คนแปลกหน้า - 2
"เดี๋ยวผมจะออกไปเอารถมอเตอร์ไซค์ ผมฝากเธอด้วยนะครับแม่" กรพูดพลางมองไปที่รินรดาที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
นางประไพพยักหน้ารับคำด้วยแววตาอ่อนโยน "จ้ะ ลูกไปจัดการรถของลูกเถอะ เดี๋ยวแม่ดูแลเขาเอง"
"ครับแม่" กรวิชญ์ตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ผู้เป็นแม่จัดการดูแลหญิงสาวแปลกหน้าอย่างที่ควรจะเป็น
แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ้าม่านเข้ามาภายในห้องนอน ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านทำให้ รินรดา เริ่มรู้สึกตัว เธอขยับกายเล็กน้อย ความรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ แล่นเข้ามาทันที ราวกับมีใครเอาก้อนหินมาทุ่มใส่ศีรษะ
เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อย ๆ เผยอขึ้น รินรดากระพริบตาถี่ ๆ พยายามปรับโฟกัสให้เข้าที่ สิ่งแรกที่เธอเห็นคือเพดานห้องสีขาวเรียบ ๆ ที่ไม่คุ้นตา เธอพยายามจะลุกขึ้นนั่ง แต่ร่างกายกลับอ่อนแรงเกินกว่าจะทำได้
รินรดากวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างมึนงง นี่ไม่ใช่ห้องนอนของเธอ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูเรียบง่าย ผนังห้องเป็นสีครีมอ่อน ๆ มีหน้าต่างบานใหญ่ที่เผยให้เห็นต้นไม้สีเขียวด้านนอก บรรยากาศเงียบสงบ แตกต่างจากห้องนอนหรูหราของเธอลิบลับ ความทรงจำสุดท้ายของคืนที่ผ่านมาพร่าเลือนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก มีเพียงภาพเลือนรางของเสียงเพลงดัง ๆ และแก้วเหล้าที่ยกขึ้นดื่มไม่หยุด
รินรดาเอาผ้าห่มที่คลุมกายออก ทันทีที่ผ้าห่มเลื่อนหลุด ร่างของเธอก็แข็งค้างด้วยความตกใจ!
เธอไม่ได้อยู่ในชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ใส่ไปคลับเมื่อคืน แต่กลับเป็นเสื้อยืดสีดำตัวใหญ่ที่ดูไม่คุ้นตาและกางเกงตัวหลวมที่ยาวเกือบถึงข้อเท้า เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอน เธอพยายามนึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอเมื่อคืนนี้
ความคิดผุดขึ้นมาในหัว ภาพเลือนรางของลานจอดรถ การทะเลาะกับใครบางคน และผู้ชายคนหนึ่งที่เธอยื่นข้อเสนอให้เขาขับรถให้ แล้วหลังจากนั้น... ทุกอย่างก็ว่างเปล่า เธอจำอะไรไม่ได้อีกเลย
ความรู้สึกหวาดกลัวเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ เธอโมโหตัวเองที่พลาดท่าให้กับคนที่ไม่รู้จัก ปล่อยให้ตัวเองเมามายจนขาดสติถึงขนาดนี้ และที่สำคัญ เธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอในตอนที่จำไม่ได้
ด้วยความกระวนกระวายใจและต้องการจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอตัดสินใจลุกจากเตียงอย่างทุลักทุเล เนื่องจากยังมีอาการมึนหัวอยู่ เธอเดินโซเซไปยังประตูห้องนอน ค่อย ๆ เปิดประตูออก แล้วเดินลงบันได ไปยังชั้นล่างอย่างระมัดระวัง
ทันทีที่ก้าวลงมาถึงชั้นล่าง รินรดากวาดสายตามองไปรอบๆ บ้านที่ดูอบอุ่นและเรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าๆ ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นหอมจางๆ ของอาหารเช้าลอยมาแตะจมูก ทำให้ท้องของเธอร้องประท้วง
สายตาของเธอไปสะดุดกับร่างของหญิงสูงวัยคนหนึ่งที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดสำรับอาหารเช้าบนโต๊ะกลางห้องครัว ผมสีดอกเลาถูกมวยเก็บไว้อย่างเรียบร้อย ใบหน้าใจดีของท่านดูคุ้นตาอย่างประหลาด แต่รินรดาก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
นางประไพเงยหน้าขึ้นมาพอดี เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ท่านหันมาเห็นรินรดาที่ยืนอยู่ตรงบันไดพอดี ใบหน้าของท่านเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
"อ้าว ตื่นแล้วเหรอหนู" นางประไพเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงใจดี "มาๆ มานั่งก่อน มาทานข้าวเช้ากัน แม่ทำข้าวต้มไว้ให้"
"ที่นี่... ที่ไหนคะ แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ใครเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันคะ" รินรดาตัดสินใจถามคำถามรัวเร็วทันที ด้วยน้ำเสียงที่ยังคงแหบพร่าแต่แฝงด้วยความสงสัยและความกังวลอย่างชัดเจน เธอไม่สามารถอดทนรอได้อีกต่อไปแล้ว
นางประไพวางจานข้าวต้มลงบนโต๊ะ ก่อนจะหันมามองหญิงสาวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนยิ่งขึ้น
"ใจเย็นๆ ก่อนนะหนู" ท่านพูดปลอบ "ค่อยๆ นั่งลงก่อน เดี๋ยวแม่จะเล่าให้ฟังทั้งหมดเลย" นางประไพผายมือเชิญไปที่เก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งข้างโต๊ะกินข้าว
รินรดาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ เดินไปทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างช้าๆ อาการปวดศีรษะยังคงรบกวน แต่ความอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอมันมีมากกว่า
"ใจเย็น ๆ ก่อนนะหนู" นางประไพพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ป้าเป็นแม่ของกรจ้ะ ที่นี่ก็บ้านป้านี่แหละ เมื่อคืนลูกชายป้าเจอหนูเมามากที่ลานจอดรถคลับแถวนี้ หนูเมาจนขับรถไม่ได้ แถมยังเดินตัดหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของลูกชายป้าจนรถมันล้มด้วยนะลูก"
แม่ของกรวิชญ์เว้นช่วงเล็กน้อย ท่านสังเกตเห็นแววตาของรินรดาที่เริ่มฉายแววตกใจและพยายามจะนึกทบทวนเหตุการณ์อีกครั้ง
"ลูกชายป้าก็เลยต้องพาหนูมาพักที่นี่ก่อน เพราะไม่รู้จะพาไปส่งที่ไหน ส่วนเรื่องเสื้อผ้าป้าเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนูเองแหละลูก เห็นหนูนอนไม่สบายตัว ป้าก็เลยให้ใส่เสื้อผ้าของกรไปก่อน"
นางประไพพยายามอธิบายทุกอย่างอย่างใจเย็นที่สุด เพื่อให้รินรดาคลายความกังวลและเข้าใจสถานการณ์
รินรดาฟังคำอธิบายของเธออย่างตั้งใจ ใบหน้าซีดเผือดลงกว่าเดิมเมื่อได้ยินว่าเธอเมาจนเดินตัดหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของอีกฝ่าย ความอับอายเริ่มเข้ามาแทนที่ความโกรธ แต่สิ่งที่ทำให้เธอกังวลที่สุดคือการตื่นขึ้นมาในสภาพเช่นนี้
"เขาไม่ได้ทำอะไรหนูใช่ไหมคะ" รินรดาถามเสียงสั่น แววตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นปนความละอาย
นางประไพยิ้มบางๆ อย่างเข้าใจในความกังวลของเธอ " เปล่าจ้ะ ลูกชายป้าเขานอนข้างล่าง เขากลัวยุงจะกัดหนู เขาเลยให้หนูไปนอนบนห้องของเขาเอง"
คำพูดของหญิงสูงวัยทำให้รินรดารู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ความอับอายและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังทำให้เธอทำตัวไม่ถูก
ในความเงียบที่ปกคลุมอยู่ชั่วขณะ ทันใดนั้น ท้องของรินรดาก็ร้องครืนออกมาเสียงดังลั่น สร้างความประหลาดใจให้ทั้งตัวเธอเองและแม่ของกรวิชญ์
นางประไพหัวเราะคิกคักเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู
"โธ่เอ๊ย! สงสัยจะหิวแล้วสิ" แม่ของกรวิชญ์พูดด้วยน้ำเสียงใจดี "กินข้าวก่อน ป้าทำข้าวต้มไว้ให้พอดีเลย มาทานอะไรให้อุ่นท้องก่อนนะลูก จะได้มีแรง"
