บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ปฏิเสธ

นับหนึ่ง…นับสอง…นับสาม

นิ้วเรียวเคาะลงบนโต๊ะทำงานอย่างใจเย็น บุรินทร์ภัทรมองจ้องไปยังประตูห้องทำงานแต่กลับไร้วี่แวว

ผ่านไปหลายวันที่ยื่นข้อเสนอให้ลิชา แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณตอบรับทำให้เขารู้สึกหัวเสียไม่น้อย

แกร๊ก…บานประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอีกครั้ง ร่างสูงรีบดีดตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะถอนหายใจลากยาวอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นว่าคนที่มาใหม่เป็นลูกน้องคนสนิทไม่ใช่คนที่คิดไว้

“เฮียให้ผมมาพบด่วนมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”

“วันนี้ลิชามาทำงานหรือเปล่า”

“น้องมาตั้งนานแล้วครับ”

“แล้วทำไมยังไม่ขึ้นมาหากูอีก”

“เฮียนัดน้องไว้หรือเปล่าครับ”

“เปล่า ไม่ได้นัด ช่างเถอะ แต่อีกเดี๋ยวก็คงมา”

ลูกน้องคนสนิทยกมือเกาหัวด้วยความงงงวย ร้อยวันพันปีเจ้านายไม่เคยถามหาถ้าไม่ได้มีธุระด่วนหรือเรื่องคอขาดบาดตาย “เอ่อ…ว่าแต่เฮียถามหาลิชาทำไม”

“กูเป็นเจ้านายแค่ถามหาลูกน้องไม่ได้หรือไง”

“ผมถามแค่นี้ก็ต้องหงุดหงิดด้วย”

“มึงจะไปไหนก็ไป เห็นแล้วหงุดหงิดฉิบหายเลย” โบกมือไล่ลูกน้องยกใหญ่ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็รู้สึกขัดหูขัดตาไปทั้งหมด

“ลิชา…ชื่อคุ้นๆ” ไคโรที่นั่งสังเกตการณ์อยู่นานเอ่ยถามด้วยความสงสัย เขารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนได้ยินชื่อนี้มาก่อน “เหมือนชื่อพนักงานของมึงเลยนิ”

“ไม่ต้องเสือกสักเรื่อง”

“ถามหาเขาทำไมมิทราบ” หรี่สายตามองเพื่อนชายอย่างจับผิด พวกเขาเป็นเพื่อนกันมานาน ต่อให้ไม่บอกก็รู้ว่าไอ้แฟรงก์กำลังสนใจเด็กเฉิ่มคนนั้น

“อะไรไคโร มึงไม่ต้องมามองกูแบบนั้น”

“บอกมาว่ามึงกับยัยเฉิ่มได้กันยัง”

“มึงพูดอะไร ไม่เห็นจะรู้เรื่อง” ใบหน้าหล่อเหลาเผลอสอดส่องสายตาไปมาคล้ายท่าทางเลิ่กลั่ก

“มึงมีพิรุธนะแฟรงก์” ไคโรเดินเข้าใกล้ ใช้จมูกฟุดฟิตสูดดมกลิ่นผิดปกติจากเพื่อนชาย

“พะ…พิรุธอะไร?”

“หน้ามึงแดง หูก็แดงด้วย” ไม่พูดเปล่าแต่ยังดึงติ่งหูอย่างแรง จนแฟรงก์เผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บ “ถ้ามึงไม่ยอมพูดความจริง กูจะจูบปากมึงเดี๋ยวนี้”

แฟรงก์ทำหน้าพะอืดพะอม เขาน่ะยังไม่เมาแต่ไอ้ไคโรน่ะเมามากแล้ว พอมันเมาทีไร ผีรักเพื่อนมักเขาสิงมันทุกที

“กูเมา”

“เมาห่าอะไร มึงยังไม่ได้แดกเหล้าสักหยด” ถึงจะเมามาก แต่ก็ยังมีสติคิดเองได้

“เออ! ยอมรับก็ได้ กูอยากได้ยัยนั่น”

“แล้วทำมาเป็นหวงก้าง ที่แท้มึงคิดจะเก็บยัยนั่นไว้แดกเองใช่ไหม”

“เอาไว้ให้กูได้ก่อน จากนั้นพวกมึงจะทำอะไรก็ทำ”

“แต่ยัยเฉิ่มนั่นไม่ใช่สเปกมึงเลยนิ ทำไมจู่ๆ ถึง…”

“ก็แค่อยากลองอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง”

“แน่ใจ?”

“แล้วพวกมึงจะอยากรู้เรื่องของกูไปทำไมนักหนา” ใช่ไคโรคนเดียวที่ไหน ไอ้คัมภีร์กับเจย์เดนยังเอียงหูฟังทำหน้าสลอนสอดรู้สอดเห็นไม่ต่างกัน

“มึงเปลี่ยนไปนะแฟรงก์ แต่ก่อนมึงกับพวกกูไม่เคยมีความลับต่อกัน” คัมภีร์สวมบทเศร้าเดินเข้าไปกอดคอเพื่อนชาย

ไอ้แว่นมันก็มีเมียได้ลูกเป็นคอกทิ้งพวกเขาไปแล้ว ส่วนไอ้แฟรงก์ก็ทำตัวลับๆ ล่อๆ ไม่น่าไว้ใจ

“พวกมึงไม่ต้องดราม่า ถ้าอยากเสือกมาก เดี๋ยวกูจะเล่าให้ฟัง”

“…..”

-ทางด้านของลิชา-

“บอกมานะ วันนั้นแกกับเฮียหายไปไหนกันมา” ฟ้าใสยืนกอดอกมองเพื่อนสนิทด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เธอตั้งใจมาหาเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบแต่ลิชาก็ยังยืนยันคำเดิม

“เฮียแวะไปส่งที่บ้าน ไม่ได้มีอะไรเลย”

“แกไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม”

“เราพูดความจริง หรือถ้าฟ้าไม่เชื่อก็ไปถามเฮียเอาเองสิ”

“ไม่ต้องท้าฉันถามแน่”

“…..”

“เฮียไม่ใช่ผู้ชายที่น่าเข้าใกล้นักหรอก ถ้าแกไม่อยากเสียใจก็อยู่ห่างเขาไว้ ฉันขอเตือน”

“อืม…”

“ถ้าเตรียมของเสร็จแล้ว แวะไปเช็คสต๊อกที่โกดังหลังร้านให้ฉันด้วยนะ” เพราะฟ้าใสเป็นคนสนิทกับผู้จัดการร้านถึงมีสิทธิ์หรือออกคำสั่งกับพนักงานคนอื่นๆ

“เดี๋ยวเราเช็คให้”

“เช็คดีๆ ด้วยล่ะ ถ้าผิดพลาดเดี๋ยวจะโดนเฮียหักเงินเดือน”

“เราจะระวัง”

ลิชายืนนิ่งอยู่ในมุมสลัวเพียงลำพังเมื่อฟ้าใสเดินหายออกไป

‘อย่าคิดนานนัก ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ’

บรรยากาศรอบตัวเงียบสงัดจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจ เธอสะบัดศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากสมอง หลังจากที่นึกเห็นภาพของผู้ชายคนนั้นมาตลอดระยะเวลาหลายวัน

“ฉันมาเอาคำตอบ!”

“…..” ลิชาสะดุ้งเฮือก ขยับถอยหลังหนีตามสัญชาตญาณ ยกมือขึ้นทาบอกพร้อมหัวใจเต้นแรงแบบไม่ทันตั้งตัว “เฮียมีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ข้อเสนอที่ฉันให้ ตกลงจะว่ายังไง”

“…..” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ไม่คิดว่าเจ้านายจะตามมาหาเธอด้วยเรื่องนี้

“รีบพูดมา ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมายืนเฝ้าเธอทั้งวัน” แฟรงก์ยืนรอฟังคำตอบ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ปฏิเสธเขาได้ลงคอ

“หนูขอไม่รับนะคะ”

“อีกทีสิ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร” ทวนถามอีกครั้งเผื่อบางทีอาจจะหูดับหรือได้ยินผิดไป

“ข้อเสนอของเฮียหนูไม่ขอรับไว้นะคะ”

“ลองไปคิดดีๆ ก่อนสิ”

“ชาคิดดีแล้วค่ะ” คนตัวเล็กรีบเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นด้วยอาการประหม่า แต่ชายหนุ่มก็ยังคงเดินตามมาขวางหน้าของเธอไว้

“ไม่อยากมีเงินใช้หรือไง”

“…..” ยอมรับว่าเงินก็อยากได้แล้วก็ชอบเขามากด้วย แต่ถ้าเธอยอมทำตามข้อเสนอ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากผู้หญิงขายตัวเลยสักนิด

“จะเอาไหมเงิน”

“หนูขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวก่อนดิ…” แฟรงก์มองตามแผ่นหลังของหญิงสาวที่รีบวิ่งหนีเขาออกไป อะไรที่ได้มายากยากยิ่งรู้สึกท้าทายเสมอ ยิ่งเธอหนีเขายิ่งรู้สึกอยากเอาชนะ “อวดดีไปเถอะ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel