บท
ตั้งค่า

บทที่หก ใช้เด็กเป็นเหยื่อล่อ

"พวกเราจะใช้เด็กเป็นเหยื่อล่อ"

เสียงรายงานนั้นดังชัดเจนทั่วห้อง ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่บุรุษหนุ่มที่ทอดกายอย่างเกียจคร้านบนที่นั่งสูงสุด

"พวกมันเป็นขบวนการที่เห็นแก่เงิน หากมีเด็กไร้เดียงสาเดินอยู่เพียงลำพังในเขตเป้าหมาย ถึงแม้จะเป็นการหลบหนีทว่าพวกมันย่อมต้องลงมือแน่นอน" ทหารคนสนิทกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"จากนั้นกองกำลังของเราจะซุ่มจับกุมทันที"

เหล่าขุนนางตำแหน่งเล็กไม่กล้าขัดใจผู้เป็นใหญ่ในห้องประชุมพากันพยักหน้า ยกเว้นเจ้าเมืองชราผู้ครองตำแหน่งปกครองเมืองหลัวซาน

"กระหม่อมไม่เห็นด้วยพะยะค่ะ...หากการใช้เด็กเป็นเหยื่อล่อเช่นนี้ หากเกิดอันตรายอะไรขึ้น เด็กผู้นั้นจะทำอย่างไร" เสียงของเขาหนักแน่น เต็มไปด้วยความกังวลอย่างจริงใจเนื่องจากชายหนุ่มเป็นทั้งเจ้าเมืองและเป็นพ่อคน มีครอบครัวและลูกน้อยจึงรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของความเป็นพ่อเป็นแม่ดีไม่แพ้ใคร

"ขอองค์ชายใหญ่ทรงพิจารณาแผนการอื่นเถิดพะยะค่ะ"

ภายในห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบชั่วขณะหนึ่ง จนกระทั่งองค์ชายใหญ่เคลื่อนสายพระเนตรมองเจ้าเมืองชราด้วยแววตาเยียบเย็น

ริมพระโอษฐ์ของหวางเสี่ยเฟิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน ก่อนตรัสด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์

"หากต้องการทำการใหญ่ให้สำเร็จอย่าคิดเล็กคิดน้อย"

“...”

"เด็กที่ใช้เป็นเหยื่อล่อ ข้ามิได้บังคับเขาแต่อย่างใด เด็กผู้นั้นและครอบครัวของเขาเป็นฝ่ายเสนอตัวเองอาสาเองด้วยซ้ำ"

“...”

คำพูดของพระองค์ทำให้เจ้าเมืองชรานิ่งงันไปชั่วขณะ

"พวกเขาได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนมาก และทหารของข้าจะคอยเฝ้าดูเด็กผู้นั้นตลอดเวลา ไม่มีทางเกิดอันตรายใด ๆ ได้"

"แต่หาก..." เจ้าเมืองกลืนน้ำลายฝืดคอ "หากเกิดเหตุไม่คาดฝันเล่าพะยะค่ะ"

"ข้าไม่มีทางทำงานเล็กน้อยเช่นนี้พลาด"

เสียงขององค์ชายใหญ่เยียบเย็นลงเรื่อย ๆ สายตาของพระองค์คมปลาบราวกับใบมีด

"คดีเล็กน้อยเพียงเท่านี้…หากข้าพลาดพลั้งไป อย่าเรียกข้าว่าองค์ชายเลย!" เสียงที่ก้องกังวานไปทั่วห้องประชุมทำให้ไม่มีใครกล้าปริปากโต้แย้ง

บรรยากาศในห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด

ท้ายที่สุดจึงไม่มีใครกล้าคัดค้านอีก

เจ้าเมืองชราทำได้เพียงถอนหายใจอย่างหนักหน่วง พลางมององค์ชายและคิดว่าพระองค์เป็นบุรุษที่แผ่รังสีอันน่ากดดันออกมาได้เก่งยิ่งนัก

ข่าวลือที่เมืองหลวงบอกว่าองค์ชายใหญ่เป็นบุรุษที่ไม่เอาถ่าน เอาแต่เที่ยวเล่น หาความรับผิดชอบมิได้นั้นชายชรากำลังคิดว่าข่าวเหล่านั้นเป็นเพียงข่าวลือโคมลอยใช่หรือไม่

หากไม่ใช่ข่าวลือโคมลอยแล้วเหตุใด…ดวงตาของบุคคลในข่าวลือจึงดูอำมหิตและน่าเกรงขามได้ถึงเพียงนี้กัน

เจ้าเมืองหลัวซานเงยหน้ามององค์ชายใหญ่ที่กำลังเดินนำทหารของตนออกจากห้องระชุมไปอีกครั้ง ทว่ายิ่งมอง ก็ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่นอย่างน่าประหลาด

องค์ชายใหญ่ หวางเสี่ยเฟิง มิได้เป็นเพียงองค์ชายเสเพลธรรมดาเช่นที่ข่าวลือกล่าวไว้แน่นอน

ในตอนนั้นเอง...

ทหารคนสนิทขององค์ชายใหญ่เดินย้อนกลับเข้ามา โน้มตัวกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของเจ้าเมือง

"ท่านไม่ต้องตกพระทัยไปนักขอรับท่านเจ้าเมือง"

เจ้าเมืองขมวดคิ้ว "หมายความว่าอย่างไร"

"องค์ชายใหญ่ของข้าเป็นคนตรงไปตรงมา" ทหารคนสนิทนามว่าเมิ่งฉินกระซิบ "สาเหตุที่พระองค์ดูอารมณ์ไม่ดีหรือหงุดหงิดเป็นพิเศษในครานี้ นั่นเพราะ…พระองค์ทรงถูกฮ่องเต้บังคับให้ทำภารกิจนี้น่ะขอรับ"

เจ้าเมืองเลิกคิ้วขึ้น "ถูกบังคับหรือ?"

ทหารคนสนิทหัวเราะเบา ๆ "พระราชโองการของฮ่องเต้ บังคับให้องค์ชายใหญ่ต้องมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง...และที่สำคัญ…"

“...”

"ภารกิจครั้งนี้ดันเกี่ยวกับสิ่งที่องค์ชายใหญ่เกลียดที่สุด"

เจ้าเมืองหลัวซานขมวดคิ้วแน่นขึ้น "แล้วองค์ชายใหญ่… เกลียดสิ่งใดกัน?"

ทหารคนนั้นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"เด็กขอรับ"

“!!”

"องค์ชายใหญ่ของข้าน้อยเกลียดเด็ก"

เจ้าเมืองถึงกับเบิกตากว้าง "เกลียดเด็กหรือ"

"ใช่ เพราะเด็กคือสิ่งมีชีวิตที่เปราะบางที่สุดในโลกอย่างไรเล่าขอรับ องค์ชายทรงเคยบอกว่าทั้งอ่อนแอ…ไร้ประโยชน์ โดยปกติแล้วองค์ชายใหญ่มักจะหาทางหลีกเลี่ยงทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเด็ก แต่ครั้งนี้พระองค์ไม่อาจเลี่ยงได้ เพราะเป็นพระราชโองการของฮ่องเต้"

หลังจากกล่าวจบ ทหารคนนั้นก็ค้อมศีรษะแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

เจ้าเมืองหลัวซานมองแผ่นหลังของชายผู้นั้น ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

"บุรุษที่ไม่ชอบเด็กถึงเพียงนี้…จะสร้างครอบครัวได้หรือ"

แต่เมื่อคิดไปคิดมาแล้ว บุรุษเช่นนั้นในชาตินี้คงไม่มีทางมีครอบครัวได้หรอกกระมัง
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel