บทที่6 วางยา
-2F BAR-
“ผู้หญิงคนนั้นคือใคร ทำไมถึงมากับเฮียได้”
“คงจะเป็นเด็กใหม่ของเฮียนั่นแหละ เห็นบอกว่าคนนี้เป็นดาราด้วย”
“สวยมาก เหมาะสมกับเฮียสุดๆ”
บทสนทนาและเสียงซุบซิบของพนักงานคนอื่นดังขึ้น ลิชาได้แต่ยืนฟังแบบเงียบๆ ทอดสายตามองตามแผ่นหลังของเจ้านายที่เพิ่งเดินผ่านหน้าไป
บุรินทร์ภัทรควงสาวสวยคนใหม่ โดยไม่ชายตาแลมองเธอเลยสักนิด
ร่างเล็กก้มลงมองสภาพของตัวเองด้วยหัวใจห่อเหี่ยว ที่ทั้งๆ ที่เป็นคนปฏิเสธข้อเสนอแต่กลับรู้สึกเจ็บเสียเอง
“เป็นอะไรลิชา ทำไมช่วงนี้แกดูซึมๆ” หัวหน้าแผนกเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าของลิชาซีดเซียวไร้เครื่องสำอาง มีเพียงแว่นตากรอบหนาที่สวมใส่
ถึงแม้จะแต่งตัวมิดชิดแต่ก็พอให้เห็นสัดส่วนอยู่บ้าง ช่วงนี้เธอเอาเก็บตัวเงียบไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
“ปะ…เปล่าค่ะ”
“ทำหน้าเหมือนคนอกหัก แกไปแอบมีแฟนตั้งแต่ตอนไหน”
“ไม่ใช่สักหน่อย”
“วันนี้ยัยอรไม่มา ชาช่วยไปดูโซนวีไอพีแทนมันด้วยนะ”
“ได้ค่ะ” คนตัวเล็กตอบรับอย่างไม่เรื่องมาก เพราะปกติเธอจะออกไปรับแขกอยู่หลังร้านหรือไม่ก็วิ่งวุ่นอยู่ในครัวเสียส่วนใหญ่
“วันนี้เฮียมีแขกคนสำคัญ พี่ฝากชาดูแลด้วยนะ”
“ได้ค่ะ…พี่ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวชาดูแลลูกค้าให้เอง”
“…..”
“เสนอหน้ามาอีกแล้ว พวกมึงไม่มีงานมีการทำกันหรือไง” แฟรงก์ถอนหายใจลากยาว กลอกสายตามองบนด้วยความเบื่อหน่ายเมื่อเห็นเพื่อนรักที่กำลังกอดคอกันเดินเข้ามาในร้าน
ไอ้พวกนี้เข้าร้านทีไร มาขอกินฟรีตลอด พากันตายอดตายอยากมาจากไหนถึงได้แดกเหมือนพายุเฮอริเคนถล่มขนาดนี้
“ใจเย็นเพื่อนรัก วันนี้พวกกูมาเป็นลูกค้าไม่ได้มากินฟรี” ไคโรพูดราวกับรู้ทันว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ ต่อไม่ต้องให้อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่
“ถ้างั้นเชิญนั่งก่อนเลยครับ” แฟรงก์เปลี่ยนสีหน้าฉีกยิ้มกว้างรีบเดินเข้าไปต้อนรับ
ทำสีหน้าครุ่นคิด วางแผนการชั่วร้ายจะส่งเด็กในร้านมาปอกลอกเพื่อนรักเอาให้หมดตัวกันไปข้าง
“เปลี่ยนสีไวเชียวนะมึง”
“ร้านของผมบริการทุกระดับประทับใจ”
“ในร้านมึงมีอะไรเด็ดบ้าง แนะนำพวกกูหน่อย”
“ถ้าเด็ดสุดในร้านก็ต้องเป็นกูแล้วแหละ”
ยกมือขึ้นเสยผมโชว์ใบหน้าคมคายอย่างภาคภูมิใจ ไอ้ไคโรที่เข้าขั้นว่าเท่สะบัดยังไม่อาจต้านทานความหล่อของเขาได้
บางทีก็อยากโทรถามเจ๊ปาลินให้รู้แล้วรู้รอดว่าตอนท้องกินอะไรเข้าไป ทำไมเขากับไอ้แว่นถึงเกิดมาหล่อเท่ขนาดนี้
“จะอ้วกไอ้สัดแฟรงก์” แค่มองเห็นสายตาหวานหยดของมันรู้สึกขนหัวลุก ถ้าเป็นสาวๆ มีหวังได้อ่อนระทวยใจอ่อนกันหมด
แต่พวกเขามันผีเห็นผีเลยรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
“ว่าแต่เรื่องของเด็กนั่นไปถึงไหนแล้ว” คำถามจี้ใจดำจากคัมภีร์ทำเอาเจ้าตัวหยุดชะงักไปชั่วครู่
“…..”
“ถามจริง?” คัมภีร์มองหน้าเพื่อนชายอย่างจับผิด ปกติมันเป็นคนพูดมากแต่เรื่องนี้กลับนิ่งเฉย
“ก็เด็กมันไม่ยอมแล้วจะให้กูทำยังไง”
“มันเป็นไปได้เหรอวะ”
“เออ! มันเป็นไปแล้ว” จากที่ยืนอยู่ ทิ้งตัวนั่งลงข้างไคโรอย่างหัวเสีย
ตั้งแต่เกิดมาจนอายุปูนนี้ เพิ่งจะเคยโดนยัยเฉิ่มหน้าเป็ดปฏิเสธเป็นครั้งแรก บอกเลยถึงกลับเสียหลักไปต่อไม่ถูก
“แต่กูมีวิธี”
“หยุดความคิดชั่วๆ ของมึงเอาไว้ตรงนั้นแหละ”
แฟรงก์รีบยกมือห้ามปรามอย่างรู้ทัน ในเซลล์ประสาทของไอ้ไคโรมันไม่เคยคิดเรื่องดีๆ เหมือนชาวบ้านเขาหรอก
“แล้วมึงรู้หรือไงว่ากูคิดอะไร”
“มึงกับกูเป็นเพื่อนกันมากี่ปี ทำไมกูจะไม่รู้ว่ามึงคิดอะไรอยู่”
ไคโรหัวเราะเบาๆ ในลำคอที่เพื่อนชายรู้ทัน หยิบห่อฟอยล์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมาวางไว้บนโต๊ะ
“มึงจะทำอะไรไคโร”
“กูกำลังอยากทดลองยาใหม่อยู่พอดี” เทมันใส่แก้วเครื่องดื่ม มองไปยังลิชาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
“เวรฉิบ!” แฟรงก์สบถออกมาดังลั่น พยายามห้ามแล้ว แต่คนอย่างไคโรไม่มีทางลดละง่ายๆ จนกว่าจะทำมันสำเร็จ
“ถ้ามึงไม่มีปัญญาก็หุบปากไป ถ้าขี้ขลาดมาก เดี๋ยวกูจัดการยัยนั่นให้เอง”
อึก…แฟรงก์ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด รีบคว้าแก้วเครื่องดื่มขึ้นมากระดกรวดเดียวจนหมด
“ไอ้สัดแฟรงก์! กูจะเก็บไว้ให้เด็กนั่น แล้วมึงจะแดกเองทำเหี้ยอะไร คายออกมา” ไคโรบีบใบหน้าของเพื่อนชายอย่างแรงเพื่อให้ยอมเปิดริมฝีปาก ใช้นิ้วล้วงควานหาตัวยาที่มันเพิ่งกินเข้าไป
“ไม่มีประโยชน์ เพราะกูกลืนลงคอไปหมดแล้ว”
“ไอ้เวร! แดกเข้าไปขนาดนั้นเดี๋ยวได้ฟ้าเหลืองกันพอดี”
“ยากระจอกๆ ของมึงทำอะไรกูไม่ได้หรอก”
ไหวไหล่แบบมั่นใจ อยากจะรู้เหมือนกันว่ายาของไคโรที่ว่าแน่กับเขา อะไรมันจะแข็งกว่ากัน
“กูขอตัวไปสั่งงานลูกน้องก่อน เดี๋ยวรีบมานั่งด้วย”
หยัดตัวลุกขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะเดินออกจากโต๊ะท่ามกลางสายตาของเพื่อนสนิทที่มองตาม
“เฮียแฟรงก์…เฮียแฟรงก์…”
ขวับ! เสียงหวานของลิชาร้องเรียก ชายหนุ่มรีบหันไปตามเสียง แต่กลับพบความว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ตรงนี้ เขาแค่เกิดอาการหูแว่วไปเอง
ยกมือขึ้นกุมที่หน้าอกข้างซ้าย เม็ดเหงื่อสีใสเริ่มผุดขึ้นตามกรอบหน้าและฝ่ามือ “แม่งเอ้ย”
หัวใจเต้นเร็วจนผิดจังหวะ มือไม้สั่นเทาเริ่มมีอาการเห็นภาพเบลอทับซ้อน จนร่างกายทรงตัวลำบาก
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมหน้าซีดๆ” ฟ้าใสรีบเดินเข้าไปประคองเจ้านายที่อาการไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่กลับถูกเขาผลักออกมา
“อย่ามาโดนตัวฉัน ถะ…ถอยไป”
“เฮียอาการดูไม่ค่อยดีเลยเดี๋ยวฟ้าพาไปส่งที่ห้องนะคะ”
ถึงร่างกายจะปฏิเสธแต่สมองกลับสั่งการที่สวนทางกัน สติที่มีอยู่น้อยนิดผลักฟ้าใสให้แนบชิดติดกับผนังในมุมมืด
หญิงสาวไล่สายตามองเจ้านายด้วยสายตาหวานหยด หัวใจของเธอเต้นแรงยามที่ใบหน้าคมคายโน้มต่ำลงมาซุกไซ้ซอกคอราวกับหื่นกระหาย
ฝ่ามือหนาล้วงเข้ามาบีบเคล้นทรวงอกขนาด500cc ที่เพิ่งเสริมมา โดยไม่สนใจสายตาของผู้คนที่เดินผ่าน
“ฮะ…เฮียแฟรงก์”
“ไปตามลิชาให้หน่อย”
“…..”
“ฉันขอแค่ลิชาคนเดียว ส่วนคนอื่นไม่ต้อง”
