บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

“คุณหนูกลับมาแล้วเหรอคะ คุณหญิงบอกให้คุณหนูทั้งสองคนขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวลงมาทานอาหารค่ำค่ะ วันนี้มีแขกคนสำคัญมาค่ะ” หัวหน้าแม่บ้าน “มาช่า” เอ่ยทักทายคุณหนูทั้งสองคนอย่างรักใคร่ เพราะเธอเป็นแม่นมของคุณหนูทั้งสอง มาช่าพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเอื้อมมือไปรับกระเป๋าจากหญิงสาวทั้งสองส่งให้กับสาวใช้อีกคน

“วันนี้มีแขกมาเหรอคะ ไม่เห็นคุณแม่บอกอะไรเลย” จีน่าถามด้วยความใคร่รู้

“ใช่ค่ะ รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะ เดี๋ยวแขกก็มาแล้ว” มาช่าเร่งให้จีน่ารีบขึ้นห้อง เพราะอลิสเดินนำหน้าไปก่อนแล้ว

“มาช่า วันนี้หนูไม่ค่อยสบายเหมือนจะเป็นไข้” จีน่าน้ำเสียงออดอ้อนมาช่า หญิงสูงวัยมีสีหน้ากังวลพร้อมเอามือแตะที่หน้าผากของคุณหนูคนเล็กของบ้าน

“คุณหนูเป็นอะไรมากไหมคะ” มาช่าตะโกนเรียกสาวใช้อย่างรวดเร็ว “มีใครอยู่บ้าง!!” มีสาวใช้คนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมเตรียมรับคำสั่งของเธอ

“ค่ะ แม่บ้านใหญ่” สาวใช้ยืนรับคำสั่ง

“รีบโทรเรียกหมอเร็วเข้า คุณหนูไม่สบาย” น้ำเสียงของมาช่านั้นดูรีบร้อนหากแต่ยังไม่ทันได้ทำเช่นนั้นเสียงของอลิสก็ดังขึ้น

“ไม่จำเป็นต้องเรียกหมอหรอก ดูไม่ออกเหรอคะ ว่ายัยน้องตัวแสบนี้แกล้งป่วย” อลิสอดหมั่นไส้น้องสาวตัวเองไม่ได้ กับการแสดงละครหลอกคนใช้ภายในบ้าน

“ฉันป่วยจริง ๆ นะ พี่ดูสิ” จีน่าดึงมืออลิสไปแตะที่หน้าผาก แต่ถูกดึงมือกลับด้วยความรู้ทัน

“พอเลยไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ ไปอาบน้ำแต่งตัว” เธอพูดแล้วเดินขึ้นไปบนห้อง ปล่อยให้จีน่ายืนหน้างอ ก่อนที่จะได้ยินเสียงเดินลงส้นเท้าตรงมาหามาช่า

“ชิ..” จีน่าหันหน้ามาอ้อนมาช่า “มาช่าขา” สองแขนกอดมาช่า ใบหน้าอ้อนสุดฤทธิ์เพื่อขอความเห็นใจ เธอก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งเมื่อมีแขกมาบ้าน

“คุณหนูไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ เมื่อสักครู่ป้ากังวลแทบแย่”

“ก็หนูเบื่อ ต้องมานั่งปั้นหน้ากับแขกของแม่ สู้เอาเวลาไปอ่านหนังสือดีกว่า” เธอทำหน้าน่าสงสารส่งมาให้มาช่าอีกครั้ง

“วันนี้เป็นแขกคนสำคัญมากนะคะ รีบไปอาบน้ำเถอะค่ะ ป้าจะไปดูความเรียบร้อยในครัวก่อน” เธออมยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนพยักหน้าเร่งให้หญิงสาวที่รักดั่งบุตรสาวในไส้ให้ขึ้นไปเตรียมตัว

