บท
ตั้งค่า

#9

เซี่ยหมิ่นหรานรู้สึกราวกับถูกเข็มนับหมื่นทิ่มแทงหัวใจ เจ็บปวดจนยากที่จะบรรยายออกมา

“หยวนจ้าวจง! ข้าอยู่ตรงนี้! นั่นไม่ใช่ข้า นางไม่ใช่คนรักของเจ้า!” เด็กน้อยกรีดร้องสุดเสียง ตะโกนประโยคเดียวซ้ำๆ หากแต่เสียงของนางกลับถูกกลืนหายเข้าไปในเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญของราษฎรนับพัน สุดท้ายเซี่ยหมิ่นหรานจึงหมดสติไปทั้งน้ำตา

ณ.วังเทียนป่าอ๋อง สกุลซือหม่า

“ร่างกายแข็งแรงดี ตัวไม่ร้อน ชีพจรเต้นปกติ หลิงชี่ในร่างมิได้พร่อง นางแค่เป็นลมพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเขียนเทียบยาบำรุงให้”

ชายหนุ่มชุดขาวที่กำลังยืนกอดอกพิงกรอบหน้าต่างพยักหน้ารับรู้ โดยไม่ได้ดึงสายตากลับมาจากสระบัว

จนถึงตอนนี้ ซือหม่าหลิงหลงยังไม่เข้าใจตนเอง ว่าไฉนถึงได้ตัดสินใจอุ้มหย่าโถวน้อยนางนี้กลับวังมา อาจเป็นเพราะการกระทำของนางหน้าประตูเมืองเมื่อวานคล้ายกับคนผู้นั้นกระมัง

รอให้ท่านหมอออกจากห้องไปแล้ว เขาถึงได้เปิดปาก “เรื่องที่ให้ไปสืบได้ความว่าอย่างไรบ้าง”

เหลียนตงประสานมือค้อมกายรายงาน “เด็กคนนี้แซ่ ว่าน พ่ะย่ะค่ะ นามว่า....เอ่อ” องครักษ์เหลียนชะงักไปอึดใจ ก่อนจะเอ่ยนามนั้นออกมาอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงนัก “นางมีนามว่าหมิ่นหรานพ่ะย่ะค่ะ”

นัยน์ตาสีอ่อนจางของคนฟังวูบไหวในฉับพลัน “หมิ่นหรานอย่างนั้นหรือ?”

“พ่ะย่ะค่ะ พระนามเดียวกับคนผู้นั้น ว่านหมิ่นหรานเป็นบุตรสาวที่เกิดจากหญิงชาวบ้านของว่านฝู้หม่าพ่ะย่ะค่ะ” เหลียนตงกล่าว

ซือหม่าหลิงหลงค่อยๆ หมุนตัวกลับมามองประเมินร่างบนเตียง แค่นเสียงเยาะหยันออกมาเสียงหนึ่ง เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “หึ! ช่างบังเอิญดีแท้!”

ขณะที่เซี่ยหมิ่นหรานนอนหมดสติอยู่นั้น กลับฝันถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อครั้งที่ยังเป็นพระชายา และเป็นเรื่องที่ทำให้ตนเองรู้สึกผิดมาตราบถึงทุกวันนี้

ก่อนหน้าที่เข่ออ๋องจะได้ครองราชย์ ยังมีเชื้อพระวงศ์อีกสายหนึ่งที่มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์ นั่นคือสกุลซือหม่าของเตมูไลข่าน หากไม่ใช่เพราะพระชายาเซี่ย ชาตินี้ เข่ออ๋องอย่าแม้แต่จะหวังว่าจะได้เฉียดเข้าใกล้ราชบัลลังก์ อาศัยความฉลาดเฉลียวของนาง หลอกล่ออดีตเทียนป่าอ๋องคนก่อนให้ยอมทำสัญญาประทับตาเลือด สละตำแหน่งผู้สืบทอด เข่ออ๋องถึงได้เป็นฮ่องเต้

หลังจากรู้ว่าตนพ่ายแพ้ต่อสตรีอ่อนแอบอบบาง อดีตเทียนป่าอ๋องจึงปลิดชีพตนเอง

แน่นอนว่าระหว่างสกุลซือหม่าและสกุลเซี่ยจึงถือว่ามีความแค้นล้ำลึก โดยเฉพาะซือหม่าหลิงหลงทายาทที่เหลือเพียงคนเดียว แววตาเคียดแค้นชิงชังของอดีตเทียนป่าอ๋องในความฝัน ทำให้เซี่ยหมิ่นหรานผวาตกใจตื่น

ทันทีที่นางลืมตา น้ำเสียงเย็นยะเยือกปานจะแช่แข็งผู้คนพลันดังขึ้น “ได้สติแล้วหรือ?”

ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือค่อยๆ เบือนไปมอง ครั้นเห็นว่าเป็นผู้ใด ร่างของนางรีบผุดลุกนั่งโดยพลัน

“หลิงหลง” นามของคนผู้นั้นถูกเปล่งออกจากปากโดยไม่รู้ตัว

แม้ว่าเสียงของหมิ่นหรานจะดังแผ่วเบาอยู่ในลำคอ หากแต่เจ้าของนามนั้นยังคงได้ยินอยู่ดี นัยน์ตาสีอ่อนจางจำต้องมองประเมินหย่าโถวน้อยบนเตียงอีกครา

ประหลาดแท้ ไม่เพียงมีนามคล้ายกัน ความฉลาดเฉลียวยังไม่ต่างกัน มิหนำซ้ำยังรู้จักข้า เกรงว่าเด็กคนนี้ คงไม่ธรรมดาแล้วกระมัง คิดแล้วเขาจึงลดแรงกดดันลง เอ่ยถามออกไปเสียงเรียบ “รู้จักข้าด้วยหรือ?”

หมิ่นหรานพึ่งจะรู้สึกตัว รีบเรียกสติของตนกลับมา ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ ให้ตายอย่างไร นางก็ให้คนผู้นี้ระแคะระคายไม่ได้ว่านางเป็นใคร ซือหม่าหลิงหลงผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิต มิหนำซ้ำยังเป็นศัตรูคู่แค้นของนาง หากรู้ความจริง มีหวังได้ถลกหนังนางไปทำกลองเป็นแน่

ทว่าสิ่งหนึ่งที่เซี่ยหมิ่นหรานลืมไป คือนิสัยของเทียนป่าอ๋องนั้น หากติดใจสงสัยแล้ว ไม่มีทางปล่อยผ่าน “เมื่อครู่ เจ้าพึ่งจะเอ่ยนามของข้า ข้าคงไม่ได้ฟังผิดไปกระมัง”

ได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าของหมิ่นหรานพลันชะงักงัน ในหัวเร่งคิดหาทางเอาตัวรอด ที่สุดก็คิดได้วิธีหนึ่ง

ซือหม่าหลิงหลงผู้นี้ รังเกียจที่สุดคือสตรี คงมีทางเดียวที่นางจะรอดไปได้ คิดแล้วเซี่ยหมิ่นหรานก็เอ่ยประโยคที่ทั้งชีวิตไม่เคยคิดจะเอ่ยกับเขามาก่อน “ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉันแค่ เอ่อ...” พูดแล้วนางก็แสร้งทำท่าเขินอาย ก่อนจะก้มหน้าบิดนิ้วตัวเองไปมา “หม่อมฉันแค่ชื่นชมท่านอ๋องมากไป ถึงได้ลืมตัวเอ่ยนามของท่านอ๋องออกไปตรงๆ ขายหน้าท่านอ๋องแล้วเพคะ”

“หืม?” ใบหน้าหล่อเหลาที่ไม่เคยเกิดความเปลี่ยนแปลงมาก่อน มาบัดนี้คิ้วสองข้างถึงกับเลิกขึ้นจนเห็นได้ชัด หลิงหลงไหนเลยจะคาดคิดว่าจะได้รับคำตอบไร้ยางอายเช่นนี้ จึงทำสีหน้าไม่ถูกอยู่บ้าง

ถูกหย่าโถวน้อยอัปลักษณ์นางหนึ่งบอกความในใจนี่มันเรื่องสมควรตายประเภทใดกัน!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel