บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 คุณหนูที่แท้จริง

หลังจากเหล่าหนานได้สติกลับมาก็จำเรื่องอะไรไม่ค่อยได้ รู้เพียงได้ปลดปล่อยจากปากของคุณหนูจวนเสนาบดี พอเสร็จกิจก็รีบจากไปเช่นเคย

พ้นหลังพ่อบ้าน ฉงเซิ่งก็ย่างนกหอมกรุ่นกินกับกว้านจินซูจนอิ่ม จากนั้นก็ทำลายหลักฐานจนเกลี้ยง นี่ถือเป็นอาหารมื้อแรกที่อร่อยที่สุดในชีวิตของจินซูเลยก็ว่าได้

เพราะพ่อบ้านไม่ได้เตรียมเครื่องนอนมาให้ หลังจากหาบน้ำที่บ่อมาชำระล้างร่างกาย สองนายบ่าวก็ต้องนอนเตียงเดียวกัน ห่มด้วยผ้าผืนบางทั้งเก่าทั้งขาด

"ขอบใจมากนะฉงเซิ่ง"

"คุณหนูท่านอย่าได้คิดมาก ตอนนี้มีแค่เราสองคนแล้ว ข้ารับรองไม่เพียงพวกเราจะผ่านช่วงนี้ไปได้ แต่ต่อไปจะต้องยิ่งใหญ่จนมีแต่ผู้คนก้มหัว แค่ท่านเชื่อข้า"

"ข้าเชื่อเจ้า"

"เอาล่ะ พักผ่อนเถิด พวกเราสมควรนอนเอาแรงไว้ แล้วพรุ่งนี้ข้าจะเริ่มสอนท่านทุกอย่าง"

เด็กทั้งสองหลับไปอย่างง่ายดาย เพราะได้ความอบอุ่นจากร่างกายซึ่งกันและกัน ทำให้ไม่ต้องนอนหนาวจนเกินไป

ฟ้ายังไม่ทันสว่าง ฉงเซิ่งก็ลุกออกจากเตียงด้วยความเคยชิน เมื่อตอนอยู่กับบิดา มีสูตรยาหลายสูตรที่ต้องใช้น้ำค้างในยามนี้ รวมทั้งดอกไม้บางชนิดก็ด้วย

และก็ถือเป็นโชคดี ดอกไม้ที่ฉงเซิ่งต้องการ มีอยู่ในจวนเสนาบดีแทบจะทุกอย่าง เด็กน้อยถูไม้ถูมือลุกลงจากเตียง

"สงสัยต้องปรุงยาธาตุร้อนไว้กินก่อนจะดีกว่า ไม่งั้นต้องหนาวตายแน่ ๆ"

เด็กน้อยก้าวฝ่าความมืดออกจากเรือนพร้อมกับกาน้ำชาเก่า ๆ ที่ถูกรินน้ำออกจนหมด และเศษผ้าผืนกว้างพอประมาณที่ฉีกออกมาจากชุดเก่าของจินซู

พักใหญ่กว่าร่างผอมแห้งราวซากศพจะกลับมา เจ้าตัวไม่เพียงแค่ไปเก็บดอกไม้และน้ำค้าง แต่ยังเลยเข้าครัวไปขโมยของกินมามากมาย

พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นจินซูนั่งรอบนเตียงอยู่ก่อนแล้ว

"ขะ..ข้านึกว่าเจ้าจะทิ้งข้าไปเหมือนพี่หรู" เด็กหญิงบนเตียงเอ่ยออกมาด้วยเสียงอันสั่นเทา

"สาวใช้ของท่านน่ะหรือ เหตุใดนางถึงตาย"

"ใช่ พี่หรูคือสาวใช้ที่ยอมพลีกายให้พ่อบ้านเหล่าเพื่อให้ข้าได้มีอยู่มีกิน แต่ต้องมาตกตายเพราะความวิตถารของคนผู้นั้น เหล่าหนานลากนางไปย่ำยีบนพื้นหิมะอันหนาวเย็น จนกระทั่งนางสิ้นใจตาย"

ยิ่งเอ่ยถึงการตายอันน่าอนาถของสาวใช้ผู้ภักดี จินซูจำต้องกัดฟัน กลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา

หลังจากฟังเรื่องชั่ว ๆ ของพ่อบ้าน แววตาของฉงเซิ่งก็ปรากฏไอสังหารขึ้นจาง ๆ ข้าคงต้องสืบเรื่องราวในจวนแห่งนี้ให้ละเอียดเสียแล้ว

"ท่านอย่าได้คิดมากเลย ผู้ใดก่อกรรมไว้เช่นไร ไม่จำเป็นต้องรอให้สวรรค์ลงโทษหรอก" ข้าจะลงทัณฑ์พวกมันเอง คำหลังนี้ฉงเซิ่งพูดกับตัวเองในใจ

"คุณหนูท่านดูว่าข้าได้อะไรมา" สาวใช้ตัวน้อยเปิดห่อผ้าออก ในนั้นนอกจากดอกไม้แล้วยังมีทั้งผลไม้และขนมมากมาย

"โหวววว ฉงเซิ่งเจ้าไปเอามันมาจากที่ใดกัน?" จินซูตาลุก เอื้อมมือไปหยิบผลไม้ขึ้นมา ใช้มือลูบไล้มันเบา ๆ ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า เพราะนางไม่เคยได้ลิ้มรสมันมาก่อนเลย

"ขโมยมา"

น้ำเสียงเฉื่อยชาของอีกฝ่าย ทำเอาจินซูถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ

"ดะ..ได้เหรอ? ทำเช่นนั้นก็ได้ด้วยเหรอ?"

"ได้สิ ถ้าทำเพื่อความอยู่รอด ไว้วันหลังข้าจะสอนให้"

"ดีจริง เวลาข้าหิว ข้าจะได้ขโมยมาให้หมดเลย"

"ไม่ แค่ขโมยของกินมันจะไปพออะไร ต้องขโมยของที่เป็นสมบัติของท่านกลับมาด้วยต่างหากเล่าถึงจะดี"

สมบัติที่ฉงเซิ่งหมายถึง คือสินเดิมของมารดาจินซู ที่สมควรจะมีอยู่ไม่น้อยตามที่ฟังจากฐานะที่นางเล่า และมันสมควรจะตกอยู่กับจินซูในเวลานี้ด้วย

"เอาล่ะ วันนี้ข้าจะสอนท่านถึงการเป็นบุตรีในภรรยาเอกของจวนเสนาบดีก่อนเป็นอันดับแรก ท่านจะต้องเป็นคุณหนูที่แท้จริง"

วันนี้ถือว่าโชคดีที่พ่อบ้านไม่ได้มาเยือนจวนหลังเล็ก หลังจากสอนการวางตัวการพูดจา ท่าทางการเดินของชนชั้นสูงให้แก่จินซูแล้ว ก็ปล่อยให้นางเริ่มฝึกฝนมันด้วยตัวเอง

ส่วนฉงเซิ่งออกไปเดินสำรวจและสืบเรื่องราวภายในจวน ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นเด็กผอมแห้งที่เดินไปเดินมาจนทั่วจวนเลยสักคน

ไม่ว่าเรื่องอะไรที่บ่าวไพร่ ตลอดจนเจ้านายพูดคุยกัน ฉงเซิ่งล้วนได้ยินได้ฟังจนหมด ความเก่งกาจในด้านนี้ต้องยกความดีความชอบให้องค์ชายสาม ที่ฝึกฝนนางมาเป็นอย่างดี เพื่อรับหน้าที่สายลับในชาติที่แล้ว

และที่ทำให้เด็กน้อยดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ คือเรื่องของฮูหยินใหญ่ ที่แต่งเข้ามาหลังจากมารดาของจินซูเสียไป องค์หญิงใหญ่ พี่สาวร่วมอุทธรณ์ขององค์ชายสาม

"หึหึ" รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏบนใบหน้าของฉงเซิ่ง จากแต่เดิมที่ใบหน้าน่าเกลียดน่ากลัวอยู่แล้ว ยิ่งทำให้แลดูน่าหวาดกลัวเข้าไปใหญ่

ในอดีต นางถูกองค์หญิงใหญ่ทำร้ายมานับครั้งไม่ถ้วน เพราะเรื่องขององค์ชายสาม และถ้าให้เดาที่มารดาของจินซูประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้ ก็น่าจะเป็นฝีมือขององค์หญิงชั่วผู้นี้ด้วย

ตอนนี้ ข้าก็มีทั้งพ่อบ้านมักมากและองค์หญิงร่าน ดีจริง ๆ ข้าจะใช้พวกเจ้าสองคนสอนบทเรียนวาบหวิวให้จินซู ฉงเซิ่งคิดถึงแผนการของตนอย่างนึกสนุก

ฉงเซิ่งสืบได้ความหลายเรื่องเกี่ยวกับจวนเสนาบดี กว้านกงเผย มียศขุนนางขั้นหนึ่ง ตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายซ้าย มีอำนาจควบคุมสี่กรมกองของฝ่ายบุ๋นทั้งหมด และถือเป็นเสนาบดีที่ทั้งหล่อเหลาและอายุน้อยที่สุดด้วย

หากจะกล่าวให้ถูก จะต้องบอกว่า ที่กว้านกงเผยก้าวหน้าเช่นทุกวันนี้ เพราะมีแม่ทัพใหญ่ที่เป็นพ่อตาคอยส่งเสริม ไต่เต้าจากตำแหน่งเล็ก ๆ จนกระทั่งได้เลื่อนเป็นขุนนางขั้นหนึ่ง

เมื่อแม่ทัพชราปลดระวางตนเอง วางมือจากการศึกใช้ชีวิตยามแก่เฒ่าเยี่ยงคนธรรมดา ทำให้กว้านกงเผยเริ่มรับอนุเข้ามามากมาย และยังกล้าลงมือกับภรรยาเอก แต่ก็ยังต้องแอบทำอย่างลับ ๆ เพราะถึงอย่างไรก็ยังเกรงบารมีเก่าของพ่อตาอยู่ดี

จึงปล่อยข่าวว่ากว้านฮูหยินเป็นโรคติดต่อร้ายแรง จำต้องพำนักห่างไกลผู้คน บุตรสาวเพียงคนเดียวก็ติดโรคด้วย และนั่นเป็นสาเหตุให้ชีวิตของจินซูไม่ต่างจากถูกขังลืมให้อยู่แต่ภายในเรือนหลังเล็ก เพราะเกรงว่าพ่อตาซึ่งเป็นอดีตแม่ทัพจะรู้ความจริง

หลังจากกว้านฮูหยินจากไปเพียงเดือนเดียว กว้านกงเผยก็ได้พ่วงตำแหน่งราชบุตรเขยโดยการอภิเษกกับองค์หญิงใหญ่

ฉงเซิ่งทบทวนเรื่องราวและแผนการของตนเองอย่างละเอียดอีกครั้ง

"คุณหนู ข้าจะออกนอกเมืองสักสองสามวัน ท่านอยู่คนเดียว ต้องดูแลตัวเองให้ดี จำที่ข้าสอนได้หรือไม่"

"ได้ ข้าจำได้"

ฉงเซิ่งจำต้องเข้าป่าหาสมุนไพร ก่อนจะไปได้สอนให้จินซูรู้จักวิธีใช้พิษหลอนปราสาทที่ทำขึ้นจากเชื้อเห็ดผสมกับพืชบางอย่าง เพื่อไว้ใช้กับพ่อบ้านเหล่าเอาไว้

เด็กน้อยเข้าออกจวนโดยใช้เส้นทางในป่ารกหลังจวน โดยไร้ผู้คนสงสัย

จนกระทั่งสามวันผ่านไปฉงเซิ่งถึงได้กลับมา พร้อมกับหอบของพลุงพลังมาเต็มบ่า

ส่วนทางด้านจินซูก็ทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ตลอดสามวันที่ฉงเซิ่งไม่อยู่ พ่อบ้านชั่วผู้นั้นไม่ได้แตะนางแม้แต่เส้นผม

"เจ้ากลับมาแล้ว ข้าเป็นห่วงแทบแย่" จินซูรีบวิ่งเข้าไปหาร่างผอมแห้งที่แบกห่อผ้าขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็วช่วยพยุงห่อผ้าไม่ให้อีกคนต้องรับน้ำหนักมากเกินไป

"แฮ่ก ๆ ข้าไม่เป็นอะไร แล้วท่านล่ะ เป็นเช่นไรบ้าง" น้ำถูกเทใส่จอกก่อนที่จินซูจะยื่นไปให้ฉงเซิ่ง หลังจากที่เด็กน้อยวางห่อผ้าลงแล้ว

"ข้าเองก็ไม่เป็นอะไร พ่อบ้านเหล่าถูกข้าวางยาทุกครั้งที่มาที่นี่ ข้าทำตามที่เจ้าบอกทุกอย่าง"

"ดี! พรุ่งนี้ข้ามีบทเรียนใหม่ให้ท่านได้เรียนรู้" ฉงเซิ่งยกยิ้มชั่วร้าย แววตาทอประกายสังหารจาง ๆ

ในห่อผ้ามีหม้อดินอยู่หลายขนาด เป็นหม้อดินที่ฉงเซิ่งทำขึ้นมาเองกับมือ พอตกกลางคืนเด็กน้อยก็เข้าไปในป่าหลังเรือนเพื่อแอบไปปรุงยา จนกระทั่งฟ้าใกล้สางถึงได้กลับเข้ามาในเรือน

ฉงเซิ่งวางหม้อดินใบเล็กเท่าฝ่ามือปิดด้วยผ้ารัดปากอย่างแน่นหนาด้วยความพอใจ

"นั่นอะไรหรือ"

"ยาที่ข้าปรุงเอง"

"มันใช้ทำอะไร?"

"หึหึ เดี๋ยวท่านก็จะได้รู้"

ตามการคาดเดาของฉงเซิ่ง พ่อบ้านชั่วผู้นั้นคงทำงานให้องค์หญิงใหญ่ และน่าจะเป็นผู้ลงมือวางแผนใส่ร้ายมารดาของจินซู

หลังจากกลับมาได้ไม่นาน ร่างผอมแห้งราวซากศพก็ไปเดินป้วนเปี้ยนในจวนอีกครั้ง ครั้งนี้นอกจากสืบข่าวแล้วยังขโมยชุดหมึก พร้อมกับกระดาษกับพู่กันมาด้วย

หนึ่งเพื่อเขียนจดหมายหลอกพ่อบ้านและองค์หญิงใหญ่ให้มาพบกันที่เรือนเล็กท้ายจวน และอีกหนึ่งก็คือจดหมายสำหรับเสนาบดีกว้าน และฉบับสุดท้าย นี่ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะจะถูกส่งไปยังจวนของท่านโหว

องค์หญิงใหญ่ หาใช่สตรีดีงามอันใด นางก็แค่หญิงร่านผู้หนึ่ง ทั้งอารมณ์ร้าย ชอบทุบตีบ่าวไพร่ และยังมีความลับใหญ่หลวงที่ไน่เอ๋อนางโลมผู้สิ้นชีพเป็นผู้กุมมันเอาไว้

และเวลานี้ ก็ถึงคราวต้องใช้มันเสียที เรื่องคาวโลกีย์ระหว่างพี่สาวและน้องชายที่ไน่เอ๋อบังเอิญไปเห็นกับตา จนเป็นเหตุให้องค์หญิงใหญ่พยายามจะสังหารนางหลายครั้งด้วยความหึงหวงและต้องการปิดปาก

ข้อความในจดหมายสำหรับองค์หญิงใหญ่ มีเพียงประโยคสั้นๆ เท่านั้น พี่ใหญ่ท่านช่างใช้ปากได้เก่งยิ่งนัก เรือนเล็กท้ายจวน

ส่วนจดหมายของพ่อบ้าน ก็ไม่ต่างกัน ท่านโหวรู้เรื่องของกว้านจินซูแล้ว

ท่านโหว ที่ฉงเซิ่งหมายถึงในจดหมายก็คือท่านตาของจินซู ที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากฮ่องเต้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าโหวเหยรู้ความจริงทุกเรื่องที่พ่อบ้านกระทำกับหลานสาว เกรงว่าเหล่าหนานคงต้องตายอย่างอนาถเป็นแน่

ฉงเซิ่งให้จินซูดื่มยาแก้พิษ ก่อนที่ทั้งคู่จะแอบซ่อนอยู่ใต้เตียง เพื่อเฝ้ารอแขกที่กำลังจะมา

แล้วก็เป็นไปตามที่คาด เพียงไม่นานหลังจากจดหมายถูกส่งออกไป ก็มีสตรีอายุราวยี่สิบปลาย ๆ ใบหน้าไม่ถึงกับงดงามแต่งกายด้วยชุดสีแดงหรูหรา รีบก้าวเข้ามาในเรือนเป็นคนแรก ท่าทางจะร้อนใจไม่น้อย ถึงได้ไม่ทันสังเกตหม้อดินลูกเท่าฝ่ามือที่วางอยู่บนโต๊ะ

เด็กน้อยใต้เตียงกระตุกเส้นด้ายเบา ๆ ผ้าที่ปิดปากหม้อก็ถูกเปิดออกอย่างไร้สุ้มไร้เสียง ข้างในมีเศษผ้าใช้แทนไส้ตะเกียงถูกจุดอยู่ กลิ่นหอมเริ่มโชยคลุ้งไปทั่วห้อง

"อื้ออ ซี๊ดดด ร้อนยิ่งนัก อ่าาส์"

หลังจากได้ยินเสียงครางกระเส่า ฉงเซิ่งและจินซูที่แอบอยู่ใต้เตียงก็เห็นผ้าสีแดงร่วงลงมากองกับพื้นทีละชิ้น จนกระทั่งเสื้อสับใน และผ้าสามเหลี่ยมเป็นชิ้นสุดท้าย ไม่ต้องมองเห็นก็รู้ว่าตอนนี้ องค์หญิงใหญ่กำลังเปลือยกาย

"อื้อออ"

พลั่ก........

เสียงประตูกระแทก คล้ายถูกผลักเข้ามาอย่างแรง

"อ่ะ..อ่ะ..องค์..องค์หญิง" และแน่นอน จะเป็นฝีมือผู้ใดไปไม่ได้ นอกเสียจากพ่อบ้านชั่วช้า จอมมักมาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel