บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 เบื้องหน้ารอยยิ้ม เบื้องหลังน้ำตา (2)

“เอาเถ๊อะ” พอเถียงสู้ไม่ได้พิชชาจึงได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนเดินตามเพื่อนสาวเข้าไปในบ้านหลังเล็กซึ่งร่มรื่นและอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่

พิชชาชอบสไตล์การแต่งบ้านของณหฤทัยมาก ต้องตัดบันไดเจ้าปัญหานั่นออกไป ยอมรับว่าเพื่อนของเธอ ‘อาร์ตตัวแม่’ เลยทีเดียว และกระบวนการความคิดแปลก ๆ กับไอเดียสร้างสรรค์ต้องยกนิ้วให้ ซึ่งสไตล์มิกซ์แอนแมทช์ของบ้านหลังนี้เช่นกัน

ประตูไม้สักแบบพับได้เห็นตามร้านกาแฟโบราณไม่มีลูกบิด ถูกนำมาประยุกต์ เวลาปิดประตูจะใช้เหล็กยาววางพาดขัดไว้เท่านั้นโดยไม่ต้องลงกลอน ส่วนหน้าต่างบ้านมีหลายแบบมาก ซ้ำในแต่ละบานยังทาสีไม่เหมือนกัน เรียกว่าทั้งประตูหน้าต่างไม่มีอะไรมาจากที่เดียวกันเลย แต่เมื่อนำมาประกอบเข้ากับตัวบ้านก็ให้ความรู้สึกเท่ไปอีกแบบ

ส่วนผนังภายในบ้าน นอกจากทาสีเขียวอ่อนใบหญ้าดูอบอุ่นแบบเอิร์ธโทน มุมห้องรับแขกยังมีภาพวาดต้นไม้ติดบนผนัง แต่ผนังด้านอื่นถูกทาสีไว้หลากหลายสไตล์ มีทั้งลายจุดสีขาวพื้นชมพู และรูปวาดที่ดูไม่เป็นรูปสักเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังมีกระจกเงาบานโตติดไว้เพื่อให้บ้านดูกว้างขึ้น

ความอาร์ตของเจ้าของบ้านไม่หมดเพียงเท่านั้น เรื่องเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งบ้านต้องยอมยกนิ้วให้อีกเช่นกัน ข้าวของในบ้าน ไม่ต่างอะไรกับพวกประตูหน้าต่าง เน้นที่ความโล่งปลอดโปร่งและเลือกเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ในส่วนที่ใช้งานเท่าที่จำเป็น ซึ่งดูคร่าว ๆ แล้วมีเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้น

“น้ำแช่อยู่ในตู้เย็น บริการตัวเองเลยนะ” พอหย่อนก้นนั่งได้ ณหฤทัยจึงวางไม้ค้ำลงข้าง ๆ รู้ดีว่าพิชชาเอาตัวรอดได้สบาย ซึ่งผู้มาเยือนไม่สนใจคำอนุญาตนี้เท่าไหร่ เพราะถึงเจ้าของบ้านไม่หามาให้ เธอก็บริการตัวเองอยู่ แต่สิ่งที่สนใจก็คือ สภาพความเป็นอยู่ของเจ้าของบ้านมากกว่า

“แกอยู่บ้านคนเดียวเหรอวะ?”

“มียุงกับแมลงวันเป็นเพื่อน”

พอตอบออกไปแบบนั้น พิชชาจึงคว้าหมอนอิงมาปาใส่คนป่วย อีกทั้งค้อนคมใส่ด้วยความหมั่นไส้ “ปากดีนัก ถ้ามียุงกับแมลงวันเป็นเพื่อน ฉันจะได้กลับ”

“โอ๋ ๆ อย่าเพิ่งงอนสิ อยู่คนเดียวนั่นแหละ แม่ไปอยู่กับพ่อที่สมุทรปราการแล้ว ว่าแต่แกเถอะ ลมอะไรพัดมาถึงที่นี่?”

ที่ถามอย่างนั้นเพราะปกติณหฤทัยจะติดต่อกับพิชชาผ่านเฟสบุ๊ก แม้จะไม่อยู่ใกล้กันเหมือนสมัยเรียนมัธยมปลาย และมหา’ลัย แต่ด้วยเทคโนโลยี ทุกความห่างไกลจึงขยับมาใกล้เพียงแค่นิ้วคลิก

“ถามแบบนี้จะเอาน้ำหอมชาแนลมั้ย” พิชชาทำหน้าง้ำงอ เธอบินไปเที่ยวฝรั่งเศสครั้งนี้ ตั้งใจซื้อของฝากมาเอาใจณหฤทัยโดยเฉพาะ แต่ดูเพื่อนรักของเธอเถอะ

“ชานงชาแนล จะสู้ซีซีละสามสี่บาทตามตลาดนัดได้เหรอว้า”

“แกมันไร้รสนิยมมากเลยว่ะ แบรนด์ดังระดับโลกยังไงต้องเจ๋งอยู่แล้ว” ว่าแล้วพิชชาจึงหยิบขวดน้ำหอมหรูมีสไตล์ขึ้นมาเตรียมฉีดเต็มที่ “ส่งมือมาสิ”

“มือแกนั่นล่ะ แล้วช่วยไปฉีดให้ไกล ๆ ด้วย” ณหฤทัยไม่ยินดียินร้ายกับของฝากราคาแพงสักนิด อีกทั้งขยับตัวไปยังโซฟาเบดสีเปลือกไม้ที่สามารถใช้เป็นเตียงนอนได้ พอจัดท่านั่งให้ตัวเองเรียบร้อย ณหฤทัยจึงสนใจของฝากในถุงกระดาษ ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าและของกระจุกกระจิก

“นี่ซื้อมาฝากฉัน หรือว่าหอบเสื้อผ้ามาพักที่นี่ด้วย?” ที่ถามแบบนั้น เพราะในถุงกระดาษมีแต่เสื้อผ้าใช้แล้ว อีกทั้งเป็นแนวคุณหนูไฮโซทั้งนั้น

“ทั้งสองอย่างแหละ ของแกมีน้ำหอมกับกางเกงยีนส์ ที่เหลือของฉัน”

สิ้นคำพิชชาจึงบรรจงฉีดน้ำหอมที่ข้อมือของตนเอง ก่อนยื่นให้ณหฤทัยได้ดม แต่กลายเป็นว่าคนแพ้ของแพงกลับจามเสียงดัง ซ้ำเบ้หน้าหนี

“ฉุน ฮัดเช้ย!”

“ราคาตั้งแพง ไร้รสนิยมจริงเล๊ย”

“ไม่ไหว ถ้าต้องจามจนแสบจมูก ขอไร้รสนิยมเถอะ” คนไม่พิถีพิถันในการใช้ชีวิตลงความเห็น

ในสายตาของพิชชา ณหฤทัยค่อนข้างแปลก หญิงสาวไม่เน้นเรื่องความสวยความงามเหมือนสาวคนอื่น ๆ แต่จะเน้นเรื่องที่อยู่อาศัยซะมากกว่า อีกทั้งเป็นผู้หญิงที่ละเลยเรื่องความสวยความงาม สไตล์การแต่งตัวไม่มี ซ้ำออกแนวปอน ๆ ด้วยซ้ำ หยิบจับอะไรได้ก็ใส่หมด พิชชาจึงลงความเห็นว่าณหฤทัยได้นั่งห้อยขาบน ‘คาน’ แน่นอน

เจ้าตัวที่ถูกยัดเยียดคานมาให้ กลับไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลย อีกทั้งยังยืดอกรับ เพราะณหฤทัยรู้ดีว่าความรักที่เกิดขึ้นกับเธอนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้ อีกอย่างเธอแค่แอบรักข้างเดียวเท่านั้น

ระหว่างพูดคุยกันอยู่เสียงกริ่งหน้าบ้านจึงดังขึ้น พิชชามองหน้าเจ้าของบ้านทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel