เรื่องเล่าของฮองเฮาผู้วายชนม์

69.0K · จบแล้ว
ล้านปีแสง
51
บท
7.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพียงชั่วข้ามคืน จากฮองเฮาผู้สูงศักดิ์ กลายมาเป็นเด็กน้อยผู้ยากไร้ ชะตาหงส์ถูกแย่งชิง อำนาจวาสนากลับตาละปัด ร่างกายถูกครอบครองโดยวิญญาณดวงอื่น บาปกรรมนี้ ผู้ใดเป็นคนมอบให้นางกัน "ข้ายังเป็นมารดาของแผ่นดินอยู่ หรือเป็นเพียงฮองเฮาผู้วายชนม์กันแน่" ***ตัวอย่างบางช่วงบางตอน ทันทีที่นางลืมตา น้ำเสียงเย็นยะเยือกปานจะแช่แข็งผู้คนพลันดังขึ้น “ได้สติแล้วหรือ?” ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือค่อยๆ เบือนไปมอง ครั้นเห็นว่าเป็นผู้ใด ร่างของนางรีบผุดลุกนั่งโดยพลัน “หลิงหลง” นามของคนผู้นั้นถูกเปล่งออกจากปากโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าเสียงของหมิ่นหรานจะดังแผ่วเบาอยู่ในลำคอ หากแต่เจ้าของนามนั้นยังคงได้ยินอยู่ดี นัยน์ตาสีอ่อนจางจำต้องมองประเมินหย่าโถวน้อยบนเตียงอีกครา ประหลาดแท้ ไม่เพียงมีนามคล้ายกัน ความฉลาดเฉลียวยังไม่ต่างกัน มิหนำซ้ำยังรู้จักข้า เกรงว่าเด็กคนนี้ คงไม่ธรรมดาแล้วกระมัง คิดแล้วเขาจึงลดแรงกดดันลง เอ่ยถามออกไปเสียงเรียบ “รู้จักข้าด้วยหรือ?” หมิ่นหรานพึ่งจะรู้สึกตัว รีบเรียกสติของตนกลับมา ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ ให้ตายอย่างไร นางก็ให้คนผู้นี้ระแคะระคายไม่ได้ว่านางเป็นใคร ซือหม่าหลิงหลงผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิต มิหนำซ้ำยังเป็นศัตรูคู่แค้นของนาง หากรู้ความจริง มีหวังได้ถลกหนังนางไปทำกลองเป็นแน่ ทว่าสิ่งหนึ่งที่เซี่ยหมิ่นหรานลืมไป คือนิสัยของเทียนป่าอ๋องนั้น หากติดใจสงสัยแล้ว ไม่มีทางปล่อยผ่าน “เมื่อครู่ เจ้าพึ่งจะเอ่ยนามของข้า ข้าคงไม่ได้ฟังผิดไปกระมัง” ได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าของหมิ่นหรานพลันชะงักงัน ในหัวเร่งคิดหาทางเอาตัวรอด ที่สุดก็คิดได้วิธีหนึ่ง ซือหม่าหลิงหลงผู้นี้ รังเกียจที่สุดคือสตรี คงมีทางเดียวที่นางจะรอดไปได้

นิยายจีนโบราณแก้แค้นโรแมนติกนิยายรักโรแมนติกจีนโบราณฮองเฮาเกิดใหม่

#1

“ถุย! หญิงชั่วช้า ตีให้ตายก็สมควรแล้ว!”

เสียงถ่มถุย ก่นด่า สาปแช่งจากชาวบ้านในหมู่บ้านทุรกันดาร ดังขึ้นไม่ขาด ขณะยืนมองหญิงสาวนางหนึ่งถูกทุบตีเจียนตาย ไม่มีผู้ใดเหลือบแลร่างที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น

มีเพียงสะใภ้สกุลว่าน สตรีผู้ถูกกล่าวหาว่าคบชู้ พยายามกระเสือกกระสนคลานเข้าไปหาบุตรสาว ทั้งที่ตนเองมีสภาพย่ำแย่ เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลบนศีรษะถูกลากไปเป็นทาง

“หรานเอ๋อ! ลูกข้า! ช่วยลูกข้าด้วย” เสียงกรีดร้องปานจะขาดใจของนาง ฟังแล้วน่าเวทนายิ่ง ทว่ากลับไร้ผู้คนสงสารเห็นใจ

เมื่อครึ่งเค่อที่ผ่านมา สองสามีภรรยาสกุลว่าน พบเห็นลูกสะใภ้อยู่กับชายแปลกหน้า จึงลากนางมาทุบตีกลางหมู่บ้าน โทษฐานคบชู้ โดยมิคิดไต่สวนหาความจริง

บุตรสาวเห็นว่ามารดาไม่ได้รับความเป็นธรรมพยายามจะเข้ามาห้ามปราม แต่ถูกคนเป็นปู่เป็นย่าพลั้งมือตีเข้าที่ศีรษะจนเลือดอาบ สลบไสลไม่ได้สติ

ครอบครัวสกุลว่านนั้น แต่เดิมมีกันอยู่ห้าชีวิต อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนบท ฐานะค่อนข้างยากจน หาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างทำนาเลี้ยงสัตว์ ยังดีว่าบุตรชายคนเดียวของตระกูลเป็นคนฉลาดเฉลียว ร่ำเรียนจนสอบได้เป็นขุนนาง

ทว่า บุตรชายคนเดียวผู้นั้น กลับต้องการรับเพียงบิดามารดาของตนไปเสวยสุข ทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่เป็นคนหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูไว้กับบุตรสาววัยสิบสองปี ด้วยการหย่า

เมื่อลูกสะใภ้ไม่ยินยอม เรื่องคบชู้สู่ชายถึงได้บังเกิด

“ไม่!!! ลูกข้า ฮือๆ หรานเอ๋อ! หรานเอ๋อเจ้าอย่าเป็นอะไรไปนะ” เสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาของคนเป็นแม่ บาดลึกเข้าไปถึงจิตวิญญาณ ในที่สุด ก็ทำให้ร่างที่กำลังนอนสลบไสล ฟื้นคืนสติ เพียงแต่นัยน์ตาสีนิลคู่นั้น กลับไม่หลงเหลือวี่แววของความอ่อนต่อโลก

เซี่ยหมิ่นหรานนิ่วหน้า รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรงจนต้องยกมือกุมศีรษะ ก่อนจะหมดสติไปอีกครา

หนึ่งเดือนต่อมา.....

บนเส้นทางมุ่งสู่เมืองหลวงแห่งต้าหยวน ในขบวนสินค้าของเถ้าแก่เฉา ดรุณีน้อยร่างผอมบางนางหนึ่งสวมชุดเก่ามอซอนั่งห้อยขาอยู่ท้ายเกวียนเก็บของ กิริยาท่าทางดูอย่างไรก็ขัดกับฐานะคนงาน แผ่นหลังของนางตั้งตรงสง่างาม ลำคอเชิดหยิ่ง ใบหน้าสงบนิ่งไร้คลื่นอารมณ์ใด

สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดพาใบไม้ปลิดปลิวจากต้นไปตามแรงลม ฝ่ามือหยาบกร้านคว้าเอาไว้ได้ใบหนึ่ง ก่อนจะนำมาจรดริมฝีปาก เป่าเป็นเพลงทำนองเศร้าโศก

นางเป็นใครน่ะหรือ? นางคือเซี่ยหมิ่นหราน ฮองเฮาที่พึ่งได้รับการสถาปนา แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด วิญญาณถึงได้มาอยู่ในร่างนี้ ส่วนเจ้าของร่างที่มีชื่อเดียวกันคือลูกหลานสกุลว่านที่ถูกบิดาทอดทิ้ง

ตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมาในขบวนสินค้า สิ่งแรกที่ทำคือถามข่าวคราวการสิ้นพระชนม์ของฮองเฮา หากแต่ข่าวที่ได้ กลับเป็นฮองเฮาพระองค์ใหม่ มีพระเสาวนีย์ให้เปิดโรงทานแจกทานทั้งแผ่นดิน เช่นนั้นหมายความว่าอย่างไร หมายความว่าขณะที่นางอยู่ในร่างของว่านหมิ่นหราน มีวิญญาณอีกดวงหนึ่งอยู่ในร่างของนาง

เซี่ยหมิ่นหรานคือบุตรสาวคนโตของตระกูลเซี่ย เกิดจากครรภ์เซี่ยฮูหยิน มีน้องชายและน้องสาวต่างมารดาอย่างละคน แต่งเข้าตำหนักเข่ออ๋องในฐานะพระชายาอันเป็นที่รัก ตั้งแต่วัยปักปิ่น เดิมทีเข่ออ๋องเป็นโอรสที่ไม่ได้รับความโปรดปราน แต่หลังจากแต่งงานได้ห้าปี ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท และได้ขึ้นครองราชย์ในเวลาไม่ถึงสองปี จากนั้นสถาปนานางขึ้นเป็นฮองเฮาคู่บัลลังก์

ก่อนจะตื่นมาในร่างนี้ นางจำได้เพียงว่าตนเองกำลังนั่งจิบสุราในงานเฉลิมฉลองพิธีสถาปนาฮองเฮา สวมฉลองพระองค์ประจำตำแหน่ง นั่งอยู่ข้างกายฮ่องเต้อย่างสง่าผ่าเผย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาตื่นในร่างนี้ได้อย่างไร

สิ่งแรกที่เซี่ยหมิ่นหรานคิดถึงย่อมต้องเป็นบุตรชายและบุตรสาวทั้งสองของตน ไม่รู้ว่าวิญญาณที่สิงสู่อยู่ในร่างของนาง จะทำอย่างไรกับพวกเขาบ้าง เรื่องนี้ไม่อาจรั้งรอ นางต้องหาทางเข้าเฝ้าฮ่องเต้ให้เร็วที่สุด มีเพียงคนที่รักมั่นต่อนางสุดหัวใจเท่านั้น ถึงจะเชื่อคำพูดของนาง เซี่ยหมิ่นหรานมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าหยวนจ้าวจงต้องหาทางช่วยนางได้แน่

ในอดีตนั้น นางกับเข่ออ๋องมีใจรักมั่นต่อกันอย่างลึกซึ้ง ตอนที่นางอายุสิบสาม หลังจากช่วยชีวิตของเขา พวกเราหมั้นหมายกัน และแต่งงานในเวลาต่อมา ยามนั้น เข่ออ๋องเป็นเพียงโอรสนอกสายตาที่อดีตฮ่องเต้มิทรงโปรดปราน เพราะมารดาของเขาเป็นเพียงนางกำนัลข้างห้องของฮองเฮา เมื่อฮองเฮาสูญเสียโอรสของตนไป ถึงได้หันมาสนับสนุนเข่ออ๋องขึ้นเป็นองค์รัชทายาท อันที่จริงลำพังแค่ฮองเฮาคงทำไม่ได้ แต่เพราะมีตระกูลทหารอย่างตระกูลเซี่ยคอยสนับสนุน

นางกับเขาฟันฝ่าอุปสรรคนานับประการ กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทว่านางยังไม่ทันได้เสวยสุข กลับต้องมาเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ผู้ใดบ้างจะทำใจยอมรับได้

ร่างกายถูกขโมย วาสนาถูกสับเปลี่ยน ชะตาชีวิตถูกแย่งชิง เกรงว่า ตายทั้งเป็น ยังเบาเกินไป

เสียงเป่าใบไม้ ยิ่งฟัง ท่วงทำนองยิ่งเศร้าโศก

หลายวันต่อมา....

ต้าตู เมืองหลวงแห่งต้าหยวน

เมืองต้าตูแตกต่างจากเมืองทุรกันดาลอย่างเมืองกัวตูสิ้นเชิง ผู้คนพลุกพล่าน สัญจรไปมาไม่เคยขาด ข้างทางยังมีร้านค้าแผงลอยตั้งไปจนตลอดสาย พ่อค้าหาบเร่เดินกันขวักไขว่ บนถนนยังมีทั้งรถม้ามีทั้งคนขี่ม้าผ่านไปผ่านมา

หน้าประตูเมือง หลังจากที่ขบวนสินค้าสองขบวนแรกเคลื่อนผ่านเข้าไป ขบวนของเถ้าแก่เฉาถึงได้ทยอยเข้ามาหยุดให้ทหารทำการตรวจค้น ทว่า ยังไม่ทันที่ทหารจะค้นเสร็จ กลับมีมือปราบราวยี่สิบคนกรูกันเข้ามา