ตอนที่ 3 เล่นเกม 1
"พี่เมย์ มาร์ชไปรอที่ห้องนะครับ"
เด็กชายตัวน้อยทานข้าวเสร็จก่อนใครก็รีบหนีกลับไปห้องตัวเองก่อนทันที พร้อมกันนัดแนะพี่สาวคนสวยให้ไปสอนการบ้าน
"ได้ครับ เดี๋ยวพี่เมย์ตามไปครับ"
เพราะข้าวยังเหลืออีกกว่าครึ่งจาน เมษาจึงได้แต่รับปากเด็กชายตัวน้อย
"อย่าแอบเล่มเกมนะมาร์ช อ่านหนังสือรอนะ" เสียงเข้มรู้ทันของผู้เป็นพ่อ ทำให้ลูกชายได้แต่รับปากเสียงอ่อย ก่อนจะเร่งฝีเท้าหนีหายไปจากห้องอาหาร
"แล้วเสาร์อาทิตย์นี้แม่เขาจะมาเยี่ยมหรือเปล่าล่ะ" คุณย่าจิตราหันไปถามลูกชายคนโต เมื่อหลานชายออกจากห้องอาหารไปแล้ว
"เห็นว่าพรุ่งนี้จะมานะครับ มารับไปกินข้าวตอนเที่ยง" กันย์เอ่ยตอบผู้เป็นแม่เสียงเรียบ แกล้งทำเป็นไม่เห็นสายตาของคุณจิตราที่มองมาอย่างค้นหา
"ทีเมื่อก่อนไม่สนใจดูดำดูดี พอเลิกกับแฟนใหม่ก็ทำเป็นหันมาสนใจลูก ไม่ใช่อยากจะกลับมาคืนดีกับแกล่ะเจ้ากันย์"
"ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับแม่"
เมื่อเรื่องที่คุณย่าคุยกับลูกชายคนโต เป็นเรื่องที่เธอไม่สมควรน่าจะรับรู้ เมษาจึงได้ค่อยๆ เอ่ยขอตัวเบาๆ ทันทีที่ข้าวในจานหมด เพื่อตามไปสอนการบ้านลูกชายของเขา
ตุลย์เองก็ใช้จังหวะนี้ในการปลีกตัวออกมาเช่นกัน คงเหลือเพียงสองแม่ลูกที่ยังพูดค้างในเรื่องนั้นอยู่
"ไม่ใช่แกคิดจะกลับไปคืนดีกับเมียเก่าแก่นะเจ้ากันย์"
คุณจิตรายังคาดคั้นต่อยิ่งเมื่อไม่มีใครอยู่ท่านก็ยิ่งเอ่ยถามเรื่องที่ชวนให้รู้สึกขัดหูขัดตา
"ไม่ใช่อย่างที่แม่คิดหรอกครับ"
"ไม่ต้องมีใครคิดหรอกย่ะ เขาก็เห็นกันหมดว่าเมียเก่าแกน่ะมาแบบมีจุดประสงค์ไม่ดี"
"เขาก็มาหาลูกเขาน่ะครับ เจ้ามาร์ชมันก็ต้องมีแม่ และนิชาเขาก็ควรได้ทำหน้าที่แม่นะครับ"
"ฉันกลัวยายนั่นอยากจะกลับมาทำหน้าที่เมียน่ะซิไม่ว่า"
"แม่ครับ" กันย์ได้แต่เอ่ยเรียกมารดาเสียงยานคาง เพราะคร้านจะเถียงกับท่าน
"ไม่คิดจะมาจับแกอีกก็ดีหรอก แล้วเรื่องที่แม่เคยพูด เมื่อไหร่แกจะตกลง"
กันย์ได้แต่ถอนหายใจยาวด้วยความเหนื่อยใจ เพราะไอ้คำว่าเรื่องที่แม่เคยพูด
เรื่องที่เขาเองก็ยังคิดภาพไม่ออกว่ามันจะเป็นไปในทางแบบไหน
เรื่องหาแม่ใหม่ให้เจ้ามาร์ช ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่เขาอยากแน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะสามารถรักดูแลลูกเขาได้ และเขาก็อยากให้ความรักครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่ใช่การอยู่กันไปแล้วก็เลิกราไปเรื่อยๆ
สำหรับเขาชีวิตลูกติดมันไม่ง่ายที่ไขว่คว้าหาความรักแบบนั้นได้อีกแล้ว และถ้าจะต้องมีรักครั้งใหม่อีกสักครั้ง เขาอยากให้แน่ใจที่สุด
ไม่ใช่การบีบบังคับ..อย่างตอนนี้
"แม่ครับ ผมเคยบอกแล้วไง ว่าผมเห็นยายเมย์เหมือนหลานคนหนึ่งเท่านั้น"
"หลานอะไรของแก ยายเมย์เป็นญาติฝ่ายไหนของแกยะ หรือน้องไม่ดีตรงไหน" เมื่อถูกปฏิเสธคุณจิตราก็เสียงดังสู้ลูกชายทันที
"ก็หลานของแม่ไงครับ"
"ก็แค่หลานสาวเพื่อนสนิทฉันที่ฉันรับมาเลี้ยงดู ไม่ใช่ญาติแกสักหน่อย"
"เอางี้นะแม่ ถ้าแม่กลัวว่าจะไม่มีใครดูแลยายเมย์ ผมรับปากจะช่วยดูแลหลานสาวแม่ทุกอย่าง ทั้งเรื่องเงิน เรื่องการเรียน ทุกเรื่อง จนกว่าหลานสาวแม่จะแต่งงานเลยเอ้า" กันย์เน้นย้ำคำว่าหลานสาวแม่ จนคุณจิตราได้แต่ค้อนใส่ตาเขียว
"ถ้าแกดูแลขนาดนั้น ก็แต่งงานกับยายเมย์ซะก็จบ"
"แม่ครับ ยายเมย์ยังเด็ก ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ"
"แต่ก็บรรลุนิติภาวะ เรียกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว"
"ถ้าเป็นผู้ใหญ่ งั้นแม่ก็เลิกห่วงได้แล้ว"
"เจ้ากันย์" คุณจิตราเผลอเอ็ดลูกชายเสียงเขียว "น้องไม่ดีตรงไหน ลูกชายของแกน้องก็ช่วยเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เลี้ยงมากกว่าแม่มันซะอีก เผลอๆ ยายเมย์มันจะรักลูกแกมากกว่ายายนิชาด้วย น้องนิสัยไม่ดีตรงไหน แม่สอนมาเองกับมือทุกอย่างงานบ้านงานเรือนก็ทำเป็นหมด"
"ยายเมย์ยังเด็กเกินไปครับ แล้วก็เด็กกว่าผมตั้งสิบสามปี อยู่กันไปเดี๋ยวก็มีปัญหากัน" กันย์พยายามให้เหตุผลอย่างใจเย็น
"ก็เด็กกว่าเมียเก่าแกไม่กี่ปีหรอก"
"ก็เพราะผมรู้นิสัยเด็กไงครับ ว่าเป็นแบบไหน"
"น้องไม่ได้นิสัยเหมือนเมียเก่าแกสักหน่อย"
"เอางี้ รอให้ยายเมย์ของแม่เรียนจบโทก่อน เราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกที"
"จบตรี" คุณจิตรารีบต่อรองทันควัน
"โอเคครับ"
กันย์ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ อย่างน้อยยื้อเวลาได้อีกนิดก็ยังดี ได้แต่หวังว่ายายหลานสาวตัวแสบของคุณแม่จะมีแฟนไปเสียก่อน ถึงเวลานั้นเขาจะได้มีข้ออ้าง
เขาเข้าใจความรู้สึกของแม่ ท่านเป็นห่วงหลานสาวของเพื่อนรักอย่างคุณย่าสร้อยมาก
ทั้งสองคนเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กจนเรียนจบมหาวิทยาลัย และได้แยกย้ายกันไปมีครอบครัว
คุณย่าสร้อยย่าแท้ๆ ของเมษาแต่งงานมีครอบครัวตั้งอายุยี่สิบห้า ลูกชายคนเดียวของท่านก็ทำผู้หญิงท้องตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เขาเคยได้ยินว่าแม่ของเมษาท้องตั้งแต่อายุสิบแปดปี พอคลอดลูกได้เดือนเดียวก็มีปัญหากันแม่ของเมษาถูกครอบครัวตามตัวกลับไปเรียนต่อ แล้วทั้งคู่ก็เลิกรากันตั้งแต่นั้นทิ้งเมษาให้อยู่กับพ่อและย่า
