ตอนที่ 2 รอยร้าวที่ไร้ซึ่งคำอธิบาย
ตอนที่ 2
รอยร้าวที่ไร้ซึ่งคำอธิบาย
ยามเช้าที่เคยอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟและเสียงหัวเราะสดใสของครอบครัว บัดนี้กลับตกอยู่ในความเงียบงันอย่างผิดปกติจนน่าใจหาย
อัญพัชร์นั่งอุ้มลูกสาวตัวน้อยเอาไว้แนบอกอยู่บนโซฟาบุผ้านุ่มสีครีมในห้องรับแขก สายตาจับจ้องไปยังธีร์วัตที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก มือสองข้างของเขากลับซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงสแลคสีเข้ม ชายเสื้อเชิ้ตที่เขาเคยใส่ใจจัดให้เรียบร้อย บัดนี้กลับถูกปล่อยชายออกนอกกางเกงอย่างไม่ใส่ใจ สายตาที่เคยอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรักยามมองมาที่เธอ... ตอนนี้กลับนิ่งสนิท ไร้อารมณ์ จนน่าหวาดหวั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ธีร์... มีอะไรเหรอคะ” เธอเอ่ยถามขึ้นอย่างแผ่วเบา เมื่อเห็นเขาอ้าปากคล้ายจะพูด แต่กลับนิ่งเงียบไปเกือบห้านาทีเต็ม ๆ
เสียงเข็มนาฬิกาบนผนังเดินติ๊กต็อกไปทีละวินาทีอย่างเชื่องช้า แต่ภายในใจของอัญพัชร์กลับเริ่มเต้นระรัวอย่างรุนแรงและไร้เหตุผล ราวกับสัมผัสได้ถึงลางร้ายบางอย่างที่กำลังคืบคลานเข้ามา
ธีร์วัตเงยหน้าขึ้นมองสบตาภรรยา ก่อนจะ ค่อย ๆ หลุบตาลงเล็กน้อย ราวกับกำลังรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีในชีวิตเพื่อที่จะพูดบางอย่างที่ยากจะเอื้อนเอ่ย
“เราหย่ากันเถอะ”
เพียงคำพูดสั้น ๆ แต่แสนเจ็บปวด ที่ดังก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของหญิงสาว มันเป็นเหมือนระเบิดที่ถูกจุดขึ้นกลางใจของเธอ
เธอหลุดขำออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ราวกับว่าสมองปฏิเสธที่จะประมวลผลคำพูดเหล่านั้น “อะไรนะคะ?”
“ผมอยากหย่า” เขาพูดซ้ำอีกครั้ง... คราวนี้เสียงของเขาชัดเจน หนักแน่น และปราศจากความลังเลใด ๆ
น้องอาโปในอ้อมอกของเธอกระดิกตัวเบา ๆ ส่งเสียงอ้อแอ้ใส่แม่ แต่แม่ของเธอกลับแข็งค้างไปทั้งร่าง ราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหิน หัวใจของเธอชาหนึบจนแทบไม่รู้สึกอะไร
“หย่า? ธีร์พูดเรื่องอะไรคะ... เราทะเลาะกันเมื่อไหร่ หรือฉันทำอะไรผิด?” เสียงของเธอเริ่มสั่นระริก
“เราไม่ได้ทะเลาะกัน... แค่ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันต่อไป”
น้ำเสียงของเขาเรียบสนิทจนน่าตกใจ มันเป็นน้ำเสียงที่ห่างเหินและเย็นชาเกินกว่าจะเป็นคำพูดของคนที่เคยนอนหนุนแขนเดียวกันทุกคืน คนที่เคยกระซิบคำรักข้างหูเธอทุกวัน และคนที่เคยสัญญาว่าจะรักกันตลอดไป
อัญพัชร์อุ้มน้องอาโปแน่นขึ้นโดยอัตโนมัติ ราวกับต้องการยึดเหนี่ยวบางสิ่งไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองร่วงหล่น ดวงตาของเธอเริ่มสั่น ริมฝีปากบางขยับเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมาจากลำคอที่แห้งผาก
“เพราะอะไร มันเพราะอะไร” เธอถามช้า ๆ น้ำเสียงแหบพร่า “เพราะฉันทำอะไรผิด”
ธีร์วัตหลบสายตาเธอ... ก่อนจะเอ่ยบอกอย่างไร้ความรู้สึกว่า”ผมไม่รักคุณแล้ว”
ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุนในชั่ววินาทีนั้น คำพูดของเขาทำร้ายทำลายหัวใจของเธอจนขาดสะบั้นอย่างโหดเหี้ยม ความเจ็บปวดแล่นแปลบไปทั่วร่าง เธอเม้มริมฝีปากแน่น พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลรินลงมาต่อหน้าลูก
“ธีร์โกหก... เมื่อวานคุณยังหอมแก้มลูกอยู่เลย” เสียงของเธอสั่นเครือจนแทบจับใจความไม่ได้
“คุณบอกว่ารักลูก แล้วจะทิ้งลูกได้ยังไงคะ... คุณทำแบบนี้ได้ยังไง”
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาเบา ๆ แต่คมชัดทุกคำ
“ผมขอให้คุณอยู่ที่นี่ต่อไป ดูแลอาโป... บ้านหลังนี้ผมยกให้คุณ”
“ส่วนผมจะไปอยู่ที่อื่น”
อัญพัชร์ส่ายหน้าแรง ๆ น้ำตาร้อนผ่าวร่วงเผาะลงบนแก้มนิ่มของลูกที่ยังคงหลับไหลอยู่ในอ้อมแขน น้ำตาที่เธอพยายามกลั้นไว้มาตลอด บัดนี้มันพังทลายลงมาอย่างไม่อาจควบคุมได้
“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง! ธีร์ เราเพิ่งมีลูก! เราเพิ่งสร้างบ้านด้วยกันด้วยความรัก! แล้วจู่ ๆ คุณจะมา... บอกว่าไม่รักกันแล้วได้ยังไงคะ!” เธอตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความไม่เข้าใจ
“อัญ... อย่าให้ลูกเห็นแม่ร้องไห้เลย” เขาเอ่ยเสียงเรียบ แต่แววตาของเขายังคงว่างเปล่า เธอมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเหมือนคนถูกทรยศจากคนที่เธอไว้ใจที่สุดในชีวิต คนที่เธอเคยคิดว่าจะไม่มีวันหักหลังเธอ
“คุณรักฉันจริง ๆ... หรือแค่หลอกว่ารักมาตลอดคะ”
เขายืนนิ่ง ไม่ตอบคำถาม ไม่แม้แต่จะขยับเข้ามากอดเธอ ปลอบโยนเธอ หรือแม้แต่แตะต้องเธอแม้เพียงปลายนิ้ว ในใจของธีร์วัตนั้น เขาอยากกอดเธอเหลือเกิน อยากบอกเธอว่าเขายังรักเธอทุกลมหายใจ รักเธอมากจนหัวใจจะแตกสลาย แต่ทุกคำพูดที่เขาเลือกเอ่ยออกไป ล้วนเป็นคำที่แสนโหดร้าย เพื่อผลักเธอออกไปจากวงจรชีวิตของเขาในวันที่เขากำลังล้มละลายอย่างสิ้นเชิง เขาไม่อยากให้เธอต้องพังไปพร้อมกับเขา... เขาไม่อยากให้เธอต้องมาแบกรับความล้มเหลวที่เขาเป็นคนก่อขึ้น
เย็นวันนั้น… มือของอัญพัชร์สั่นเทาขณะที่เธอจรดปากกาลงบนกระดาษสีขาวที่เรียกว่า ใบหย่า ธีร์วัตนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยไม่เอ่ยแม้แต่คำปลอบโยน หรือแม้แต่คำลาสักคำเดียว
หลังจากเธอวางปากกา ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืนช้า ๆ หยิบกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็ก ๆ ที่เขาเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ก่อนจะเดินผ่านหน้าเธอไปอย่างเงียบงัน โดยไม่หันกลับมามองแม้เพียงเสี้ยววินาที
เขาเปิดประตูออกไป... และปิดมันลงอย่างแผ่วเบาจนแทบไม่มีเสียง ราวกับไม่อยากให้เธอรู้ว่าเขากำลังจะจากไป
เธอได้แต่ยืนนิ่ง มองบานประตูบานนั้นอย่างคนหมดหนทาง ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิตที่เพิ่งพังทลายลงในพริบตา
“คุณทิ้งฉันไปแล้ว...” เธอพูดกับตัวเองด้วยเสียงกระซิบแผ่วเบา “ทั้งที่ฉันรักคุณหมดหัวใจ...”
ในค่ำคืนที่เงียบงันกว่าคืนไหน ๆ อัญพัชร์นั่งให้นมลูกเงียบ ๆ กลางแสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียง
เสียงเด็กน้อยดื่มนมจากแม่ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เป็นสิ่งเดียวที่ช่วยยึดเหนี่ยวเธอไว้ไม่ให้จมดิ่งไปกับความมืดมิดในหัวใจ
แต่ในใจของแม่... กลับเต็มไปด้วยเสียงสะอื้นที่ไม่มีวันหลุดออกจากปากได้และคำถามเดียวที่วนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของเธอคือ
“เขาไม่รักฉันจริง ๆ... หรือแค่โกหกเพื่อผลักฉันออกไป เพื่อปกป้องฉันจากอะไรบางอย่าง?”
