ตอนที่ 3 เล่นเกม 2
ในวัยที่เธอเพิ่งอายุเจ็ดขวบ พ่อกับย่าประสบอุบัติเหตุพร้อมกัน ข่าวว่าพ่อเธอเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคุณย่าสร้อยใช้เรี่ยวแรงสุดท้ายที่เหลือช่วยให้พยาบาลติดต่อกับแม่เขา
จากวันนั้นเมษาจึงได้เข้ามาอยู่ในการปกครองของคุณจิตรา
เขายังจำภาพเด็กหญิงตัวบางใส่ชุดดำไว้ทุกข์ในวันที่เธอหิ้วกระเป๋าใบเดียวตามคุณจิตรากลับมาได้ดี ในวันนั้นเขากำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสองขณะที่เธอเพิ่งจะเจ็ดขวบ
คิดมาถึงตรงนี้ ให้คิดอย่างไรเธอก็ยังเด็กเกินไปสำหรับเขา
"ไหนว่าจะทำการบ้านไง"
กันย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากเปิดประตูห้องนอนลูกชายเข้ามา จึงได้เห็นเด็กน้อยกับเด็กโข่งนอนเอกเขนกกันอยู่บนเตียงใหญ่ลายการ์ตูน ในมือของทั้งคู่ถือโทรศัพท์คนละเครื่องในท่าทางที่กำลังกดเกมกันอย่างเมามัน
"การบ้านเสร็จแล้วครับ" คนตอบแอบเอาโทรศัพท์ยัดใส่ใต้ผ้าห่ม ส่วนเด็กโข่งตัวโตแอบเอาไว้ข้างหลัง
"เสร็จแล้วก็เตรียมตัวนอนได้แล้วจะสามทุ่มแล้ว เราก็เหมือนกันอย่าชวนน้องเล่นโทรศัพท์เยอะ"
"ค่ะ ขอโทษค่ะ พอดีการบ้านเพิ่งเสร็จค่ะ และคิดว่าเดี๋ยวน้องมาร์ชก็จะนอนแล้ว เลยขอเล่นกันแป๊บเดียวค่ะ พี่กลับห้องก่อนนะ ฝันดีครับ"
ในท้ายประโยคเมษาจึงหันไปยิ้มน้อยๆ ให้น้องมาร์ช พร้อมทั้งจุ๊บที่หน้าผากของเด็กชายด้วยความเคยชิน แต่เมื่อเห็นสายตาคมของคนเป็นพ่อที่ยืนพิงขอบประตูมองอยู่ เธอจึงได้รีบลงจากเตียงจับผ้าห่มคลุมร่างน้อยๆ ที่นอนรอ ก่อนจะถอยห่างออกไป
กันย์หลีกทางให้คนตัวเล็กเดินออกประตูไปแล้ว จึงได้ปิดไฟปิดประตูห้องนอนลูกชายลง
"ลองไปหัดขับรถไหม ฉันจะซื้อรถให้ จะได้ไม่ต้องเปียกฝน" กันย์ยั้งคำว่าเพราะมันทำให้เขาต้องพลอยโดนดุไปด้วยไว้ได้ทัน
"ขอบคุณค่ะ อากันย์ แต่เมย์เคยลองขับแล้ว ไม่ได้จริงๆ ค่ะ"
คนตอบได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งให้ ทั้งที่จริงแค่เธอจับพวงมาลัย ขาเหยียบคันเร่งให้รถขยับได้เพียงนิด เธอก็ตกใจเหงื่อแตกมือไม้สั่นไม่มีแรงไปเสียอย่างนั้น ภาพของพ่อยังติดตาเธอจนทุกวันนี้ แม้ในวันนั้นเธอจะไม่เห็นภาพในที่เกิดเหตุ แต่ภาพที่โรงพยาบาลและต่อจากนั้น ก็ยังฝังใจเธออยู่จนทุกวันนี้
เพราะรอยยิ้มทีเล่นทีจริงที่ยิ้มกลบเกลื่อนนั้น คนถามจึงไม่ทันรู้ว่าแท้จริงเธอหัดขับรถไม่ได้สักทีเป็นเพราะอะไร
"งั้นเมย์ขอตัวก่อนนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ"
เมื่อเห็นเขาไม่พูดอะไรต่อ ยืนใกล้ก็เหมือนจะยิ่งหายใจไม่ออก หลีกได้ก็ควรหลีก เมษาจึงได้รีบขอตัวหลบออกมาเสียก่อน
รับรู้มาตลอดว่านิสัยลูกชายคนโตของคุณย่าค่อนข้างจะเงียบขรึม ดุกว่าทุกคนในบ้าน และเป็นคนที่เธอสนิทด้วยน้อยที่สุด
และเธอไม่ได้รู้สึกไปเอง รับรู้ได้ว่าช่วงนี้เหมือนกันย์จะยิ่งดุเธอกว่าเดิม เหมือนทุกการกระทำของเธอมันจะขัดหูขัดตาเขาไปเสียทุกอย่าง
หรือเพราะตอนที่เธอเข้ามาในบ้านนี้ใหม่ๆ เขาก็เป็นหนุ่มไปเสียแล้วจึงทำให้มีช่องว่างเยอะ และต่อจากนั้นอีกสองปีเขาก็ไปเรียนต่อต่างประเทศทำงานอยู่ที่นั่นอีกเกือบสองปี กลับมาได้ไม่ถึงปีก็แต่งงานและไปใช้ชีวิตครอบครัวอยู่ข้างนอก
จนเธอได้ข่าวว่าเขาหย่ากับภรรยาตอนน้องมาร์ชอายุได้ขวบกว่า และหลังจากนั้นเขาก็กลับมาอยู่บ้านอีกครั้งพร้อมกับเด็กชายตัวน้อยในวัยขวบเศษ
ส่วนอาตุลย์ที่ยิ้มเก่งยังพอพูดคุยได้บ้าง แต่คนที่สนิทที่สุดเห็นจะเป็นอาธันย์ที่ห่างจากเธอไม่กี่ปี เรียกว่าเป็นเพื่อนเล่นกันมาก็ว่าได้ และถ้าไม่ได้อาธันย์เธอก็ยังคิดภาพไม่ออกว่าในวันนั้นเธอจะใช้ชีวิตในบ้านจิรวัฒน์จินดาได้อย่างไร
ในวันนั้นเธอมักจะขลุกตัวอยู่ในสวนหลังบ้านใหญ่ ศาลาแปดเหลี่ยมสีขาวในสวนกลายเป็นเซฟโซนสำหรับเธอ และก็ได้อาธันย์ที่เข้ามาพูดคุยในตอนแรก และก็ชวนเธอวิ่งเล่นซุกซนไปทั่วสวนไม้ใหญ่อันแสนร่มรื่นที่คุณย่าจัดตกแต่งไว้อย่างดี
รวมถึงยังแนะนำเพื่อนใหม่ให้เธอได้รู้จักในวันนั้น ไอ้ไข่ต้ม ตัวเงินตัวทองในสวนหลังบ้าน และทุกวันนี้ไอ้ไข่ต้มก็กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของเธอไปโดยปริยาย
แยกจากสองพ่อลูกนั้นกลับลงมาที่ชั้นล่างอีกครั้ง ก่อนจะเข้าห้องนอนเมษาจึงเดินไปหยิบขวดน้ำเปล่าไปเผื่อไว้ในห้อง
"ไงเรา ได้ข่าวว่าเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเลยหรือไง"
คนที่กำลังนึกถึงส่งเสียงทักมาจากด้านหลัง
ธันย์ ลูกชายคนสุดท้องของคุณย่า แม้จะเป็นลูกคนสุดท้องความสูงไล่เลี่ยกับพี่ชายทั้งสองคนแต่ดูเหมือนรูปร่างของธันย์จะหนากว่าพี่ชายทั้งสองคน คนถามยังอยู่ในชุดทำงานเสื้อเชิ้ตถูกถลกแขนถึงข้อศอก ส่วนในมือก็ถือแก้วเหล้าเดินมาทางนี้ คงจะมารินเหล้าเพิ่ม
"ค่ะ อาตุลย์ฟ้องหรือคะ"
"เขาเรียกเล่าให้ฟัง แล้วมัวแต่จีบกับหนุ่มอยู่หรือไง ถึงโดนไล่ออกจากห้องเรียน"
"โห อาธันย์ข้อหานี้เมย์รับไม่ไหวหรอกค่ะ" ธันย์ได้แต่หัวเราะเบาๆ เมื่อเจ้าหล่อนเอ่ยปฏิเสธเสียงสูง
"อากับอาตุลย์จะลงขันซื้อรถให้เรา พรุ่งนี้อาจะพาไปหัดขับรถ เวลากลับเย็นๆ จะได้ไม่เปียก"
"พรุ่งนี้เมย์มีนัดกับเพื่อนต้องไปทำรายงานกลุ่มค่ะ วันอาทิตย์ด้วย"
เจ้าตัวรีบปฏิเสธทันที ข้ออ้างก็คิดได้เมื่อครู่นี่แหละ
"ตามใจ"
ธันย์ได้แต่ส่ายหน้า เดินเข้าไปหลังเคาน์เตอร์บาร์เพื่อจะรินเหล้า สวนทางกับเธอที่กำลังเดินกลับออกมาพอดี ฝ่ามือใหญ่จึงยกขึ้นอังที่หน้าผากคนตัวเล็ก
เมษาหยุดชะงักด้วยความตกใจ คิดว่ากำลังจะถูกเขกหัวจึงได้แต่หลับตาหยี สุดท้ายฝ่ามือใหญ่ก็เพียงแตะที่หน้าผากเบาๆ
"เตรียมหายาแก้ไข้ไว้ด้วยล่ะ"
"ค่ะ...โอ๊ย"
เสียงร้องต่อจากนั้น เพราะเมื่ออยู่ๆ มือที่แตะอยู่หน้าผากก็เขกเข้าที่ศีรษะของเธอแม้จะไม่แรงแต่ก็เสียงดังชัดเจน
"อาธันย์ เดี๋ยวเมย์ฉี่รดที่นอนพอดี"
"ใส่แพมเพิส"
คนที่เดินกอดขวดน้ำอยู่จึงได้แต่หันไปนิ่วหน้าใส่คนที่กำลังรินเหล้าอีกครั้ง ก่อนจะเร่งฝีเท้าหนีขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็ว
