ตอนที่ 5 ขับพิษซ่อมบำรุงลมปราณ
แต่ความเป็นจริงแล้วก็คือ พวกเขาสองพี่น้องล้วนถูกพิษ และพิษนี้ก็ค่อยๆทำลายเส้นลมปราณของพวกเขา พี่ชายของเจ้าของร่างคงโดนมานานกว่าเจ้าของร่างนี้หลายปีจึงกลายเป็นคนป่วยติดเตียง ส่วนเด็กสาวคนนี้พิษทำลายพลังลมปราณของนางไปแล้ว แม้แต่พลังชี่ก็ยังโดนทำลายไม่แน่ว่าบิดาที่หายสาบสูญไปของพวกเขาและผู้เฒ่าที่รักและเอ็นดูพวกเขาเองก็คงจะถูกคนพวกนี้เล่นงานเช่นกัน
ช่างเถอะอย่างไรเสียดวงจิตของนางก็ไม่ได้ดับสลายไปเสียทั้งหมดแม้จะต้องสร้างอะไรหลายๆอย่างขึ้นมาใหม่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เวลานี้สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกก็คือต้องถอนพิษให้กับตนเองและฟื้นฟูพลังลมปราณให้กลับมาจากนั้นถึงจะรักษาพี่ชายคนนั้นให้หายได้
เพราะตอนนี้นางมีพลังอ่อนแอมากเหลือเกิน แม้แต่เด็กสาวระดับเชี่ยวชาญปฐพีขั้นสี่คนเดียวก็กล้ามาอาละวาดต่อหน้านาง จะพูดถึงการแก้แค้นล้างแค้นได้อย่างไร?
อีกอย่าง เมื่อได้ครอบครองร่างของเยี่ยอวิ๋นแล้ว พวกคนเลวที่ทำให้เยี่ยอวิ๋นต้องตาย นางก็ต้องสั่งสอนพวกมันให้ดีแทนนางด้วย ถือว่าเป็นการตอบแทนนางแล้วกัน!
ดังนั้นเรื่องเร่งด่วนในตอนนี้ก็คือ..ควรจะถอนพิษและบำรุงร่างกายรีบเร่งเพิ่มพูนการฝึกตนและพลังของตัวเองก่อน เยี่ยอวิ๋นเดินไปปิดประตูหน้าต่างจากนั้นนางก็หยิบโอสถต่างๆออกมาจากถุงเฉัยนคุณ "นี่ไงยังอยู่จริงๆด้วย" พูดจบเด็กสาวก็หยิบขวดเคลือบสีขาวขุ่นขึ้นมา "นี่คือโอสถจิ้งเสวียนชำระล้างพิษจากรากฐานของเส้นลมปราณ"
โอสถจิ้งเสวียนเป็นโอสถที่นางกลั่นเอาไว้ก่อนจะที่ลงไปบำเพ็ญเพียรที่หุบเขาน้ำแข็ง เป็นโอสถที่นางหลอมจากสมุนไพรวิเศษระดับเจ็ดที่นางแอบไปถือวิสาสะขโมยมาจากสวนของบิดาซึ่งส่วนประกอบนั้นนับว่ายอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็นแก่นกลางของรากบัวจันทรา ผลชี่หยวน หญ้าเยียนเสวียและนอกจากนี้นางยังได้ใส่สมุนไพรหายากระดับรากสวรรค์โสมอัคคีพันปีและน้ำค้างเกล็ดสวรรค์ลงไปด้วย
หลังจากหลอมเสร็จนางก็ทดลองกับปีศาจน้อยหลิงหู่ที่เผ่าปีศาจที่ถูกทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดอาการสาหัสหายใจรวยรินจากการโดนพิษที่เผ่ามนุษย์
ตอนนั้นโอสถจิ้งเสวียนขับพิษร้ายที่ทำลายเส้นลมปราณออกไปจากร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นพิษที่ไร้สีไร้กลิ่นที่กัดกร่อนเส้นลมปราณและทำลายพลังชี่ของเจ้าของร่างนี้ก็คงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
เยี่ยอวิ๋นเทโอสถจิ้งเสวียนใส่มือสองเม็ดจากนั้นนางก็ใส่เข้าไปในปาก หลังจากกลืนโอสถจิ้งเสวียนเข้าไปแล้วนางก็เดินไปนั่งขัดสมาธิบนเตียงเริ่มเข้าสู่สมาธิ
จวนโหวบ้านรองและบ้านสามกดขี่นางอย่างไร้ขอบเขต แม้แต่เคล็ดวิชาฝึกตนที่สืบทอดมาของตระกูลเยี่ยที่ผู้เฒ่าโหวมอบให้นางก็มาแย่งไป แต่ในสายตาของเยี่ยอวิ๋นเคล็ดวิชาของตระกูลเยี่ยนั้นช่างหยาบกระด้างเหลือเกิน
หลังจากนั่งสมาธิได้ไม่นานนักเยี่ยอวิ๋นก็เริ่มรู้สึกราวกับว่า มีไฟกำลังเผาไหม้อยู่ภายในร่างกาย เส้นเลือดและเส้นลมปราณที่เคยถูกกัดกร่อนจนเสียหาย และพิษที่ฝังลึกเริ่มที่จะถูกพลังบริสุทธิ์ของโอสถบีบอัดและทำลายอย่างรุนแรง
พลังชี่ที่อยู่ภายในร่างกายเริ่มเกิดความปั่นป่วนอย่างมากจากการออกฤทธิ์ของโอสถ หญ้าเยียนเสวียนและผลชี่หยวนที่พยายามกระตุ้นจุดตันเถียนและกำลังฟื้นคืนแก่นพลังลมปราณบริสุทธิ์แต่กำเนิดของนางให้ค่อยๆคืนกลับมา เวลานี้ทั้งความเจ็บปวดและความร้อนรุ่มดั่งไฟแผดเผาทำให้เยี่ยอวิ๋นรู้สึกทรมานราวกับร่างกายกำลังจะถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ
บนผิวหนังเริ่มขับเหงื่อสีดำออกมาอย่างต่อเนื่องจนเสื้อผ้าที่สวมใส่เริ่มเปียกชุ่ม และเวลานี้ภายในห้องก็เริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งปะปนมากับกลิ่นคาวเลือดรุนแรง ความเจ็บปวดในครั้งนี้นับว่ารุนแรงเป็นอย่างมากจนทำให้ร่างกายของเยี่ยอวิ๋นสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้
ใบหน้างามที่ซีดจางอยู่แล้วเวลานี้ก็ซีดขาวจนเขียวคล้ำ นั่นเป็นเพราะพลังทั้งหมดที่มีถูกใช้ไปอย่างหนักในการต่อสู้กับพิษ ยิ่งอยากกำจัดมากเท่าไหร่ความเจ็บปวดก็มากเพิ่มเท่าทวี
มุมปากเล็กๆเริ่มมีเลือดสีดำที่ค่อยๆถูกขับออกมาและในที่สุดความเจ็บปวดภายในก็บีบบังเยี่ยอวิ๋นอย่างรุนแรงจนในที่สุดนางก็อาเจียนเลือดสีดำออกมาเป็นจำนวนมาก "พร๊วด!! แค่ก! แค่ก!"
หลังจากอาเจียนเลือดสีดำออกมาแล้วความเจ็บปวดรุนแรงก็เริ่มบรรเทาลง แทนที่ด้วยความอุ่นสบายและเย็นสดชื่นที่แพร่กระจายไปทั่วร่างกายราวกับกระแสธารบริสุทธิ์กำลังไหลผ่านเส้นลมปราณที่ว่างเปล่าของนาง
เยี่ยอวิ๋นจะรู้สึกว่าเส้นลมปราณที่เคยแตกหักหรือถูกปิดกั้นค่อย ๆ เชื่อมต่อกันใหม่ราวกับใยแมงมุมที่ถูกถักทอขึ้นมาอีกครั้งจุดตันเถียนที่เคยแห้งเหือดกำลังถูกเติมเต็มและเวลานี้นางสัมผัสได้ถึงจุดกำเนิดของพลังชี่อันอ่อนโยน ที่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง แม้จะเป็นเพียงหยดน้ำเล็ก ๆ แต่ก็เป็นสัญญาณของการฟื้นฟูที่ดี
ซึ่งอาการเหล่านี้ได้บ่งบอกว่าพิษร้ายที่ทำลายอวัยวะภายในได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว เยี่ยอวิ๋นที่รู้สึกถึงการทรมานที่ยาวนานได้จบลงไปแล้วนางก็ค่อยลืมตาขึ้นช้าๆ ไม่รู้เลยว่านางจะใช้เวลาในการชำระร่างกายไปนานถึงเพียงนี้
ด้านนอกแสงสว่างได้หายไปจนหมดแล้วถึงแม้ว่าจะเหนื่อยล้าอยู่บ้างแต่ก็ไม่คิดที่จะล้มตัวลงนอนนางเดินไปยังอ่างอาบน้ำทางด้านหลังที่มีน้ำเย็นอยู่ นางหยิบน้ำค้างทิพย์ออกมาจากถุงเฉวียนคุนแล้วหยดลงไป
ไม่นานน้ำในถังก็คละคลุ้งมีหมอกควันลอยขึ้นมา เยี่ยอวิ๋นถอดเสื้อผ้าที่สกปรกเหล่านั้นออกจากนั้นก็รีบร้อนเดินลงไปแช่ตัวในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย นางหยิบตำราคัมภีร์ไท่ชิงเสวียนหยวนออกมาจากถุง
เยี่ยอวิ๋นเป็นใคร นางคือเยี่ยอวิ๋นแห่งดินแดนโอสถบนสวรรค์ชั้นชิงเสวียนเชียวนะ สมบัติล้ำค่าอะไรนางก็มีหมดแม้แต่ตำราศาสตราวุธของเซียนหลอมอาวุธนางยังมีเลยนับประสาอะไรกับตำราไท่ชิงเสวียนหยวนนี่กัน
เนื่องจากเยี่ยอวิ๋นได้ใช้โอสถจิ้งเสวียนในการชำระล้างพิษจากรากปราณบริสุทธิ์แล้ว คัมภีร์นี้สามารถสานต่อในการช่วยนางกรองและเปลี่ยนพลังชี่ที่ดูดซับเข้ามาให้กลายเป็นพลังชี่ที่บริสุทธิ์และแข็งแกร่งที่สุดได้โดยเร็ว และยังช่วยให้การบ่มเพาะของนางแข็งแกร่งและก้าวหน้ากว่าผู้ฝึกยุทธในระดับเดียวกันหลายเท่าได้อย่างง่ายดาย
ตอนนี้พลังชี่ได้ไหลเวียนในเส้นลมปราณทั้งสิบสองเส้นครบหนึ่งหนึ่งชั่วยามแล้วและร่างกายของนางได้ขับไล่สิ่งสกปรกในร่างกายออกไปหมดแล้ว ตอนนี้นางอยู่ในขั้นพลังวิญญาณระดับหนึ่งแล้วนางจะต้องกลายเป็นนักรบระดับเจ็ดให้ได้โดยเร็วเพราะในจวนโหวผู้ฝึกตนสูงสุดคือคุณชายใหญ่จวนรองหรือรัชทายาทจวนโหวในปัจจุบันอยู่ในระดับหลิงเสวียน ขั้นที่เจ็ดแล้วและอวี้เสวียนระดับสี่นั้นคือคุณหนูรองเยี่ยหลี
ยังมีคุณหนูคุณชายคนอื่นๆอีกพวกเขาล้วนอยู่ในระดับเชี่ยวชาญรบระดับปฐพีขั้นสาม สี่ ถึงขั้นหกก็มี
ซึ่งระดับการฝึกยุทธ์ของอาณาจักรที่นางลงมาอยู่นี้มีทั้งหมด 9 ขั้นใหญ่ ซึ่งระดับการบ่มเพาะพลังของนักรบจะแบ่งเป็น 9 ขั้น(หรือ 9 อาณาจักร) ซึ่งแต่ละขั้นใหญ่จะแบ่งเป็น 9 ขั้นเล็กอีกที (ตั้งแต่ขั้นหนึ่งถึงเก้า)
ซึ่งลำดับต่ำสุดก็คือ ระดับพลังชีวิต ซึ่งก็คือขั้นพื้นฐานที่สุดของการบ่มเพาะ จากนั้นก็จะเป็น อาณาจักรที่หนึ่งซึ่งก็คืออาณาจักรนักรบเชี่ยวชาญปฐพี - อาณาจักรซี่เซวียน คือขั้นที่เริ่มมีการควบคุมหรือรับรู้พลังลี้ลับได้ -อาณาจักรหลิงเสวียน ซึ่งขั้นนี้มีพลังวิญญาณหรือพลังปราณแข็งแกร่งขึ้นเริ่มมีสัตว์อสูรเมื่อฝึกพลังยุทธถึงขั้นนี้สำหรับบุคคลทั่วไประดับเก้าของขั้นนี้ก็คืออัจฉริยะของแคว้นแล้ว
ลำดับต่อมาก็จะเป็น ดินแดนเซียนเนิ่น ซึ่งก็คือขั้นที่เริ่มก้าวเข้าสู่ความเป็นเซียนหรือพลังเหนือธรรมชาติจากนั้นก็คือ ระดับแห่งจิตสำนึก เป็นขั้นที่พัฒนาพลังจิตหรือความเข้าใจต่อโลกและสรรพสิ่ง
จากนั้นก็คืออาณาจักรหกของแดนดิน นับเป็นขั้นที่มีพลังยิ่งใหญ่ในอาณาจักรแห่งแดนดินของมนุษย์และสัตว์ ถัดไปก้จะเป็นแดนลี้ลับฟ้าขั้นที่พลังยุทธ์เริ่มเชื่อมโยงกับมิติหรือสวรรค์ขี่กระบี่ ขับก้อนเมฆเหาะเหินเดินบนฟ้าก็คือระดับนี้ขึ้นไป
อาณาปอเซิงเซวียนจิง ขั้นที่พลังใกล้เคียงระดับสูงสุดของสวรรค์ อาณาจักรสุดท้ายก็คือขอบเขตเซิ่งเสวียน ขั้นสูงสุดของระดับการฝึกยุทธ์ของผู้ฝึกยุทธ์ทั้งปวง นับเป็นเทพเซียนของสวรรค์ขั้นหนึ่งได้เลย
เยี่ยอวิ๋นถอนหายใจ ชีวิตก่อนนี้ของนางไม่เคยให้ความสำคัญกับระดับการบ่มเพาะเหล่านี้ของเผ่ามนุษย์เลย อาณาจักรเหล่านี้ไม่อยู่ในสายตาของนางด้วยซ้ำเพราะนางอยู่ระดับของจักรพรรดิเซียนขั้นสูงสุดตั้งแต่อายุห้าร้อยปีในดินแดนชิงเสวียนตอนนี้หากนางได้ออกจากการบำเพ็ญไปแต่โดยดีไม่ถูกใครลอบโจมตีนางก็คงอยู่ในระดับขั้นเซียนบรรลุเต๋าไปแล้ว
เยี่ยอวิ๋นเก็บตำราแล้วหยิบน้ำค้างทิพย์ออกมาดื่ม หลังจากดื่มเรียบร้อยแล้วนางก็ลุกขึ้นจากน้ำ มองดูน้ำสีดำแดงในถังด้วยสายตาว่างเปล่าครู่หนึ่งนางก็เดินออกไป
........
