ตำหนักที่ 5ฉีเฟย(4)
“ป็อก”
“พรวด!”
อะไรบางอย่างพุ่งใส่แก้มก้นนาง เจ้าขันทีนั่นทำตามคำของนางจริงๆ ยามนี้แท่งเนื้อยาวใหญ่ของเขากำลังสั่นกระตุกฉีดพ้นของเหลวขาวขุ่นอาบแก้มก้นขาวๆ นาง
แฮก แฮก แฮก เสียงหอบหายใจคนทั้งสองดังก้องไปทั่วห้องนอน หลี่ฮองเฮานั่งมองฉีเฟยที่บัดนี้ฟุบกายร่ำไห้ บั้นท้ายนางเต็มไปด้วยน้ำขาวขุ่นของคนรักที่ปล่อยทิ้งไว้ จู่ๆ นางค่อยๆ คลานเข้าไปหาบั้นท้ายนั่น
“แผลบ แผบล”
“ฮองเฮาท่าน!”
ฉีเฟยรู้สึกถึงบางอย่างปาดไปมาบนบั้นท้าย เมื่อเหลียวกับไปมองนางต้องตกใจสุดขีด เป็นฮองเอาเอง นางก้มลงดูดเลียน้ำสกปรกที่เจ้าขันทีนั่นปล่อยทิ้งไว้
“พี่สาวฉี เชื่อเถอะพวกเราไม่ทำร้ายท่าน”
หลังดูดเลียจนสะอาด หลี่ฮองเฮาคลานไปข้างกายฉีเฟย นางฟุบหน้าลงข้างๆ ใบหน้าพี่สาวฉี
“พี่สาวฉี ท่านดู เราลงเรือรำเดียวกันแล้ว”
หลี่ฮองเฮายกสะโพกขึ้นจนสูงชัน นางไม่ได้ใส่กางเกงในเอาไว้ ยามกระโปรงร่นลงมายังแผ่นหลัง กาบหอยอวบแดงก็ปรากฏแก่สายตาผู้คน
นางเพิ่งคลอดบุตรได้ไม่นาน นี่เป็นครั้งแรกที่กาบหอบจะอ้าออกรับแท่งเนื้อ
“ใส่เข้ามาเร็วๆ เราต้องการให้พี่สาวฉีชมดู”
หวังเฟิงค่อยๆ ลุกขึ้นไปประกบบั้นท้ายนาง กาบหอยนางยังไม่หายดีจากการคลอดบุตร เขาค่อยๆ ใช้แท่งเนื้อสอดเข้าไปทีละนิด ดูว่านางจะรับไหวหรือไม่
“ซีดด..เจ้าเข้ามาเร็วๆ หน่อยสิ”
“พับ พับ พับ”
หวังเฟิงประคองสะโพกนาง พู่เนื้อแดงๆ ของนางยังไม่หายดีเท่าไหร่ ความรัดแน่นก็ไม่ดีเท่าแต่ก่อน ยิ่งเมื่อครู่เขาเพิ่งกระแทกกาบหอยฉีเฟยที่ไม่ได้ใช้งานมานาน จึงมีข้อเปรียบเทียบรูร่องทั้งสองเกิดขึ้น
“ฮองเฮาท่านหลวมเช่นนี้เราแทบไม่รู้สึกอะไรเลย เอาไว้ท่านหายดีก่อนเถอะค่อยเอากันใหม่”
“เจ้า! ฮือ ฮือ”
นางฟุบหน้าลงในกองผ้าห่มร่ำไห้เสียงดัง นางอุส่าคิดถึงเขา นางยินยอมให้เขาขี่ต่อหน้าสตรีที่ต่ำต้อยกว่าตนเองเช่นนี้ก็เพราะเขา เขากลับบอกว่ารูร่องนางหลวม เขากล่าวเช่นนี้ต่อหน้าผู้อื่นได้อย่างไร
“เจ้า ออกไป ไม่ต้องเอาแล้ว ข้าจะไปตายให้รู้แล้วรู้รอด ฮือ ฮือ”
นางคลานไปด้านหน้าเพื่อให้แท่งเนื้อคนเลวนั้นหลุดออกไป แต่มือแกร่งล็อกนางเอาไว้จนนางขยับไม่ได้
“พับ พับ พับ”
“ฮองเฮาเราขอโทษเราไม่ได้หมายความเช่นนั้น”
หวังเฟิงกระชากบั้นท้ายนางเข้ามาตอกอัดถี่ยิบ เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าตนพูดจารุนแรงเกินไป ความจริงเขาเพียงแค่เป็นห่วงนาง กลัวร่างกายนางจะฉีกขาด
“ไม่ต้องมาพูด เราไม่ฟัง เราไม่ฟังลูกหมาเช่นเจ้า ฮือ ฮือ”
ฉีเฟยปากอ้าตาค้าง นางไม่คิดเลยว่าฮองเฮาจะร่านได้ขนาดนี้ นางจ้องมองคนทั้งสองบัดเดี๋ยวทุ่มเถียงกัน บัดเดี๋ยวด่าทอกัน เพียงแต่ไม่ว่าจะทำอะไร บั้นท้ายทั้งสองยังคงบดขยี้ใส่กันไปมา ราวกับทั้งสองอดอยากมานาน
“พับ พับ พับ”
กว่าหนึ่งชั่วยาม ฉีเฟยนอนตะแคงข้างชมดูฮองเฮากำลังถูกขี่ในที่ยืนบนเตียง ยามนี้นางไม่รู้สึกอับอายแล้ว เพียงแต่นางไม่ทราบคนทั้งสองต้องการอะไรจากนาง
***
