เจอกันครั้งแรก - 3
เขามองหญิงสาวที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้รถเขาล้ม เธอกำลังพยายามไขกุญแจรถทั้งที่ยังเมาหนัก "นี่อย่าบอกนะว่าจะขับรถเอง" เสียงพึมพำแผ่วแฝงด้วยความหงุดหงิดและความไม่พอใจแปรเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก เมื่อเห็นหญิงสาวปลดล็อกประตูรถได้สำเร็จและกำลังจะก้าวขึ้นไปนั่ง กรวิชญ์ไม่รอช้า พุ่งเข้าไปหาร่างบางอย่างรวดเร็ว
"เดี๋ยวคุณ! คุณจะขับรถในสภาพแบบนี้ไม่ได้นะ!" กรวิชญ์เอื้อมมือไปคว้ากุญแจที่ยังคาอยู่ในมือของรินรดาอย่างรวดเร็วและกระชากมันออกมา
รินรดาที่กำลังสับสนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ถึงกับเซถลาไปเล็กน้อยเมื่อถูกดึงกุญแจไปอย่างกะทันหัน เธอหันขวับมามองเขาด้วยแววตาที่พร่าเลือนแต่แฝงด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจน
"นายเป็นใคร เอากุญแจรถของฉันคืนมานะ!" เสียงของเธอแหบแห้งและยานคางบ่งบอกถึงความมึนเมาอย่างหนัก
กรวิชญ์ถือกุญแจรถสปอร์ตคันหรูไว้ในมือ พลางมองใบหน้าสวยที่บัดนี้บิดเบี้ยวด้วยความโกรธอย่างไม่เชื่อสายตา "ผมไม่ใช่ใครที่ไหนเหรอ แต่คุณนั่นแหละที่เดินไม่ดูทางจนจะชนรถชนมอเตอร์ไซค์ผมเมื่อกี้ แล้วยังจะมาขับรถทั้งที่เมาแอ๋แบบนี้อีก! คุณคิดอะไรอยู่ของคุณเนี่ย!"
"เดินตัดหน้าอะไร! ฉันไม่ได้เดินตัดหน้ารถใครทั้งนั้น! อย่ามาพูดมั่ว!" รินรดาเริ่มขึ้นเสียง เธอปรี่เข้าใส่หมายจะแย่งกุญแจคืน ทว่าร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงทำให้เธอเซไปมา เกือบจะล้มหลายครั้ง มือบางตะปบเข้าที่แขนของกรวิชญ์หวังจะกระชากกุญแจกลับคืนมา ทว่าอีกฝ่ายกลับร่นตัวหลบได้อย่างง่ายดาย
"ขอโทษผมซักคำก็ไม่มี แล้วยังจะมากล่าวหาว่าผมอีก คุณนี่มัน..." กรวิชญ์หยุดชะงักคำพูด เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน พลางมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของเธออย่างเอือมระอา
"มันอะไร นี่นายกล้าด่าฉันเหรอ!" รินรดากัดฟันกรอด ดวงตาแดงก่ำวาวโรจน์ เธอตวัดมือฟาดไปที่อกเขาเต็มแรง ทั้งที่แรงเธอแทบไม่เหลือแล้ว
กรวิชญ์หลบไม่พ้น แต่กลับไม่ได้สะทกสะท้านกับแรงปะทะที่แทบไม่มีน้ำหนักนั้น เขามองเธอนิ่ง ก่อนจะยิ้มเยาะบาง ๆ “ผมยังไม่ได้ด่าด้วยซ้ำ ที่จริงคุณน่าจะขอบคุณผมด้วยซ้ำ ที่ช่วยห้ามไม่ให้คุณฆ่าตัวตายทางอ้อม”
“ฉันขี้เกียจเถียงกับนายแล้ว เอากุญแจรถฉันคืนมาดี ๆ” รินรดาพูดเสียงแหบ แต่ยังฝืนวางฟอร์ม น้ำเสียงของเธอสั่นไหวเล็กน้อยจากความอ่อนล้า
กรวิชญ์ยืนกอดอก สายตานิ่งเฉียบ “ผมไม่ให้ ถ้าอยากตายก็ไปตายคนเดียว อย่าเอาชีวิตคนอื่นบนท้องถนนไปตายกับคุณด้วย”
“ฉันไม่ได้จะฆ่าตัวตาย…” เธอเถียงกลับเสียงแผ่ว
“คุณไม่ได้ตั้งใจหรอก…แต่คุณ ‘กำลังทำ’ อยู่ต่างหาก”
รินรดาเงียบไป ดวงตาสั่นระริกอย่างสะกดกลั้น ริมฝีปากขบกันแน่นจนแทบห้ามเสียงสะอื้นไม่ไหว แต่เธอไม่ยอมให้เขาเห็นว่าเธอกำลังอ่อนแอ
กรวิชญ์มองดูเธออย่างเข้าใจ…แต่ไม่ใจอ่อน
“คุณจะเกลียดผมก็ได้ จะด่าก็ได้ แต่ตอนนี้คุณไม่มีสติพอจะขับรถ ผมไม่เสี่ยงให้ใครต้องตายเพราะคุณแน่ ๆ”
เขาเดินไปเปิดประตูรถฝั่งผู้โดยสารอีกครั้ง แล้วพูดเสียงนิ่ง
“ขึ้นรถ ถ้าไม่อยากไปโรงพัก”
เธอมองหน้าเขา ดวงตาแดงก่ำแล้วหลุบต่ำอย่างจนหนทาง…สุดท้าย เธอก็ยอมก้าวขึ้นรถไปอย่างเงียบงัน
กรวิชญ์เดินมาฝั่งคนขับ เขาเปิดประตูรถออก สอดตัวเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว มือชายหนุ่มคว้ากุญแจมาเสียบแล้วบิดสตาร์ทเครื่อง เปิดแอร์ให้ภายในรถคลายร้อนลงบ้าง
เขาหันไปมองรินรดาที่นั่งนิ่งอยู่ข้าง ๆ ดวงตาของเธอแดงช้ำเหมือนคนจะร้องไห้ แต่ริมฝีปากยังเม้มแน่น รักษาความแข็งแกร่งสุดท้ายเอาไว้
“รอผมแป๊บนึง เดี๋ยวผมไปเอามอเตอร์ไซค์ไปจอดที่ลานจอดรถก่อน” น้ำเสียงของเขานิ่ง เรียบ แต่ไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนก่อน
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ทำเพียงพยักหน้าเบา ๆ
กรวิชญ์ถอนหายใจ เขาเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินตรงไปยังมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ตรงถนน ก่อนจะขับไปยังอีกฟากของลานจอดรถซึ่งมีที่จอดสาธารณะอยู่ไม่ไกล
กรวิชญ์ขึ้นมานั่งประจำที่คนขับ หันไปมองหญิงสาวข้างกายด้วยความหงุดหงิด เขาคาดหวังว่าจะมีการโวยวายหรือสั่งให้ไปไหนต่อไหน แต่กลับพบว่าเธอหลับไปเสียแล้ว! เขาส่ายหัวอย่างเอือมระอา "ให้ตายเถอะ..." เขาพึมพำกับตัวเอง
