ตอบแทน - 1
"ถ้างั้นขอรบกวนด้วยนะคะ" รินรดาตอบด้วยน้ำเสียงที่เกรงใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีความเย่อหยิ่งเหลืออยู่ เธอเดินตามแม่ของกรวิชญ์ไปยังโต๊ะอาหารและทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้
นางประไพตักข้าวต้มร้อน ๆ ใส่ชามส่งให้เธอ กลิ่นหอมกรุ่นของข้าวต้มและหมูสับลอยอบอวลไปทั่ว รินรดาคีบข้าวต้มเข้าปากช้า ๆ รสชาติอุ่น ๆ ของมันช่วยปลอบประโลมกระเพาะที่ปั่นป่วนและศีรษะที่ยังคงมึนงงได้เป็นอย่างดี
"ทานเยอะ ๆ นะลูก จะได้มีแรง" ท่านเอ่ยขึ้น "เมื่อคืนหนูเมาหนักมากจริง ๆ โชคดีนะที่เจอลูกชายของป้า ไม่งั้นปานนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง"
รินรดาพยักหน้าเบา ๆ เธอยังคงรู้สึกละอายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณชายหนุ่มแปลกหน้าและแม่ของเขาที่ให้ความช่วยเหลือ
"ว่าแต่หนูชื่ออะไรจ๊ะ แล้วบ้านอยู่ที่ไหนล่ะ เผื่อป้าจะให้ลูกชายขับรถไปส่ง" นางประไพถามด้วยความห่วงใย
"หนูชื่อรินรดาค่ะ เรียก ริน ก็ได้ค่ะ" เธอตอบเสียงแผ่ว พลางเหลือบมองแม่ของกรวิชญ์ด้วยความเกรงใจ "ไม่ต้องไปส่งก็ได้ค่ะ หนูขับรถไปเองได้" รินรดารีบพูดต่อทันที น้ำเสียงยังคงแสดงความเกรงใจและอยากจะรีบกลับไปจัดการเรื่องของตัวเองให้เร็วที่สุด
"จ้ะ ถ้างั้นก็ทานเยอะ ๆ นะ" นางพระไพรับคำอย่างเข้าใจ ท่านเห็นว่ารินรดาคงไม่อยากให้เป็นภาระมากไปกว่านี้ และท่านก็เดินเข้าไปในครัว
ในระหว่างที่รินรดากำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวต้ม พลันเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น กรวิชญ์เดินเข้ามาในบ้าน เขาอยู่ในชุดวินมอเตอร์ไซค์สีส้มคุ้นตา พร้อมกับถุงพลาสติกในมือที่บรรจุปาท่องโก๋และน้ำเต้าหู้
กรวิชญ์เดินเข้ามาในบ้าน ก่อนจะเหลือบไปเห็นรินรดาที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่ของเขาเอง เขามองเธอด้วยสายตาที่ไม่แสดงอารมณ์ชัดเจน ก่อนจะเดินเลยเข้าไปในครัววางของลงที่เคาน์เตอร์
"แม่ ผมแวะเอาน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาให้"
"จ้ะ ขอบใจมากลูก" แม่ที่กำลังทำอาหารอยู่หันมามองลูกชายด้วยรอยยิ้ม "แล้วนี่กินข้าวเช้าหรือยังลูก"
กรวิชญ์ล้างมือที่อ่างล้างจานแล้ว"ยังครับแม่... เขายังไม่กลับอีกหรอครับ"เขาเดินไปใกล้แม่แล้วถามเขามองดูรินรดาที่นั่งอยู่โต๊ะกับข้าวในบ้าน
"ยังจ้ะ หนูรินเขาเพิ่งตื่นเมื่อกี้เอง ลูกไปนั่งกินข้าวเถอะ เดี๋ยวแม่จะไปตักให้"
กรวิชญ์พยักหน้าเล็กน้อย แล้วเดินเข้าไปในบ้านทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับรินรดา เสียงช้อนกระทบชามยังคงเป็นสิ่งเดียวที่ดังขึ้นในความเงียบนั้น
"เรื่องเมื่อคืน..." รินรดาเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ไม่กล้าสบตาเขาตรง ๆ " ฉันเมามากจนไม่ได้สติ...ถ้าไม่ได้นายมาช่วย ก็ไม่รู้ว่าฉันจะเป็นยังไง"
"ฮึ ก็คงเมาแล้วขับรถเที่ยวไปชนชาวบ้านเขาจนได้รับความเดือดร้อนนั่นแหละครับ"
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอีกครั้งด้วยแววตาที่จริงจังกว่าเดิม
"รถนายเสียหายมากใช่มั้ย...แล้วเรื่องที่พักและอาหาร นายคิดมาเลยนะ นายจะเอาเท่าไรเป็นการชดเชย" เธอเสนอ น้ำเสียงแสดงความพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น
กรวิชญ์จ้องมองรินรดา ดวงตาคู่คมของเขาฉายแววผิดหวังเล็กน้อยกับคำพูดของเธอ ที่ยังคงใช้เงินมาเป็นทางออก
"พวกคนรวยเขาใช้เงินแก้ปัญหาอย่างนี้เหรอครับ" กรวิชญ์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่แฝงด้วยความประชดประชัน คำถามนั้นทำให้รินรดารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าแรง ๆ
"ก็ใช้ไง!" เธอสวนกลับทันควัน " นายอยากได้เงินไม่ใช่เหรอที่ทำฉันทำรถนายพัง แล้วอีกอย่างนายกับคุณป้าก็ดีกับฉัน ให้ที่พักแถมยังทำอาหารเช้าให้ด้วย นายจะเอาเท่าไรก็ได้แค่บอกมา เดี๋ยวฉันโอนให้"
คำพูดที่เต็มไปด้วยความดูถูกของรินรดาทำให้ชายหนุ่มชะงัก เขามองเธอนิ่ง ๆ แววตาที่เคยฉายความผิดหวังในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังอยู่ในความตึงเครียดนั้น นางประไพก็เดินถือชามข้าวต้มมาให้ลูกชาย
"เก็บเงินของคุณไว้เถอะครับ พวกเราไม่ต้องการ" กรวิชญ์พูดเสียงเรียบ ๆ
"แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง" รินรดาถามเสียงเบา ราวกับสิ้นหนทาง