จีน่าคลายกอดมาช่าเดินคอตกขึ้นไปบนห้อง หญิงสูงวัยทำได้เพียงมองตามด้วยความเป็นห่วง เธอรู้ดีว่าจีน่าเป็นคนรักอิสระ ร่าเริงสดใส ออดอ้อน แต่ไม่เคยอ่อนแอให้ใครเห็น ต่างกับอลิสโลกส่วนตัวสูง วางตัวเก่ง พูดน้อย ถ้าจีน่าทำอะไรผิด อลิสจะคอยตักเตือนสอนจีน่าเสมอ “ช่างเป็นพี่น้องที่น่ารักจริง ๆ” มาช่าพูดเบา ๆ ด้วยรอยยิ้ม

ก๊อก ก๊อก

“จีน่าเสร็จหรือยัง เร็วเข้าแขกมาแล้วนะ” อลิสเดินเข้ามาเคาะประตูห้องเรียกน้องสาวให้ลงไปด้านล่าง เพราะมารดาให้สาวใช้ขึ้นมาตามเธอ

“เสร็จแล้ว” เสียงเปิดประตูห้องนอน จีน่าเดินออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ ถึงไม่อยากลงไปต้อนรับแขกแต่เธอก็ยังมีมารยาทในการแต่งตัวให้เกียรติอีกฝ่าย

ณ ห้องรับแขก

“มาแล้วเหรอจ๊ะ มา ๆ แม่จะแนะนำให้รู้จัก” เดซี่ นายหญิงของบ้าน ผู้ที่มีความโอบอ้อมอารี ใจดี แต่เด็ดขาด สีหน้ายิ้มแย้มหันมาทางลูกสาวทั้งสองคน “แม่ขอแนะนำให้รู้จัก คุณชายแดเนียลกับคุณชายดันเต้”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับผมแดเนียล และนี้น้องชายผม ดันเต้ ครับ” น้ำเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มนุ่มนวลมองไปทางน้องชายที่นั่งอยู่ด้านข้าง

“.......” ดันเต้ทำหน้าเรียบเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อน เขาจ้องมองสองสาวแค่หางตา ทำให้พี่ชายอย่างแดเนียลต้องเก็บสีหน้าไม่พอใจ

“ต้องขอโทษด้วยนะครับ น้องชายผมเป็นคนขี้อาย จะไม่ค่อยพูดกับคนแปลกหน้า” เมื่อพูดจบแดเนียล ก็หันหน้าส่งสายตาอาฆาตให้ผู้เป็นน้อง แต่ดันเต้ก็ยังมีท่าทีเช่นเดิม

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ ฉันชื่ออลิส และนี่คือจีน่าน้องสาวของฉันค่ะ” อลิสกล่าวคำทักทายด้วยความอ่อนโยนและมีมารยาท

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” จีน่าส่งยิ้มหวานให้ทั้งสองคนเป็นการทักทาย ถึงในใจไม่ยินดีที่ได้รู้จักก็เถอะ!

“ส่วนผมเป็นพ่อบ้านใหญ่แห่งตระกูลคาร์เวล ชื่อ ไรอันครับ ที่เรามาวันนี้คุณหญิงก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องอะไร วันนี้ทนายไม่ได้มาด้วยแต่ผมก็ได้รับมอบหมายให้นำพินัยกรรมมาให้ทั้งสองตระกูลได้เปิดอ่านครับ” พูดจบ ไรอันก็เปิดอ่านพินัยกรรมให้ทั้งสองตระกูลฟังจนจบ

“นี้มันเรื่องอะไรกันคะ? ทำไมคุณปู่ถึงไปทำพินัยกรรมแบบนี้ได้” จีน่าเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกไม่เป็นธรรม

“ที่จริงพ่อกับแม่ รู้เรื่องนี้ตั้งแต่ลูก ๆ 8 ขวบ แม่ก็ได้คุยเรื่องนี้กับคุณปู่แล้ว แต่ท่านก็ยังยืนยันคำเดิม เหตุผลเพราะอยากให้ทั้งสองตระกูลเป็นทองแผ่นเดียวกัน” เดซี่หันมาพูดคุยกับบุตรสาวคนเล็กก่อนหันมองไปทางอลิสที่ยังคงนิ่งเฉย

“หนูไม่ยอมรับหรอกค่ะ ทำไมหนูต้องทำตามคุณปู่ด้วย” จีน่าพูดเสียงดัง ไม่เห็นด้วยกับข้อความในพินัยกรรมระบุเอาไว้ เธอหันมองไปยังชายหนุ่มทั้งสองคนที่นิ่งไม่ต่างจากอลิส

“ใจเย็นก่อนนะทุกคน คุณชายทั้งสองคงตกใจเช่นเดียวกันใช่ไหม” เดซี่หันไปถามชายหนุ่มทั้งสอง

“ไม่ครับ ทางเรารู้เรื่องนี้ดีว่าคุณตาได้หมั้นหมายกับคุณหนูทั้งสองเอาไว้ให้เรา แต่ไม่นึกว่าในพินัยกรรมจะมีข้อกำหนดเรื่องการรับมรดกไว้ ให้พวกเราแต่งงานจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายพร้อมยังให้มีบุตรด้วย ถ้าไม่มีบุตรก็ต้องอยู่ด้วยกัน ถึง 10 ปี ถึงจะได้รับมรดกทั้งหมด แต่ทางผมไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ” เมื่อแดเนียลพูดจบ ทุกคนต่างเงียบ

ตระกูลคาร์เวล ตอนนี้มีเพียงสองพี่น้อง พ่อและแม่ของทั้งสองประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบิน เมื่อ 5 ปีก่อน เหลือไว้เพียงภาระอันยิ่งใหญ่สำหรับเด็กชายวัย 12 ปี และ เด็กชายวัย 11 ปี ไรอันติดตามตระกูลคาร์เวลมาทั้งชีวิต ได้รับสิทธิ์เป็นผู้ดูแลคุณชายทั้งสอง เขามีลูกชาย 1 คน ชื่อ “วิตเตอร์” อายุมากกว่าแดเนียล 2 ปี ทั้งสามคนสนิทกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน เขาได้สอนทุกอย่างให้ทั้งสามคน ไม่ว่าจะเรื่องของกิจการผลิตและส่งออกเหล้าของตระกูล การเรียนหนังสือที่เรียนหนักกว่าเด็กวัยเดียวกัน แต่ไรอันก็ยังให้คุณชายทั้งสองได้ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไปเพราะรู้ดีว่าคุณชายทั้งสองคนเหนื่อยมามากพอแล้ว อยากให้ใช้ชีวิตปกติทั่วไปบ้าง และทั้งสามคนเป็นความภาคภูมิใจของเขา

“ทางเราหวังว่าคุณหญิงเดซี่จะไม่ปฏิเสธข้อกำหนดในพินัยกรรมนะครับ ยังไงสองตระกูลก็ตกที่นั่งเดียวกัน อีกอย่างการแต่งงานก็ไม่ได้จะจัดในเร็ววัน ต้องรอให้ ทั้งสองฝ่ายอายุครบ 22 ปีถึงแต่งงานได้ ตอนนี้ผมอยากให้สองตระกูลได้ทำความรู้จักกัน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป คุณชายทั้งสองจะมาเรียนที่เดียวกันกับคุณหนูทั้งสองครับ”

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ทางเราไม่ปฏิเสธแน่นอนค่ะ หวังว่าต่อไปนี้เราจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันนะคะ ส่วนเรื่องเรียนของคุณชายไม่ต้องห่วงฉันจะจัดการให้เองค่ะ”

“เรื่องเรียนทางเราจัดการเรียบร้อยแล้วครับ ไม่รบกวนคุณหญิงเดซี่ครับ วันนี้ต้องขอบคุณมากที่ต้อนรับเป็นอย่างดี ต้องขอตัวกลับก่อน ถ้าคุณหญิงเดซี่มีอะไรบอกผมได้ไม่ต้องเกรงใจครับ”

“ขอบคุณมากค่ะ หวังว่าจะมีโอกาสต้อนรับคุณชายทั้งสองและคุณไรอันอีกนะคะ”

“ครับ ผมและคุณชายขอตัวก่อนครับ”

“ค่ะ” คุณนายเดซี่มองหน้าลูกสาวสองคนสลับกันไปมาแล้วถอนหายใจ จะทำยังไงให้ลูกเข้าใจเรื่องนี้ได้ ไม่ใช่ว่าเธออยากบังคับลูก แต่สถานการณ์นี้มีทางเดียวให้เลือกคือ ต้องทำตามพินัยกรรมเท่านั้น ไม่อย่างนั้น ตระกูลคงไม่เหลืออะไรเป็นแน่

“คุณแม่จะไม่อธิบายอะไรหน่อยเหรอคะ” อลิสถามผู้เป็นมารดาอย่างรอคำตอบ “ไม่เข้าใจทำไมผู้ใหญ่ชอบทำอะไรให้มันยุ่งยาก”

“แม่ขอโทษ ถึงยังไงเราก็ต้องทำตามพินัยกรรม” เธอไม่รู้จะตอบคำถามของบุตรสาวเช่นไร ไม่ใช่ว่าไม่คัดค้านเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วก็อยากให้ทุกคนหาทางแก้ไขร่วมกัน

“หนูไม่ยอมหรอก คุณแม่เห็นคุณชายสองคนนั้นไหม หน้าตาเขาไม่รับแขกเลย แค่คิดก็ขนลุกแล้วค่ะ” จีน่าพูดพลางเอามือลูบแขนทั้งสองข้าง แค่นึกถึงดวงตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึกนั้นก็ทำให้หนาวเหน็บไปทั้งตัวแล้ว

“แล้วเราต้องทำยังไงกันคะ คุณพ่อว่ายังไงบ้างเรื่องนี้” อลิสยิงคำถามต่อทันที

“คุณพ่อก็พูดเหมือนกันกับแม่ แม่ขอร้องลูกทั้งสองคนได้ไหม แม่รู้ว่าลูกสองคนไม่พอใจกับการตัดสินใจของคุณปู่ ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว แม่อยากให้ลูกลองเปิดใจเรียนรู้ซึ้งกันและกันดูก่อน กว่าจะถึงวันแต่งงาน ค่อยว่ากันอีกที”

“ไม่เอา ยังไงก็ไม่ค่ะ แค่คิดว่าต่อไปต้องเจอหน้าคุณชายนั้นทุกวัน ชีวิตก็มืดมนขึ้นมาทันทีเลย” จีน่าปฏิเสธทันที

“ถ้าเธอไม่ทำตาม ก็เตรียมตัวนอนข้างถนนได้เลย เพราะต่อไปเธอจะไม่มีบ้านให้ซุกหัวนอน เข้าใจไหมยัยน้องโง่” อลิสที่รับฟังเหตุผล เพราะมารดาเองก็คงทำดีที่สุดแล้ว ไม่อยากกดดันให้ต้องเป็นกังวลไปมากกว่านี้

“นี่พี่ยอมทำตามเหรอ เราพึ่งจะอายุเท่าไหร่คะ อยู่ ๆ ก็มีสามีในอนาคตโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้”

“แล้วมีทางออกที่ดีกว่านี้ไหม บอกฉันมาสิ” อลิสถามกลับเพราะพินัยกรรมระบุเอาไว้อย่างครอบคลุมทุกอย่าง

จีน่า นิ่งแล้วคิดทบทวนถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ในพินัยกรรม เธอลืมไปได้ยังไงนะ ถ้าเราไม่ทำตามมรดกทุกอย่างจะต้องถูกบริจาคให้การกุศลต่าง ๆ ตามที่ระบุเอาไว้ในพินัยกรรม

“จีน่าแม่เข้าใจลูกนะจ๊ะ วันนี้เหนื่อยกันมาทั้งวันแล้วเราไปกินข้าวแล้วพักผ่อนกัน มาให้แม่กอดหน่อย” เดซี่กอดลูกทั้งสองด้วยความรัก “แม่รักลูกนะ”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel