บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

“แน่ใจแล้วหรือจะให้มาพักบ้านเราน่ะ?”

“เขาเป็นญาติของฝนนะคะหมอ แล้วเวลานี้ก็ไม่มีที่จะไป คงเป็นการใจดำเกินไปถ้าเราจะไม่ช่วยในเมื่อเขาอุตส่าห์บากหน้ามาหา”

พิรุณพรท้วงสามี เมื่อสีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความอึดอัดใจกับญาติของเธอที่มาขออาศัยอยู่ด้วย

“ผมรู้ว่าเป็นญาติของคุณ แต่ว่า...”

นายแพทย์ กุลพงษ์ กิตติกานต์ ลังเล กลัวว่าความคิดเห็นของเขาอาจทำให้ภรรยาไม่สบายใจพาลคิดมาก

“หมอมีอะไรก็พูดมาเถอะ ฝนพร้อมจะรับฟัง”

สบตากลมโตฉายแววเปิดเผยจริงใจนั้นแล้วคุณหมอหนุ่มก็พูดไม่ออก ได้แต่ถอนใจก่อนพูดเสียงเรียบ

“ไม่มีอะไร ตามใจฝนก็ละกันเพราะบ้านนี้เป็นของฝนเท่าๆ กับผม”

“ขอบคุณค่ะ คุณหมอของฝนน่ารักที่สุดเลย”

รอยยิ้มหวานสดใสที่ได้รับจากภรรยาสาว แม่ของลูก ทำให้คุณหมอหนุ่มรู้สึกคุ้มที่ไม่ได้คัดค้านจริงจังออกไป แม้สัญชาตญาณกำลังเตือนเขาว่า สองแม่ลูกที่มาขอพึ่งพา โดยอ้างความเป็นญาติสนิทกับภรรยาของเขา อาจจะนำความเดือดร้อนมาให้ภายหลัง

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดเขาถึงได้รู้สึกเช่นนี้

บางที อาจจะเป็นเพราะท่าทางหลุกหลิก แววตาดูลอกแลกของสองแม่ลูกนั้นก็เป็นได้ โดยเฉพาะลูกสาว ไม่ต้องอาศัยการมองอย่างลึกซึ้ง มองผิวเผินด้วยสายตาผู้ชาย ก็ยังทำให้เขานึกถึงระเบิดไดนาไมต์ขึ้นมาทันใด

“ฝนจะให้สองแม่ลูกนั่นพักที่นี่หรือให้ไปพักกับคุณแม่ดีล่ะ” เขาถาม

คุณแม่ในที่นี้คือมารดาของเขา มีบ้านหลังกะทัดรัดแยกอยู่เป็นสัดส่วนต่างหาก แต่อยู่ภายในบริเวณเดียวกัน เดินไปมาหาสู่ได้สะดวก

“ให้อยู่บ้านนี้เถอะค่ะ ที่เรือนเล็กของคุณแม่ก็มีป้าอุ่นพักเป็นเพื่อนคุณแม่อยู่แล้ว แถมบางคืนจันทร์ดียังหอบน้องเพชรไปนอนเป็นเพื่อนคุณย่าเสียอีก แล้วฝนก็ว่าจะให้ยายณีช่วยจันทร์ดีดูแลน้องเพชรบ้างเวลาจันทร์ดีมีงานอื่นต้องทำ ส่วนน้าอุไรก็ให้ช่วยป้าอุ่น ป้าอุ่นจะได้มีเวลาไปคอยดูแลคุณแม่ได้มากขึ้น หรือหมอมีความคิดเห็นเป็นอย่างอื่นก็บอกได้เลยนะคะ”

“ แล้วแต่ฝน ผมยังไงก็ได้”

“ท่าทางหมอเหมือนมีอะไรในใจ”

พิรุณพรทักขึ้น เธอรู้จักสามีดีพอที่จะอ่านสีหน้าแววตาเขาออก

“เปล่านี่ ฝนคิดมากไปเองแล้วล่ะถ้าจะมีอะไรก็คงเพราะผมห่วงว่าฝนจะเหนื่อยมากขึ้นถ้าต้องมาคอยดูแลคนในบ้านเพิ่มก็เท่านั้นเอง”

“ไม่หรอกค่ะ ฝนไม่คิดว่าน้าอุไรกับยายณีจะทำตัวเป็นภาระให้ฝนต้องแบกรับ แล้วฝนก็พูดกับน้าอุไรแล้ว ว่าบ้านเราไม่มีคนช่วยงานในบ้านนอกจากป้าอุ่นกับจันทร์ดีคอยทำนั่นนี่ให้ทุกอย่าง ฝนเองถึงจะทำงานนอกบ้าน แต่พอถึงวันหยุดก็ต้องช่วยป้าอุ่นกับจันทร์ดีทำงานบ้านกับเลี้ยงดูตาหนูเหมือนกัน ห้องหับ ที่หลับที่นอน ใครอยู่ห้องไหนก็ดูแลจัดการเอง ส่วนอื่นมีจันทร์ดีคอยดูแลอยู่แล้ว เสื้อผ้าใส่แล้วก็เอาเข้าเครื่องซัก ไม่ต้องลงมือซักเอง แต่คงต้องรีดเอง ฝนบอกไปแล้วว่าในส่วนของฝนกับหมอ คุณแม่อาสารีดให้ เพราะอยากมีอะไรทำบ้าง แล้วท่านก็ชอบรีดผ้ามากกว่าซักผ้ามาแต่สาวๆ ไม่เห็นเป็นงานหนักอะไร แต่ก็คงไม่เหมาะถ้าจะแหมะของน้าอุไรกับลูกสาวให้คุณแม่ช่วยรีด ท่าทีน้าอุไรก็ดูจะเข้าใจนะคะ เห็นอาสาจะช่วยป้าอุ่นทำครัวกับจ่ายตลาดแล้วนี่”

“ถ้าญาติของฝนเขาเข้าใจว่าเราอยู่กันยังไงที่บ้านนี้ก็ดีไป เพราะถ้าไม่เข้าใจอาจมีปัญหาขึ้นมาได้ ผมห่วงฝนนั่นแหละมากกว่าอื่น”

“คงไม่มีอะไร ฝนก็ทำงานของฝนตามปกติ หมอก็ทำงานของหมอไป ดีเสียอีกได้คนมาช่วยดูแลบ้านเพิ่ม โดยเฉพาะช่วงกลางวันที่เราออกไปทำงานนอกบ้านทั้งคู่”

“ไม่ใช่ทุกวันหรอกนะ อย่าลืมสิ ผมเข้าเวรกลางคืนอาทิตย์ละตั้งสามสี่วัน กลางวันก็ต้องกลับมานอนพักผ่อนที่บ้าน ใช่ว่าช่วงกลางวันเราจะไม่อยู่บ้านพร้อมกันทุกวันเสียเมื่อไหร่”

“ถึงงั้นก็เถอะค่ะ บ้านเรามีคนอยู่ไม่กี่คน จะจ้างคนเพิ่มป้าอุ่นก็ค้านหัวชนฝา บอกว่างานบ้านแค่นี้ช่วยกันกับจันทร์ดีสองคนก็เกินพอ แล้วน้องเพชรก็รู้อยู่ ไม่งอแงเลย อีกหน่อยพอน้องเพชรเข้าโรงเรียน จันทร์ดีก็จะยิ่งมีงานน้อยลง แค่คุณรับนายปานไว้อีกคน เผื่อคุณแม่ไปไหนบ้างจะได้มีคนคอยขับรถให้ แล้วนายปานก็ยังรับหน้าที่ดูแลสวนดูแลต้นไม้รวมไปถึงอาณาบริเวณรอบๆ บ้าน ไม่นับที่ทำหน้าที่สารพัดช่าง ป้าอุ่นยังบ่นแล้วบ่นอีก เพิ่งจะค่อยซาเสียงบ่นก็เมื่อนายปานช่วยซ่อมก๊อกน้ำในครัวให้ได้อย่างเป็นผลนี้เอง”

“เอาเถอะ ฝนจะเอายังไงก็ตามใจ เรื่องในบ้านฝนก็รู้ ว่าผมยกให้ฝนเป็นใหญ่ตั้งแต่ฝนยอมเป็นเจ้าสาวผมแล้ว จำไม่ได้หรือจ๊ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel