บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3

พิรุณพรทำตาค้อนสามี เพราะจนป่านนี้ แต่งงานกันมาเกือบสามปี มีลูกด้วยกันคนหนึ่งแล้ว แต่คุณหมอของเธอก็ยังขยันทำตาหวานส่งมาให้ เหมือนจะเตือนให้เธอระลึกถึงช่วงที่รักกันใหม่ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้เธอรู้สึกว่าตนนี้ช่างเป็นคนโชคดีนัก ครอบครัวที่เติบโตมาก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น เพราะมีพ่อแม่ที่รักกัน เข้าใจกัน ซึ่งความรักที่พ่อของเธอมีต่อแม่นั้น มากมายขนาดว่า เมื่อภรรยามีอันตายจากด้วยโรคภัย พ่อของเธอก็ถึงกับตรอมใจ จนเป็นเหตุให้สุขภาพอ่อนแอลงเรื่อยๆ และในที่สุดก็จากเธอไปในเวลาต่อมา

ถึงคราวเธอคิดสร้างครอบครัวของตัวเอง ก็เจอผู้ชายแสนจะเพอร์เฟค และรักเธออย่างเหลือล้น แทบจะไม่มีตาชำเลืองแลผู้หญิงที่ไหนอีกเลย คือก็มองบ้างแต่ก็มองเฉยๆ ไม่ใช่มองอย่างนึกเข้าไปมีความสัมพันธ์ด้วย ทั้งที่ความเป็นหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีเข้าขั้นรูปหล่อ มั่นคงทั้งฐานะและหน้าที่การงาน ทำให้มีผู้หญิงพยายามเข้ามาทอดสะพานให้อย่างไม่คำนึงว่าผู้ชายมีเมียแล้ว แต่คุณหมอของเธอก็ไม่เคยรับไมตรี หรือเดินไปบนสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ใจถึงเหล่านั้นทอดมาให้สักครั้ง

“เมียหนึ่งคน กับต้องทำงานวันละสิบกว่าชั่วโมง บางวันถึงสิบแปดสิบเก้าชั่วโมง ผมจะไปเหลือเรี่ยวแรงที่ไหนมาคิดนอกใจเมียอีกเล่า’

นั่นคือคำตอบที่ได้รับเมื่อเธอถามอย่างสงสัย

พิรุณพรพอใจที่สามีไม่ขัดขวางที่เธอจะรับอุไรกับบุตรสาวเข้ามาอยู่ในบ้าน จนกว่าทั้งสองจะหาทางขยับขยาย

อันที่จริง เธอก็ไม่ค่อยได้สนิทสนมกับอุไร ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับมารดาของเธอสักเท่าไรนัก เนื่องจากอุไรแต่งงานกับคนต่างถิ่นและตามไปอยู่กับสามีที่บ้านฝ่ายชายซึ่งอยู่คนละจังหวัด ขณะมารดาของเธอได้สามีเป็นคนอำเภอเดียวกัน ถึงว่าจะย้ายจากบ้านเดิมของพ่อแม่ ก็ย้ายไปอยู่ไม่ไกล เรียกว่ายังอยู่ในถิ่นเดิม

เธอรู้จากคำบอกเล่าของมารดาว่าสมัยท่านสาวๆ ก็ค่อนข้างสนิทกับญาติผู้น้องคนนี้ ด้วยความที่อายุไล่เลี่ยกัน มีอะไรก็มักแบ่งปันกันเสมอ

ข่าวคราวล่าสุดที่รู้จากปากมารดา เกี่ยวกับอุไร ก่อนที่มารดาของเธอจะสิ้นก็คือ ชีวิตลุ่มๆดอนๆตั้งแต่ก่อนจะตกพุ่มม่าย เพราะสามีติดการพนันอย่างหนัก ลูกสาวก็ทำท่าจะมีปัญหา หนังสือก็เรียนบ้างไม่เรียนบ้าง ยังดีที่ถูไถกระทั่งจบมัธยมต้นมาได้ แต่กว่าจะจบทางโรงเรียนก็แทบจะเชิญออกเพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อสองแม่ลูกมาขออาศัยอยู่ด้วย เธอจึงปฏิเสธไม่ลง ถึงอย่างไรอุไรก็จัดว่าเป็นญาติคนหนึ่ง ถอาจจะห่างออกไป ไม่ใช่น้าแท้ๆ ที่เป็นน้องคลานตามมารดาของเธอออกมา ก็ยังถือว่าในชั้นแม่นั้นเป็นญาติใกล้ชิด

พิรุณพรไม่รู้ว่า นอกจากคุณหมอสามีหนุ่มของเธอ นางอุ่นผู้รับหน้าที่แม่บ้านให้กับบ้านกิตติกานต์มาตั้งแต่ยังเป็นสาวน้อยร่างบางอ้อนแอ้นจวบจนสูงวัยและเนื้อตัวพูนไปด้วยเนื้อหนังมังสาอันอวบท้วม กับจันทร์ดีผู้เข้ามาอยู่ทีหลัง เวลานี้ก็รับหน้าดูแลคุณหนูลูกเพชรเป็นหลัก ต่างก็มีความรู้สึกพ้องต้องกันว่าสองแม่ลูกที่เข้ามาขอพึ่งพาอาศัย ดูไม่น่าไว้วางใจ โดยเฉพาะคนลูก ที่มักจะมองคุณหมอเจ้าของบ้าน ซึ่งตามศักดิ์ก็ต้องว่าเป็นพี่เขย ด้วยแววตาแวววามราวกับอีกฝ่ายเป็นขนมหวาน

จันทร์ดี ผู้ยังเยาว์วัยกว่านางอุ่นชนิดรุ่นหลาน-ป้า ถึงกับอดรนทนไม่ไหว เผยความรู้สึกที่อัดแน่นกับนางอุ่น เมื่อมีโอกาส

“จริงๆ นะป้า ฉันไม่ชอบสองแม่ลูกนั่นเลย ยิ่งแม่ลูกสาวด้วยแล้วมองคุณหมอราวกับชวนขึ้นเตียง ป้าเห็นหรือเปล่า?”

“เห็น ทำไมจะไม่เห็น”

หญิงสูงวัยตอบพร้อมกับถอนใจเฮือกๆ ราวจะให้ลดความรู้สึกหนักอก แต่ไม่วายเตือนผู้อ่อนอาวุโสกว่า

“แต่แกอย่าเผลอไปพูดให้คุณฝนได้ยินเข้าล่ะ มันจะไม่เป็นผลดีอะไรเลย ถ้าคุณฝนเชื่อก็จะไม่สบายใจไปเปล่าๆ แต่ถ้าไม่เชื่อก็จะมองว่าแกมีอคติกับญาติของเธอไปโน่น”

“ฉันรู้หรอกน่ะป้า เอาเป็นว่าฉันจะเย็บปากให้สนิทเรื่องยายรมควันทำท่าจะอ่อยคุณหมอ แต่เรื่องยาย...เอ่อ สองแม่ลูก โดยเฉพาะยายลูกสาวทำท่าจะมาเป็นนายบ้านนี้อีกคน ป้าจะให้ฉันเย็บปากให้สนิทด้วยมั้ย”

“เออ! อะไรที่พอทนได้ก็ทนไปก่อน ยังไงยายอุไรก็ไม่ถึงกับไม่หยิบจับอะไร วันก่อนยังมาช่วยฉันทำครัว แล้วอาสาช่วยงานอื่นบ้าง ก็คงจะไม่เท่าไหร่หรอก”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel