ตำหนักที่ 3ลี่เฉิน(2)
“อุ๊บ! อือ อือ”
ลี่เฉินอยู่ดีๆ ก็รู้สึกถึงแรงกระชากจากด้านหลัง เมื่อนางหันกลับไปปากก็ถูกประกบทันที
“อือ อือ อือ”
นางดิ้นรนผลักอกหวังกงกงออก
“เพี๊ยะ เจ้าบังอาจนัก”
หวังเฟิงถูกนางตบจนหน้าหัน แต่เขายังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ พุ่งเข้าไปคว้าตัวนางมาประกบปากอีกครั้ง
“อือ อือ อือ”
ลี่เฉินพยายามขัดขืน จู่ๆ นางรู้สึกถึงลิ้นของเขาที่ดันของเหลวบางอย่างเข้ามาในปากนาง
“พระชายาท่านกินเข้าไป อย่าทำร้ายร่างกายตนเองอีกเลย”
ตอนนี้เองนางถึงรู้ว่า แท้จริงแล้วขันทีผู้นี้เพียงต้องการป้อนอาหารให้นาง น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วของนางไหลอาบแก้มอีกครั้ง
“ฮือ ฮือ ฮือ”
ลี่เฉินร้องไห้โฮ นางไม่ได้รับความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยเช่นนี้นานมากแล้ว นางฟุบเข้าไปในอ้อมกอดขันทีนั่นด้วยความเสียใจ ใบหน้านางแนบอกเขาจนน้ำตานางเปียกชื้น
“พระชายามาเถอะเราจะป้อนท่านเอง”
หวังเฟิงจูงมือนางมายังโต๊ะอาหาร เขานั่งลงบนเก้าอี้จัดให้นางนั่งหันข้างอยู่บนตักตนเอง ลี่เฉินไม่เคยถูกปรนนิบัติอย่างอ่อนโยนเช่นนี้มาก่อน
ทุกคนเคารพนางหวดกลัวนาง ทำในสิ่งที่นางต้องการยามใช้สอย เมื่อก่อนนางมีทุกสิ่งที่ต้องการ หากแต่ไม่เคยมีใครใส่ใจนางอย่างแท้จริงเช่นนี้
“รสชาติดีหรือไม่พระชายา”
หวังเฟิงค่อยๆ ใช้ช้อนป้อนอาหารจนถึงริมฝีปากนาง ลี่เฉินเคี้ยวจมหมดคำ นางกลืนอาหารลงท้อง จากนั้นจ้องใบหน้าขันทีที่นางเพิ่งรู้จักไม่นานผู้นี้
“เจ้าใช้ปากป้อนข้าอีกได้หรือไม่”
นางจ้องมองริมฝีปากบางชุ่มชื้นของเจ้าขันที หวังเฟิงเองก็ไม่คิดว่านางจะเรียกร้องเช่นนี้ เขาค่อยๆ ตักอาหารเข้าปาก เคี้ยวจนระเอียดจากนั้นใช้ปากป้อนนางราวกับมารดาป้อนอาหารบุตร
“อืมม อืมม อืมม”
หวังเฟิงๆ ถอนริมฝีปากออก เขาค่อยๆ ไล่เลียไปตามเรียวปากนาง เช็ดเศษอาหารที่ติดเปื้อนออกจนหมด
“ชอบหรือไม่พระชายา”
“อืมม ชอบ เจ้าป้อนข้าอีกสิ”
หลังจากขาดความอบอุ่นเป็นเวลานาน ยามนี้นางเพียงต้องการให้เจ้าขันทีมอบสิ่งที่ขาดหาย นางไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าเขาเป็นเพียงขันทีผู้หนึ่ง นางไม่รังเกียจเขา นางกลับชอบสายตาอ่อนโยนของเขา ใบหน้าหล่อเหลาเขา
“อืมม อืมม อืมม”
ทั้งสองประกบปากดูดกินอาหารกันไปมานานสองนาน ลี่เฉินยามนี้ตัวอ่อนระทวยบนตัก นางปล่อยให้ขันทีหนุ่มเลียริมฝีปากจนน้ำลายทั้งสองเหนียวข้น
“พระชายาเราทำให้ท่านสบายกว่านี้ดีหรือไม่”
นางเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อ นางเคยได้ยินได้ฟังเรื่องราวระหว่างขันทีกับนางกำนัลมาเยอะ
“เอาสิ”
นางอนุญาตให้เขาทำตามต้องการ หลังจากประกบปากกันเป็นเวลานาน ยามนี้นางมีอารมณ์แล้วเช่นกัน
หวังเฟิงปล่อยให้นางยืนบนพื้นเพียงครู่เดียวเขาก็จัดการเก็บกวาดอาหารบนโต๊ะจนหมด
“พระชายาท่านอนลงบนนี้”
ลี่เฉินนอนลงตามคำขอ นางถ่างขากว้างให้เขาอย่างรู้งาน ความเย็นแทรกเข้ามาในกระโปรง กางเกงชั้นในนางถูกถอนจนหมด
“อืมม อืมม อืมม”
นางครางออกมาอย่างสุขสมยามปลายลิ้นปาดชอนไชไปตามกาบหอย หวังเฟิงค่อยๆ ใช้ลิ้นดุนดันรอยแยกที่ปิดสนิทให้เปิดออก
นางให้กำเนิดบุตรีมาแล้วหนึ่งคน แต่กาบหอยสีชมพูยังคนปิดสนิท สมัยที่อยู่ตำหนักอ๋องแม้นางจะเป็นถึงชายาเอก แต่ความสัมพันธุ์สามีภรรยาไม่ได้รักกันดูดดื่มนัก นางกับท่านอ๋องพบหน้ากันทุกวัน หากแต่หลายเดือนท่านอ๋องถึงจะค้างที่ห้องนางซักครั้ง
“อืมม อืมม อืมม”
นางหลับตาพริ้ม ซึมซับความเสียวที่ไม่ได้รับมานาน ลิ้นร้ายกาจของเจ้าขันทีดุนดันติ่งเนื้อนาง บางคราฉกราวกับงู บางคราอมดูดจนเกิดเสียงดัง
“ดีมั้ยพระชายา ถูกใจท่านหรือไม่”
“อืมม ดี ดีมาก”
มือทั้งสองของนางเคลื่อนมาบีบเค้นเต้านมทั้งสองของตนเองเล่น จู่ๆ นางรู่สึกถึงบางอย่างดุนดันเข้ามาภายในรูร่อง นางคิดว่าเจ้าขันทีนั่นคงกำลังใช้นิ้วมือแทงเข้ามา นางจึงไม่ลืมตาขึ้นมอง
“อืมม อะ อ่า”
“พับ พับ พับ”
นางเด้งไปเด้งมาตามแรงกระแทก ความคับแน่นภายในรูร่องบ่งบอกว่าสิ่งที่อยู่ภายในไม่ใช่นิ้วมือ
