั้นการประชุมเป็นไปอย่างจืดชืด หลายปีมานี้อำนาจแทบทั้งหมดเขาล้วนควบคุมเอาไว้ได้ จะมีก็แต่ติ้งกว๋อกงผู้เป็นบิดาฮองเฮาที่รักของเขา

หากไม่ใช่เพราะเป็นพ่อตาป่านนี้เขาคงหาทางจัดการปลดหรือเนรเทศคนผู้นี้ไปนานแล้ว คนผู้นี้มีอำนาจในกองทัพมากเกินไป ความจริงเขาต้องการกระจายอำนาจทางทหารออกเป็นหลายส่วน

นี่เป็นหนามยอกอก หากปล่อยให้แม่ทัพใหญ่ผู้หนึ่งถือครองอำนาจทางทหารคนเดียวมากมายปานนี้ เขาไหนเลยนอนหลับเต็มตื่นได้

***

ตำหนักฮองเฮา

หลี่ฮองเฮายืนเกาะเสาเตียงอยู่บนพื้น ฮ่องเต้ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังซอยแท่งเนื้อเข้าๆ ออกๆ รูร่องนางช้าๆ

“พับ พับ พับ”

“ฮองเฮาเราคิดเรื่องๆ หนึ่งไม่ตกจริงๆ”

ฮ่องเต้ยกขาหญิงที่รักตรงหน้าขึ้นข้างหนึ่ง รูร่องนางดูดกลืนแกนกายจนสุดลำ ยามดึงออกก็ดูดรั้งหัวหยักไว้ หลายปีมานี้เขาไม่รู้เป็นอะไร มีเพียงฮองเฮาและกุ้ยเฟยอีกสองนางเท่านั้นที่ตอบสนองเรื่องบนเตียงเขาได้

“อ่า อ่า ฝ่าบาทกลุ้มใจอะไรหรือ เราช่วยท่านได้หรือไม่”

นางช่วยเด้งบั้นท้ายกลับไปทุกครั้งยามฮ่องเต้กระแทกเข้ามา ทุกวันนี้นางรู้จักหาความสุข ยามเอากับฮ่องเต้นางเพียงใช้แท่งเนื้อเขาเพื่อแก้คันก็เท่านั้นเอง

“อืม ไม่แน่เจ้าอาจช่วยเราได้”

ฮ่องเต้ซอยเอวไปด้วยปากก็บอกเล่าเรื่องราวที่เขายากตัดสินใจไปด้วย ทั้งสองยืนเอากันอยู่ตรงเสานั่นเป็นเวลานาน ในที่สุดสายธารฮ่องเต้ก็หลั่งไหลออกมา

คนทั้งสองหลังจากเอากันเสร็จก็ตระกองกอดกันอยู่บนเตียง ยามนี้หลี่ฮองเฮาค่อยออกความคิดเห็นของตนเองออกมา

“ฝ่าบาทกลัวเราเสียใจหรือถึงไม่กล้าลิดรอนอำนาจท่านพ่อ นั้นไม่ต้องเป็นห่วงเราไม่เพียงไม่เสียใจ เรายังจะช่วยท่านหาคนมาคานอำนาจท่านพ่อ”

ฮ่องเต้พอฟังเช่นนี้เขายินดียิ่งนัก นางไม่เพียงไม่โกรธที่เขาคิดลดอำนาจบิดาลง ซ้ำยังช่วยคิดหาคนมาคานอำนาจ นี่ทำให้เขานึกรักสตรีผู้นี้ยิ่งขึ้น

“ฝ่าบาทลองฟังดู คนผู้นี้ใช่เหมาะสมหรือไม่”

หลี่ฮองเฮาเสนอชื่อบิดาฉีกุ้ยเฟย ยามนี้นางมีบุตรชายหนึ่งคน ซ้ำบิดายังคุมทหารกว่าครึ่งของราชสำนัก หากเป็นเช่นนี้บิดานางจะมีอำนาจมากจนสั่นคลอนฮ่องเต้ได้ แต่ฉีกุ้ยเฟยมีเพียงบุตรสาว ซ้ำบิดานางเป็นเพียงแม่ทัพตำแหน่งไม่ใหญ่โตเท่าใด บารมีในกองทัพก็ยังไม่มากพอ หากยกทหารครึ่งหนึ่งของติ้งกว๋อกงให้เขาควบคุม แน่นอนว่าทั้งสองต้องไม่ลงรอยกัน

เพียงแค่ฮ่องเต้ได้ฟังความคิดฮองเฮาของเขา นี่กลับทำให้เขารู้สึกว่าสตรีผู้นี้ชั่งเหมาะสมกับเขานัก นางไฉนเฉลียวฉลาดได้ถึงเพียงนี้

นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการให้เกิดขึ้น ถึงยามนั้นติ้งกว๋อกงถูกลดอำนาจ บิดาฉีกุ้ยเฟยผู้มาแทนที่ก็คุมทหารไม่อยู่

สภาวะเช่นนี้กลับทำให้เขาสบายใจในการปกครอง ยามนั้นปล่อยให้แม่ทัพทั้งสองฟาดฟันกันไป หากใครพลาดพลั้งเขาค่อยหาเหตุผลดีๆ ซักอย่างลดอำนาจพวกเขาลงไปอีก

“เพียงแต่เราไม่รู้นี่สิจะหาเหตุผลอะไรไปลดกำลังทหารบิดาเจ้า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel