บทที่ 10 ย่าน้อย
กล้าตอบแทนหงสา อรรียายิ้มอย่างเข้าใจ เขากำลังเตือนหล่อนเรื่องมารยาท หล่อนกำลังก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของนิศรากับหงสา หล่อนไม่มีเจตนาจะอวดตัวเป็นคนร่ำรวยแต่อยากเลี้ยงน้องๆ ลูกน้องของเขาเท่านั้นเองแต่นิศราไม่ใช่ลูกน้องเขา หล่อนลืมตรงนี้
“โอ.เค.ค่ะ หงส์ฉันขอโทษนะ นิศด้วย พวกเธออยากกินกันสนุกๆ ฉันก็ยุ่งไม่เข้าเรื่องใช่มั้ยหงส์”
“เปล่าค่ะ ไม่ได้คิดอย่างนั้นค่ะ ไอ้นิศเกรงใจคุณอรค่ะไม่อยากรบกวน”
“ฉันยุ่งนี่นะ”
หญิงสาวลูกพ่อเลี้ยงทางเหนือหัวเราะ กล้ายิ้มขำหล่อนอีกที หล่อนปรับตัวง่ายและขอโทษก่อนทุกครั้งถ้าหล่อนรู้ตัวว่าทำผิดต่ออีกฝ่าย เขารักหล่อนมากขึ้นทุกวัน
อรรียาสังเกตความเป็นกันเองของกล้ากับลูกน้องและสังเกตหงสา หล่อนไม่ใช่คนสวยระดับประเทศแต่หล่อนสวย น่ารัก ไม่แต่งหน้ายังดูดี หล่อนคิดถึงน้องชาย อยากให้น้องชายรู้จักหงสาและถ้าหงสาไม่มีคนรัก หล่อนจะจองหญิงสาวคนนี้ให้น้องชายแต่ความคิดต้องหยุดลงกะทันหันเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือของหล่อนดังขึ้น
จิรเมธ ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านนวลน้อยซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในซอยทางเข้าบ้านของเขา หนุ่มใหญ่เคยเข้ามาพบนวลน้อยครั้งหนึ่งเมื่อย้ายมาพักอาศัยที่เรือนไทยหลังสวย เขาทำความรู้จักกับคนในซอยเพียงคนเดียว นวลน้อยต้อนรับด้วยรอยยิ้มแห่งมิตร
อยู่เรือนไทยไม่ถึง 3 เดือนเขาต้องย้ายออกอย่างเร่งด่วนและปิดประกาศขายบ้านพร้อมที่ดินโดยไม่เสียดายความงดงาม ความร่มรื่นที่มีรอบบริเวณบ้านหลังนี้และนับจากวันที่ย้ายออกไป เขาไม่ย้อนกลับมาดูบ้านอีกเลยกระทั่งวันนี้ เขาไม่แวะบ้านที่เคยอยู่แต่เลยมาบ้านนวลน้อย
ผู้สูงวัยเพ่งมองรถเก๋งคันหรูสีดำ คลานเข้ามาจอดใต้ต้นมะม่วงต้นใหญ่หน้าบ้าน สาวใหญ่นั่งบนแคร่ไม้ไผ่ใต้หลังคาระเบียงหน้าบ้านกระซิบเบาๆ
“คุณเมธค่ะย่าน้อย หายหน้าไปเสียนาน”
“อือ คงมาดูบ้าน”
นวลน้อยเห็นคล้อยกับคำพูดของส้มป่อยแม่บ้านคนสนิทที่เคยช่วยเหลือกันมาตั้งแต่เลิกกับสามีเพราะสามีดื่มเหล้าเมาทำร้ายทุกวัน ทนการถูกทำร้ายไม่ไหวจึงหนีมาพึ่งใบบุญในบ้านสวนของนวลน้อย ส้มป่อยไม่คิดจะจากย่าน้อยหรือคุณนวลน้อย คุณย่า คุณย่าของใครหลายๆ คนที่เคารพนับถือนวลน้อยเสมือนญาติผู้ใหญ่ของพวกเขา
บุษบาก้าวลงมาจากรถก่อนสามี ในมือมีตะกร้าของขวัญติดมาด้วย จิรเมธเดินตามภรรยาเข้าไปหานวลน้อย ผู้สูงวัยรับไหว้เพื่อนบ้านพร้อมรอยยิ้ม
“ไปไงมาไงกันล่ะ มาดูบ้านหรือ”
“เปล่าหรอกครับย่าน้อย ผมมาเยี่ยมย่าน้อยครับแล้วก็อยากพบหลานสาวย่าน้อยด้วยครับ”
จิรเมธบอกจุดประสงค์ที่เขากับภรรยามาถึงบ้านนวลน้อย บุษบายิ้มตามคำพูดของสามี นวลน้อยกับส้มป่อยมองหน้ากัน จิรเมธอยากพบหงสาทำไม เขาไม่รู้จักหงสา ไม่เคยเห็นหน้า ทำไมวันนี้จึงอยากพบ หงสาไปทำอะไรให้เขาเสียหายหรืออย่างไร
“คุณย่าน้อยอาจจะสงสัยใช่มั้ยคะว่าทำไมหนูกับพี่เมธอยากพบหลานสาวคุณย่า คืออย่างนี้ค่ะ...”
บุษบาเล่าสิ่งที่หล่อนอยากพบหงสาให้นวลน้อยฟัง นวลน้อยยิ่งงงมากกว่าเดิม ส้มป่อยยกถาดใส่แก้วน้ำผลไม้มาวางข้างนวลน้อย
“ดื่มน้ำมะม่วงเย็นๆ ก่อนค่ะคุณเมธคุณบุษ”
“ขอบคุณค่ะพี่ส้ม”
การสนทนาหยุดชั่วครู่ บุษบารับแก้วน้ำมะม่วงปั่นจากส้มป่อย สีเขียวจางของน้ำน่าดื่ม บ้านสวนของนวลน้อยมีผลไม้ทุกฤดูที่ผลไม้ชนิดนั้นจะมี หล่อนชอบบ้านสวนอย่างนี้จึงซื้อเรือนไทยแต่เมื่อเข้ามาอยู่ สิ่งประหลาดเกิดขึ้นกับหล่อน เรือนทรงไทยแสนสวยน่าอยู่กลายเป็นเรือนหลอนไปในพริบตา
“เรามาบ้านคุณย่าน้อย มีอะไรแปลกๆ ให้ชิมตลอดเลยค่ะ บุษขอมาอยู่ใกล้ๆ บ้านคุณย่าน้อยได้มั้ยคะ”
“หนูจะกลับมาอยู่บ้านเรือนไทยอีกหรือจ๊ะ”
“เปล่าหรอกครับย่าน้อย ผมไม่ขอกลับเข้าไปอยู่ที่นั่นอีก ผมกลัวครับ ที่บุษพูดคือเราอยากซื้อที่ดินใกล้ๆ สวนย่าน้อยนี่น่ะครับ แบ่งขายให้ผมสักไร่ได้มั้ยครับ ผมอยากมาอยู่แถวนี้ ตอนนี้ผมเช่าบ้านอยู่ครับแล้วก็ ผมอยากคุยกับเหลนย่าน้อย เธอบอกจะซื้อบ้าน ใครจะซื้อกันแน่ เธอบอกให้มาหาที่นี่ครับ”
น้ำมะม่วงพร่องไปจากแก้วเกินครึ่งแก้ว ส้มป่อยยิ้มกว้าง รสชาติน้ำมะม่วงปั่นของหล่อนถูกใจสองสามีภรรยาคู่นี้ หน้าที่ต่อไปของหล่อนรออยู่ในครัว นวลน้อยเพียงพยักหน้าเท่านั้น ส้มป่อยก็รู้ว่าต้องทำอะไรในครัวบ้าง
“ถ้าอยากมาอยู่ที่นี่จริงๆ ฉันจะปรึกษาหลานฉันก่อน พ่อภพเขามีส่วนในที่ดินที่ฉันอยู่ครึ่งหนึ่ง วันเสาร์อาทิตย์นี้ เขาจะมากัน ยังไงพ่อเมธกับหนูบุษมาพบเขาได้นะ ส่วนไอ้หงส์ ก็มาหาได้เลย จะคุยอะไรกันก็มาทีเดียวเลย”
“ครับย่าน้อย ขอบพระคุณมากครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก ไปเดินดูในสวนได้นะ ฉันจะพาเดิน ไปสิ”
“รบกวนคุณย่าหรือเปล่าคะ”
“ไม่รบกวนอะไรเลย อ้อ.ไม่ต้องเรียกคุณย่าหรอกจ้ะหนูบุษ เรียกย่าเฉยๆก็พอ”
“ค่ะย่าน้อย”
นวลน้อยเดินนำบุษบากับจิรเมธไปในสวนหลังบ้าน หล่อนไม่พูดถึงหงสาและไม่ออกความคิดเห็นใดๆ หงสาต้องมาอธิบายด้วยตัวเอง
ไม้ผลแผ่กิ่งให้ร่มเงา ลมพัดเฉื่อยเย็นสบาย บรรยากาศร่มรื่นของสวนยิ่งเพิ่มความอยากเป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของสวนใกล้เคียงสวนย่าน้อยมากเป็นเท่าตัว
“ย่าน้อยครับ ท้ายสวนนั่นเป็นบ้านใครหรือครับ”
“คนแถวนี้แหละ สนใจจะซื้อที่เขาก็ได้นะ เขาน่าจะแบ่งขายให้ได้สักสองสามไร่”
“จริงหรือครับ ถ้าอย่างนั้นก็ดีสิครับ”
“อ้าว แล้วไม่สนใจสวนฉันแล้วหรือ”
นวลน้อยหัวเราะเมื่อพูดจบ จิรเมธกับบุษบาหัวเราะไปด้วย เขายอมรับอยากได้ที่ดินเพิ่ม ถ้านวลน้อยขายให้เขาเพียงไร่เดียว ปลูกผลไม้ไม่กี่ต้นก็เต็มเนื้อที่ เขาอยากมีสวนร่มรื่นเช่นสวนย่าน้อย
“ผมอยากปลูกต้นไม้ ผลไม้เยอะๆ เหมือนสวนย่าน้อยนี่น่ะครับ ถ้าย่าน้อยขายให้ผมอีก ผมจะดีใจมากเลยครับ”
นวลน้อยหัวเราะอารมณ์ดี เข้าใจความรู้สึกของหนุ่มรุ่นลูก รุ่นหลานคนนี้ จิรเมธรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
วันนี้เขากับภรรยามาบ้านสวนย่าน้อยเพราะเมื่อคืนก่อนที่เขาจะเข้านอน เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ ฉันจะซื้อบ้านคุณค่ะ ไปหาฉันที่บ้านย่าน้อยนะคะ ฉันชื่อหงสาเป็นเหลนย่าค่ะ”
“เอ่อ...”
“ตู๊ดๆ ๆ ๆ”
เสียงของคนโทรศัพท์เข้ามาพูดๆ แล้ววางสายไป เขางงกับโทรศัพท์ในมือครู่หนึ่งจึงเข้านอน ภรรยาของเขาครู่หนึ่ง เมื่อเขาไม่พูดอะไร หล่อนจึงถาม
“มีอะไรหรือคะ ใครโทรมาคะ”
“คนจะซื้อบ้านเรา ให้ไปหาที่บ้านย่าน้อย เธอบอกเป็นเหลนย่าน้อยชื่อหงสา”
“แล้วยังไงอีกคะ”
“ไม่อะไรเลยนอกจากวางสายไปเฉยเลย งงไง คุณงงมั้ยล่ะ โทรมาพูดๆ แล้วก็วางสาย ยังไม่ได้คำตอบจากเรา ยังไม่ทันถามอะไรต่อด้วย เธอก็วางไปแล้ว ไม่ให้งงได้ยังไง คุณว่าไง จะไปมั้ย”
“ไปค่ะ ลองดู ถ้าไม่ใช่คนก่อกวน เราจะได้คำตอบจากคุณย่าน้อย”
“ตกลง พรุ่งนี้เราไปเยี่ยมย่าน้อยกัน”
