บท
ตั้งค่า

บทที่ 11 เจ้าของบ้านคนใหม่

สาเหตุของการมาเยือนบ้านสวนย่าน้อย มาจากโทรศัพท์เมื่อคืน หงสาจะซื้อบ้านให้ใครหรือใครติดต่อหล่อนให้เป็นนายหน้าอีกที เขายอมรับว่าอยากขายบ้านให้เร็วที่สุด เขากำลังเดือดร้อนเรื่องเงินหมุนเวียนในบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เงินกู้จากธนาคารกำลังครบกำหนดจ่ายดอกเบี้ย พนักงานในบริษัทไม่ได้เงินเดือน 2 เดือนติดต่อกัน หากเดือนที่ 3 ไม่จ่ายเงินเดือน บริษัทของเขาล่มอย่างแน่นอนและอาจถูกฟ้องล้มละลายก็ได้

เขาอยากขายบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะขายได้ หงสาเหมือนนางฟ้ามาให้ความหวัง ถ้าขายได้เขาจะซื้อที่ดินข้างสวนย่าน้อย เขาอยากย้ายมาอยู่นอกเมืองแต่ลูกสาวของเขาคงไม่อยากมาอยู่ชานเมืองและเพราะลูกทำให้เขาลำบากใจ ไม่กล้าบอกลูกสาวที่กำลังเรียนปริญญาเอกว่า เขาไม่มีเงินส่งลูกต่อแล้ว ให้ลูกกลับมาช่วยเขาทำงาน

บุษบาห้ามเขาบอกลูก ไม่อยากเห็นลูกเสียใจซึ่งจิราพรยอมรับความผิดหวัง ความจน ไม่ได้ บุษบาเลี้ยงลูกสุขสบายเกินไป เขาตามใจลูกทุกอย่าง ซื้อรถนำเข้าราคาสิบล้านกว่า คอนโดมิเนียมสุดหรูให้อยู่ตามลำพังขณะเรียนปริญญาตรีที่เมืองไทยและไปเรียนต่อปริญญาโทกับปริญญาเอก เหลืออีกปีเดียวจะได้เป็นด็อกเตอร์ ถ้าความฝันของจิราพรพังกลางครัน หล่อนไม่ยอมรับแน่นอน เขาจะทำอย่างไรนอกจากขายบ้านให้ได้ก่อนจิราพรจะกลับเมืองไทย ต้องส่งเงินให้หล่อนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเช่นเดิม

นวลน้อยเก็บความสงสัยไว้มิดชิดขณะรับประทานอาหารกลางวันกับแขกพิเศษ หล่อนจะรอถามเหลนสาว ต้องได้คำตอบจากหงสา ทำไมจึงคิดจะซื้อเรือนไทยโบราณที่เจ้าของอยู่ไม่ได้ต้องประกาศขาย บ้านหลังนี้เปลี่ยนเจ้าของบ้านมาแล้ว 3 ราย จิรเมธเป็นรายที่ 4 ต่อไปจะเป็นใคร หงสาอย่างนั้นหรือ หงสาเอาเงินมาจากไหนมากมาย สิรภพไม่มีเงินมากพอจะซื้อบ้านให้ลูกสาวอยู่ ถ้าอย่างนั้น หงสานัดพบจิรเมธทำไม

“พ่อเมธ หนูบุษ ฉันถามพวกเธอตรงๆ นะ ทำไมจึงขายบ้าน ขายถูกมากด้วย”

นวลน้อยเอ่ยขึ้นเมื่อเดินนำจิรเมธไปนั่งแคร่ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน ส้มป่อยชงกาแฟเสิร์ฟแขกหลังอาหารมื้อเที่ยง

“เป็นอย่างที่ผมเคยเล่าให้ย่าน้อยฟังนั่นแหละครับ ผมกับบุษเห็นวิญญาณตามหลอนทุกห้องในบ้าน ผมนอนสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะมีมือดึงขาผม ตอนแรกก็คิดว่าฝันไป แต่ไม่ใช่แล้วครับ บุษก็ถูกดึงจนตกเตียง”

“ไม่แค่ดึงขานะคะย่าน้อย หัวเราะใส่หู ไล่พวกเรา คนรับใช้ก็ถูกไล่ พวกนั้นจะลาออกถ้าเราไม่ย้ายที่อยู่ เฮี้ยนมากค่ะย่าน้อย”

“คนก่อนๆ ก็เล่าเหมือนที่เธอเล่านี่แหละ ฉันอยากไปดูบ้านหลังนั้น มีอะไรผิดแปลกไปหรือเปล่า มีคนคอยแกล้งหรือเปล่า”

“ไม่มีใครแกล้งหรอกครับย่าน้อย ใครจะมาแกล้งกลางดึกครับ บ้านปิดประตูลงกลอนแน่น ไม่มีใครเข้ามาได้หรอกครับ”

“ย่าน้อยจะไปดูหรือคะ”

“อยากไป แต่ให้หลานฉันมาก่อนก็แล้วกัน ไอ้หงส์มันจะพาใครมาซื้อ ฉันงงกับไอ้เหลนคนนี้จริงๆ แล้วนี่มันจะมาพบเธอสองคนมั้ย”

นวลน้อยหาคำตอบไม่ได้ คิดหลายทางก็คิดไม่ออก หงสาจะพาใครมาซื้อบ้าน กำลังสับสนกับความคิดของตนเอง รถสีคุ้นตาและทะเบียนจำได้แม่นยำก็แล่นผ่านประตูรั้วไม้ซึ่งเปิดอยู่เข้ามาจอดข้างรถจิรเมธ

“พูดถึงก็มาพอดี มันอายุยืนจริงๆ ไอ้เหลนคนนี้”

คนขับรถเปิดประตูก้าวลงมา คนนั่งข้างคนขับเปิดก้าวตามมา วลัยพรรณกับหงสาเดินยิ้มตามกันเข้ามาหานวลน้อย

“สวัสดีค่ะย่าน้อย คิดถึงจังเลยค่ะ สวัสดีค่ะคุณจิรเมธ คุณบุษบา หนูเรียกชื่อถูกมั้ยคะ”

หงสากอดนวลน้อย หอมแก้มซ้ายขวาให้คนแก่ยิ้มขำๆ วลัยพรรณไหว้น้าสาวของสามีแล้วนั่งใกล้ๆ กัน หงสาไหว้ทักทายจิรเมธกับบุษบา นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนเห็นหน้าเจ้าของบ้านทรงไทย ก่อนหน้านี้หล่อนเห็นในอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ไปนัดจิรเมธกลางดึก

“ใช่ครับ คุณหงส์นัดผมมาที่นี่ รู้จักเบอร์โทรศัพท์ผมได้อย่างไรครับ”

“รู้จักในเน็ตค่ะแต่เบอร์โทรก็จดไปค่ะ อาทิตย์ก่อนหนูมาบ้านย่าน้อยเห็นค่ะก็เลยโทรหา”

“อ๋อ ครับ คุณหงส์จะซื้อบ้านหรือครับ”

“เปล่าค่ะ มีคนจะซื้อค่ะ คุณจิรเมธกับคุณบุษบาจะขายเท่าไหร่คะ สิบล้านอย่างที่ติดป้ายไว้หรือเปล่าคะ”

“ครับ”

“ถ้างั้นหนูให้คุณจิรเมธห้าสิบล้านค่ะที่เหลือหนูขอได้มั้ยคะ”

“ใครจะกล้ามาอยู่คะคุณหงส์”

บุษบาถามทันที จำนวนเงินที่หงสาบอกเกินความคาดหมายที่หล่อนกับสามีต้องการ ข่าวลือบ้านผีสิงดังทั่วทั้งซอย ใครผ่านก็เมินหน้าหนีไม่กล้ามอง หงสาหาคนมาซื้อบ้านได้อย่างไรให้ราคาดีจนหล่อนเก็บอาการดีใจไว้ไม่ไหวต้องรีบถามกลัวหงสาจะเปลี่ยนใจกับราคาที่เสนอให้หล่อน

“มีคนอยากได้บ้านหลังนี้ค่ะ หนูถึงรีบนัดคุณก่อน ตกลงตามที่หนูบอกนะคะ หนูจะพาเขามาดูบ้านพรุ่งนี้ค่ะ”

“ขอบคุณมากคุณหงส์ ขอบคุณจริงๆ ครับ”

จิรเมธต่อลมหายใจของบริษัทเขาได้แล้ว ลูกสาวของเขาต้องเรียนจบตามที่ลูกหวังไว้ เขาหันมายิ้มกับภรรยา หงสาเป็นนางฟ้ามาจากไหนกันจึงช่วยแก้สถานการณ์ล้มละลายของเขาได้แบบเฉียบพลันอย่างนี้

“ไม่ต้องขอบคุณหนูหรอกค่ะ หนูได้ค่านายหน้าแล้วค่ะ หนูต้องขอบคุณคุณจิรเมธกับคุณบุษบามากกว่าที่ติดประกาศขายบ้านให้หนูเห็น”

“เรียกผมเมธก็ได้ครับ”

“ใช่ค่ะ เรียกฉันบุษก็ได้ ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มหรอกค่ะ ฉันขอบคุณคุณหงส์มากๆ ที่ช่วยเรา”

“ถ้าจะให้หนูเรียกคุณเมธกับคุณบุษ คุณเมธกับคุณบุษต้องเรียกหงส์ค่ะ”

“ได้ค่ะ”

สองสามีภรรยายิ้มมากขึ้น หงสาเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่น่ารักมากในสายตาของพวกเขา ความสวยใส สะอาดตาของหล่อนเพิ่มความน่ามองแทบไม่อยากละสายตาจากรอยยิ้มและใบหน้าเกลี้ยงเกลานั้น

“พรรณถามก็ไม่บอกว่าใครจะซื้อ พรุ่งนี้จะพามาที่นี่ค่ะย่าน้อย”

วลัยพรรณมองหน้านวลน้อย สายตาจับนิ่งอยู่ที่ใบหน้าหงสาของผู้สูงวัย อยากรู้ความลับของหญิงสาว ไม่อยากรอให้ถึงวันพรุ่งนี้ หล่อนจึงหาคำพูดให้นวลน้อยเค้นความลับจากหงสาเดี๋ยวนี้

“ทำไมต้องพรุ่งนี้ด้วยล่ะไอ้หงส์ ย่าอยากรู้เดี๋ยวนี้นี่นา บอกย่าคนเดียวก็ได้ ย่าไม่บอกใครหรอก พ่อเมธ หนูบุษ แม่พรรณ ยายส้ม ย่าไม่บอกหรอก ย่าจะรูดซิปปากให้สนิทแน่นเลย บอกย่ามาเถอะ”

“ไม่ได้ค่ะย่าน้อย ความลับจะเป็นความลับต่อไปค่ะ แต่ก่อนจะถึงพรุ่งนี้ วันนี้คุณเมธกับคุณบุษพาหนูไปดูบ้านก่อนได้มั้ยคะอยากเห็นค่ะ”

“ได้ค่ะ แต่น้าไม่เข้าบ้านด้วยนะคะ น้ากลัว”

บุษบาเปลี่ยนเรียกตัวเองว่าฉันเป็นน้ากับหงสา ความสนใจของหญิงสาวไม่ใช่คำแทนตัวเองของบุษบาแต่เป็นคำว่า น้ากลัว บ้านหลังสวยน่ากลัวมากถึงเพียงนี้ทีเดียวหรือ จิรเมธยิ้มแหย เขาไม่อยากเข้าไปเช่นกัน ไม่อยากแม้จะก้าวผ่านประตูรั้วไม้แกะสลักลวดลายเถาไม้ดอกงดงามนั่น ความน่าสะพรึงกลัวไม่หลงเหลือความสวยของตัวบ้านให้ตื่นเต้นอีกเลย

“กลัวอะไรหรือคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel