บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1

“นี่เธอดูสินั้นนางฟ้าประจำคณะของเรา” เสียงเจื้อยแจ้วของเหล่านักศึกษาชายหญิง ดังขึ้นเมื่อมองเห็นหญิงสาวทั้งสองเดินลงมาจากรถยนต์ราคาแพงที่ใช่แค่มีเงินจะซื้อได้ถ้าหากฐานะไม่ได้ร่ำรวย

“ฉันเป็นผู้หญิงยังหลงรักเลย” นักศึกษาหญิงในกลุ่มที่นั่งอยู่ใต้ตึกเรียนมองด้วยสายตาอิจฉา

“เกิดมาสวยอะไรก็ดูดีไปหมด ฉันอิจฉาจริงๆ” คำพูดนี้ไม่เกินจริง เพราะหญิงสาวทั้งสองต่างเป็นที่พูดถึงของคนในมหาลัยแห่งนี้

นางฟ้าประจำคณะ เป็นฉายาที่เหล่านักศึกษาคณะบริหารธุรกิจตั้งให้ “อลิส” นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจปีสุดท้าย สาวสวยผิวขาวอมชมพู ผมยาวถึงเอวคอดถูกทักเปียเอาไว้สองข้าง บนกรอบหน้ายังมีแว่นสายตา ที่ไม่สามารถบดบังความสวยจากใบหน้าขาวใสนั้นได้เลย เธอเป็นลูกสาวคนโตที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์

ส่วนหญิงสาวอีกคนที่เดินลงจากรถยนต์คันเดียวกัน “จีน่า” น้องสาวแท้ ๆ ของ “อลิส” เธอคัดลอกทุกอย่างมาจากพี่สาว แม้กระทั่งความฉลาด ยกเว้นนิสัยที่แตกต่างกับพี่สาวราวฟ้ากับดิน เธอเป็นนักศึกษาปี 1 คณะบริหารธุรกิจเช่นเดียวกัน

“เย็นนี้รีบกลับบ้านนะ ห้ามไปเถรไถลที่ไหน” อลิสบอกน้องสาวที่กำลังเดินแยกกันไปเข้าเรียน

“รู้แล้ว พี่ย้ำมาตลอดทางไม่ลืมหรอก” จีน่าหันมาพูดกับอลิสพร้อมยิ้มร่าเริง

“ให้จริงเถอะ ทุกครั้งก็ลืม ถ้ากลับช้า วันนี้แม่บ่นยาวแน่” การย้ำเตือนของเธอนั้นล้วนหวังดีไม่อยากให้น้องโดนมารดาบ่นเพราะจะเป็นการบ่นที่กินเวลานานนับเกือบชั่วโมง

“โอเค ๆ ไปเข้าเรียนกันเถอะ” จีน่าพูดแทรกขึ้น พร้อมเดินหันหลังจากไปทันที เธอเดินเข้าไปในห้องเรียนสายตากวาดมองหาโต๊ะที่นั่งว่างก่อนสะดุดเข้ากับเพื่อนสนิทที่กำลังโบกมือทักทายมาจากท้ายห้องเรียน

“จีน่าทางนี้” เสียงเรียกของ แอนนา สาวสวยผมลอนประบ่าสีน้ำตาลเพื่อนคนสนิท เธอโบกมือเรียกพร้อมส่งยิ้มมาให้

“หวัดดี” เธอเดินยิ้มเข้ามาแล้วกล่าวคำทักทาย

“วันนี้เธอมาสายตั้ง 5 นาที” แอนนามองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง

“แต่อาจารย์ยังไม่เข้า ก็ถือว่ายังไม่สาย” หญิงสาววางกระเป๋าสะพายลงบนโต๊ะ สายตาทุกคู่ต่างให้ความสนใจมาที่เธอ จีน่าชินเสียแล้วกับสายตาของผู้คนที่คอยมองมาอยู่เสมอ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ตัวเธอเองพอใจ

“เย็นนี้เธอว่างไหม ไปแวะร้านเค้กเปิดใหม่กัน” แอนนายื่นโทรศัพท์ที่มีรูปภาพร้านเค้กเปิดใหม่มาตรงหน้าของจีน่า

“เสียใจด้วยนะ เอาเป็นวันอื่นแล้วกันวันนี้ฉันต้องกลับบ้านเร็วหน่อย”

“แปลกจัง ปกติแกจะไม่ปฏิเสธคำชวนของฉัน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” แอนนารู้สึกสงสัย

“ฉันก็ไม่รู้” จีน่าหันมาสนใจหน้าจอโทรศัพท์ของตนเอง ทำให้คำสนทนาหยุดเพียงเท่านั้น แอนนารู้ดีว่าจีน่าไม่พูด นั้นก็หมายความว่า อย่าถามต่อเพราะยังไงคงไม่ได้คำตอบจากปากของเธอ ไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้อง นักศึกษาทุกคนต่างหันไปสนใจกระดานพร้อมฟังอาจารย์อธิบายบทเรียน

“เลิกเรียนสักที ทำไมเปิดเทอมวันแรกก็เหนื่อยขนาดนี้” เสียงบ่นของแอนนาดังขึ้น พร้อมกับในห้องเรียนก็มีเสียงพูดคุยของเพื่อนร่วมห้อง

“กลับกันเถอะ” จีน่าพูดพร้อมเก็บของใส่กระเป๋า “เธอกลับพร้อมฉันไหมเดี๋ยวให้คนขับรถแวะไปส่งเธอที่บ้านด้วย” เธอหันมาถามแอนนาที่กำลังเตรียมจะกลับบ้าน

“ไม่เป็นไร ไม่ได้ไปกินเค้กกับแก ฉันเปลี่ยนแผนใหม่แล้ว วันนี้หนังสือการ์ตูนที่รอคอยมานานออกวางขาย ฉันต้องรีบไปซื้อก่อนหมด เจอกันพรุ่งนี้นะ” แอนนาว่าแล้วก็คว้ากระเป๋าสะพายหลังพร้อมวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

จีน่ามองตามหลังแอนนาที่วิ่งหายไปอย่างร่าเริงแล้วส่ายหน้า ไม่คิดว่าเพื่อนจะเปลี่ยนท่าทีได้รวดเร็วมากขนาดนี้ เธอเองก็ต้องรีบเก็บของกลับบ้าน เดินออกมาหน้าห้องเรียนก็เจอกับ “มาร์ค” หนุ่มหล่อ เรียนดีกีฬาเด่นนักบาสประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ ยืนยิ้มให้เธอในมือถือดอกกุหลาบสีแดงและมันกำลังถูกยื่นมาด้านหน้าของเธอ

“ขอปฏิเสธ” เธอตอบออกมาโดยที่มาร์คยังไม่ได้พูดอะไรด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วเดินผ่านหน้าของเขาไป

“กูบอกไงคะแล้ว นี้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่พยายาม ถูกปฏิเสธทุกครั้ง กูยอมใจมึงจริง ๆ เพื่อน” เพื่อนของมาร์คที่มาด้วยกัน ตบลงบนบ่าของเขาเบา ๆ เป็นการปลอบใจ

“ไม่ว่าจะกี่ครั้งกูจะทำจนกว่า จีน่าจะรับรักละวะ” มาร์คพูดด้วยแววตาเป็นประกายด้วยความหวังที่ไม่ยอมแพ้ “ครั้งหน้าจะสารภาพรักแบบไหนดีนะ” เขากำลังใช้ความคิด ดูเหมือนว่าการสารภาพรักแล้วโดนจีน่าปฏิเสธคงเป็นเรื่องเคยชินไปแล้ว

“ยอมมึงจริง ๆ” เขาส่ายหน้าคล้ายเอือมระอา ไม่เข้าใจว่าทำไมมาร์คถึงได้ดื้อด้านที่จะเดินหน้าต่อ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าหญิงสาวที่ตนเองมีใจไม่เคยหันมองมาทางเขาสักครั้ง “อย่ามาร้องไห้ให้กูปลอบใจแล้วกัน”

จีน่าผู้หญิงคนเดียวที่มาร์คคอยสารภาพรักมาตลอดสามปี แต่ก็โดนปฏิเสธทุกครั้ง เขาไม่เข้าใจทั้งที่ตัวเองเพียบพร้อมทุกอย่าง ทำไมเธอถึงไม่เคยมองมาที่เขาเลย ทุกครั้งที่โดนปฏิเสธเขาไม่เคยยอมแพ้ ถึงแม้ในใจลึก ๆ จะผิดหวัง แต่ก็ยังมีความมุ่งมั่นว่าสักวันจีน่าจะเห็นถึงความรักความจริงใจที่เขามีให้ตลอดมา

“ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย” อลิสหันมาพูดคุยกับน้องสาวที่ทำหน้าบึ้งนั่งอยู่บนรถระหว่างทางกลับบ้าน

“ก็เพราะ…” หญิงสาวกลืนคำพูดลงไปในลำคอ เธอเบือนหน้ามองออกไปข้างนอกกระจกรถ พี่สาวคงรู้ว่าทำไมเธอถึงได้ทำสีหน้าท่าทางแบบนี้ออกมา

“มาร์คเหรอ?”

“พี่รู้ได้ไง”

“ก็เห็น ควรชินได้แล้วนะ”

“แต่ฉันไม่ชิน และไม่ชอบ คนอะไรก็ไม่รู้ โดนปฏิเสธขนาดนั้นยังมาให้เห็นหน้าอีก” เธอบ่นให้มาร์คที่คอยแต่มาสารภาพรักกับเธอ ทั้งที่ตนเองยังไปจีบสาวคนอื่นอยู่เรื่อย

“ก็รับรักเขาไปเลยสิ”

“ไม่เอา”

“เลิกอารมณ์เสียได้แล้ว นี้ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย”

“จ้ะ” เธอนั่งคิดมาตลอดทางกลับบ้าน ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมมาร์คถึงมีความพยายามมากมายขนาดนี้ ผู้หญิงที่ดีเข้าหาเขาก็มีมาก “แล้วพี่รู้ไหมทำไมวันนี้แม่ให้รีบกลับบ้าน”

“ไม่รู้สิ” อลิสก้มหน้าอ่านหนังสือในมือ

“ว่าแต่พี่เลิกใส่ไอ้แว่นนี้ได้ไหม เห็นแล้วก็ขัดตา” เธอรู้สึกอารมณ์เสีย ทั้งที่คอนแทกต์เลนส์ก็มีให้ใส่ทำไมถึงยังดันทุรังสวมแว่นสายตาเชย ๆ แบบนี้

“แล้วจะให้ใส่อะไร”

“คอนแทกต์เลนส์ไงคะ ใส่แว่นเชยออก” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จีน่าพูดเรื่องแว่นสายตากับพี่สาว

“ไม่อะ ชอบแบบนี้ ถึงใส่แว่นก็สวยนะ” อลิสเป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง ต่อให้แต่งกายเหมือนขอทานเธอก็ยังชมว่าตัวเองนั้นสวย

“ห๊ะ พี่ไปเอาความมั่นใจนั้นมาจากไหน” เสียงหัวเราะดังขึ้น จีน่ารู้ดีถึงคำตอบรอยยิ้มที่เหยียดตรงบนริมฝีปากของพี่สาว เห็นแบบนี้พี่ของเธอนั้นไม่ใช่เด็กเรียบร้อยอย่างที่เห็นจากภายนอก

“ถ้าบอกว่าฉันไม่สวยเธอก็ไม่สวยเหมือนกันแหละ” เธอเลิกคิ้วมองน้องสาวที่ทำหน้าไม่พอใจ

“ไม่เกี่ยวเลยเถอะ”

“ทำไมจะไม่เกี่ยว เอากระจกขึ้นมาส่องดูหน้าตัวเองสิ” เธอยื่นกระจกให้น้อง

“ได้” จีน่าหยิบกระจกขึ้นมาส่องตามที่พี่สาวบอก “ฉันลืมไปได้ไงนะว่าเราหน้าเหมือนกันขนาดนี้” ถ้าเธอกับพี่สาวแต่งตัวเหมือนกันคงแยกไม่ออกแน่ว่าใครเป็นพี่เป็นน้อง แต่มีจุดหนึ่งที่แตกต่าง คือ ไฝเล็กที่ใต้ตาของเธอ คนสนิทเท่านั้นถึงจะรู้ แต่ถึงยังไงก็ไม่ใช่ฝาแฝดแต่เป็นพี่น้องที่เกิดห่างกันหนึ่งปี

“ยังคิดว่าฉันไม่สวยและเชยอยู่อีกไหม”

“ไม่แล้วจ้ะ พี่สวยที่สุดในโลกเลย” เธอหันไปยิ้มให้พี่สาวอย่างเอาใจ

“พูดได้ดี”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel