บท
ตั้งค่า

#3 ตัวติดกันเกินไปละนะ

9:00 น.

เป็นเพราะลูกสาวลาพักร้อนผู้เป็นมารดาจึงสั่งคนใช้ไม่ให้ปลุก เขาปล่อยให้เธอได้นอนอย่างเต็มที่ ส่วนร่างบางที่กำลังบิดขี้เกียจอย่างลืมตัว ก่อนจะสะดุ้งโหยงดีดตัวเองให้ลุกนั่ง แต่ก็นั่นแหละ ตอนนี้เธอก็ยังเห็นเขาที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาอยู่อย่างนั้น

เปิดมิติใหม่แห่งโลกของเธอมาก นี่ผีก็นอนเหมือนกันหรอเนี่ย แล้วนายนี่ไม่ไปสวรรค์หรือนรกเลยรึไง งั้นปรัมปราที่บอกว่าตายแล้วจะไปนี่นั่น ก็เป็นเรื่องโกหกน่ะสินะ ดูดิ นายนี่ยังหลับอย่างสบายใจ ซ้ำร้ายยังอยู่กับเธอทั้งคืนอีก

“เฮ้อ!!”

แต่เอ๋!!! เมื่อคืน นายนี่มัน!!! เธอบ่นกับตัวเองในใจเมื่อนึกถึงรสจูบของเขา แม้มันจะเป็นแค่การแนบปากลงมาอย่างไวๆ แต่ก็นั่นแหละ นายมันพวกลักไก่อยู่ดี

เธอค่อยๆ เคลื่อนผ้าห่มออก ก่อนจะเดินย่องๆ ไปสำรวจเขาใกล้ๆ หัวใจเจ้ากรรมก็เต้นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะเมื่อนึกถึงคำพูดของเขาเมื่อคืน

“มาคบกับผีอย่างผมเอาไหมล่ะ? ”

คนตัวเล็กที่เดินไปใกล้โซฟาก่อนจะนั่งยองๆ ลอบสำรวจใบหน้าหล่อเหลาของเขา ขนตาดกงอน กับสันจมูกโด่งได้รูปรับกับปากหยักสวย เธอจ้องมองริมฝีปากของคนตรงหน้าก่อนจะลอบกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่

แต่แล้วร่างบางก็ถึงกับเซล้มลงไปด้านหลัง เมื่อจู่ๆ เจ้าผีบ้านี่ก็ลืมตาขึ้นมาซะดื้อๆ

พลั่ก!!!

อุ๊ยยย!!! ซี้ดดด

“นี่นาย!!! คิดจะลืมตาก็ลืมเลยรึไง ฉันตกใจนะ”

เธอต่อว่าเขาอย่างโมโหอยู่หน่อยๆ ก็ตอนนี้เธอก้นจ้ำเบ้ากับพื้นแข็งๆ ของห้องเข้าอย่างแรง

“ก็ใครให้แอบมาดูผมแบบนี้ล่ะ ถ้าอยากจะจูบ …” เขาเว้นวรรคเอาไว้ดูท่าทางตกใจของเธอ ก่อนจะพูดต่อ “ถ้าอยากจะจูบหรือทำเรื่องอย่างว่า ผมทำตอนนี้ไม่ได้”

“บ้าจริง ใครเขาอยากจูบนายกัน”

แน่นอนว่าเธอยังคงคิดวกไปวนมากับเรื่องนั้นอยู่ไม่หาย ถึงแม้จูบแรกจะเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่นั่นมันก็เป็นจูบแรกของเธอเชียวนะ แม้เธอจะคบใครหรือคุยกับใครที่ผ่านมา แต่ด้วยความเป็นคนหวงเนื้อหวงตัว มันก็ไม่แปลกที่ผู้ชายจะขอถอยห่าง มีใครเขาคบกันแบบไม่หวังเรื่องอย่างว่าบ้างล่ะ

เขาอยากจะดึงร่างบางขึ้นมาซะเหลือเกิน มือหนาโปร่งแสงที่พยายามจะฉุดเธอให้ลุกขึ้น แต่แล้วก็คว้าแค่ความว่างเปล่า เธอมองดูการกระทำของเขา แม้จะช่วยเธอไม่ได้ แต่การพยายามของเขานั้นมันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

“นี่นายถ้าฉันจะทำบุญให้นาย นายจะได้รับมันรึเปล่า? ”

“อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ”

“เอ้า!! แล้วที่ผ่านมานายไม่เคยรู้สึกแบบว่า ได้รับบุญอะไรแบบนี้บ้างรึไง แบบมีแสงแว้ปๆ ว้าปๆ เหมือนในละครอ่ะ? ” แน่นอนว่าเธอสงสัย

“ก็ไม่นะ ทุกอย่างก็ปกติ”

“แล้วสรุปนายจำชื่อตัวเองไม่ได้? ”

“อืม ใช่”

“เฮ้อแล้วฉันจะทำบุญให้นายได้ยังไงกันล่ะเนี่ย ว่ากันว่าถ้าคนเรายังไม่สิ้นอายุขัยก็จะไม่ยอมเวียนว่ายตายเกิด ถ้าหากอายุขัยนายหกสิบปี นายไม่ตามติดฉันไปตลอดชีวิตเลยรึไง? ”

“ดูท่า ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ”

“นี่!! คิดก่อนพูดก็ได้นะ ไม่ใช่ตอบออกมาส่งๆ แบบนั้น แล้วนี่นายไม่คิดจะไปที่อื่นบ้างเลยรึไง? ”

“ไปไหน?? ” เขาทำท่าทางสงสัยกับคำถามของเธอ

“แบบว่าไปที่ชอบๆ ไง อยากเที่ยวที่ไหน อยากดูอะไร ประมาณนี้”

“ก็เธอไง ที่ชอบๆ ”

“ไอ้ผีบ้า!! ฉันยังไม่ตาย”

“ผมก็ไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่เธอถามผมก็ต้องตอบตามจริงใช่ป่ะล่ะ”

“เฮ้อ …” เธอถอนหายใจหนักๆ “ฉันไม่อยากจะเถียงกับนายแล้ว และวันนี้ห้ามตามฉันไปข้างนอกเด็ดขาด ขอความเป็นส่วนตัว โอเค๊? ”

“……..”

นอกจากเขาไม่ตอบก็เดินออกจากห้องของเธอไป ปล่อยให้เธอได้ทำธุระและเป็นส่วนตัวบ้าง มีหรอที่เขาจะไม่ตามเธอไป เขาตามเธอตั้งแต่บนรถแล้ว เขาเห็นเธอมองมาด้วยสายตาละห้อย และก็เห็นด้วยว่าเธอเหลียวมองเขาจนสุดสายตา รู้ตัวอีกทีร่างของเขาก็ติดแจกับเธอซะแล้ว

เมื่ออาบน้ำชำระร่างกายจนเสร็จ คนตัวเล็กจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดไลน์โทรหาเพื่อนสนิทอย่างแม็กซ์ เมื่อก่อนชื่อแม็กซ์ ตอนนี้ชื่อแม็กกี้ ชื่อน่ารักใช่ป่ะล่ะ

“ฮัลโหลว ชะนี มาถึงแล้วหรอยะ กว่าจะโทรหาฉันได้นะยะหล่อน”

“อืม พึ่งว่างน่ะ ว่าแต่ศุกร์นี้แกนัดเดอะแก๊งรึยัง? ”

แก๊งสาวๆ ที่ว่ามีชะเอม นีล และก็อีกคนที่กำลังคาสายอยู่ พวกเขารู้ว่าเธอมาพักถึงสองอาทิตย์และมีแพลนว่าจะไปแจกของให้เด็กๆ บนดอยที่เชียงราย

“นัดไว้หมดแล้ว ก็จะมีพวกพี่ๆ ไปเสริมสี่ห้าคนนะแก รวมแกรวมพวกฉันก็น่าจะเจ็ดแปดคนแหละ ไปรถตู้คันเดียว รถของพี่วินอะนะ รุ่นพี่เราเอง แกน่าจะลืมไปละมั้งน่ะ” เพื่อนสาวที่ร่างเป็นชายใจเป็นหญิงเอ่ยขึ้น

“อืม จำไม่ได้ว่ะ แต่ฉันก็ไม่ได้ติดอะไร งั้นสรุปเดินทางวันไหน? ”

“พรุ่งนี้เจ็ดโมง แต่วันนี้เที่ยงแกออกมาเจอพวกฉันก่อนนะ เดี๋ยวพาหาอะไรหนุกๆ ทำ”

“ย่ะ รู้แล้วย่ะ งั้นแค่นี้ก่อน เดี๋ยวสักพักออกไป แกก็ส่งโลเคชั่นร้านมาละกัน”

“โอเค”

ก่อนที่เพื่อนสาวสวยที่สุดในกลุ่มของเธอจะวางสายไป แม้ว่ามินตราจะอยู่กรุงเทพมาเจ็ดปีแล้ว แต่เพื่อนสนิทของเธอกลับอยู่ที่นี่ แน่นอนว่านอกจากแม็กกี้ นีล กับชะเอม เธอก็ไม่มีเพื่อนที่ไหน

ร่างบางที่ชะเง้อชะแง้คอยมองหาอะไรสักอย่าง แน่นอนว่าเธอไม่เห็นเขา สั่งได้เหมือนกันแฮะ ว่าง่ายเหมือนกันนะเนี่ย บอกไม่ให้กวนก็หายไปจริงๆ อย่างงั้นหรอ ชิ!!

เวลาเที่ยงตรงเป๊ะๆ เธอก็ไปถึงร้านที่นัดทานข้าวกับเพื่อนๆ ไว้ โดยที่แม็กกี้กับชะเอมนั่งรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนนีลเป็นคนเข้าร้านมาคนสุดท้าย

“กลิ่นอะไรวะ หอมแปลกๆ ”

เป็นเสียงของนีลที่เอ่ยดังขึ้น

“กลิ่นสเปรย์ปรับอากาศของร้านรึเปล่ามึง”

เป็นแม็กกี้ที่พูดสวนขึ้น

“ใช่มั้ง ใช่ก็ได้”

แม้นีลจะรู้สึกว่ากลิ่นนี้มันคล้ายแป้งเด็ก คล้ายกลิ่นน้ำอบหรืออะไรสักอย่าง แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนที่เมนูอาหารจะมาวางตรงหน้าของสี่สาว

แปลกแต่จริง มาสี่แต่พนักงานดันแนะนำให้ไปนั่งที่มีเก้าอี้ห้าตัว และแน่นอนว่าหัวโต๊ะไม่มีใครนั่ง เพราะพวกหล่อนจะนั่งข้างละสอง แต่สมัยนี้แล้วนี่เน้อ ใครเขาจะถือ บางทีก็เห็นคนไปสองนั่งเก้าอี้สี่ตัวก็มีถมเถไป

ร้านอาหารที่พวกสาวๆ เลือกใช้บริการคือร้านอาหารทั่วไป ไม่ถือว่า local หรือหรูหราเท่าไหร่นัก แม้ว่าแต่ละคนจะเป็นถึงลูกผู้ว่า และนายยศใหญ่ๆ แต่พวกเธอก็ทำตัวติดดินอยู่ง่ายกินง่าย รถยนต์ที่ขับก็เป็นยี่ห้อเบนซ์หรือบีเอ็มทั่วๆ ไป ไม่ได้สเปคหรูหรือหวือหวาเท่าไหร่นัก

เธอและกลุ่มเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยประถมจนจบปริญญาตรี ก่อนที่เธอเองจะต้องแยกย้ายไปต่อโทรที่อังกฤษสองปี ก่อนจะมาต่อเอกที่มหาลัยชื่อดังที่กรุงเทพ แต่ละคนดีกรีไม่ธรรมดา และจบดอกเตอร์กันทั้งนั้น แต่ดูๆ แล้วไม่เหมือนคนจบดอกเตอร์สักเท่าไหร่

กายโปร่งแสงของเขาเผลอยิ้มตามเสียงหัวเราะของเธอกับผองเพื่อน เวลาที่เธออยู่ที่บ้านกับพ่อแม่จะเป็นอีกคน แต่พอเวลาอยู่กับเพื่อนๆ เธอก็ปล่อยตัวเองจอยๆ สบายๆ น่ารักไปอีกแบบ

แก๊งสี่สาวที่พูดคุยกันอย่างถึงพริกถึงขิง ก่อนที่คำถามจะมาตกอยู่กับใครบางคน เพื่อนๆ ถามเรื่องของหัวใจ ซึ่งเธอก็ตอบมันได้ดี คงจะด้วยเหตุที่ว่า คนทั้งคู่ที่คบหาดูใจไม่ได้มีบทบาทในชีวิตของกันและกันสักเท่าไหร่ ไม่มีเซอร์ไพรส์ ไม่มีหวือหวา ก็แค่คบที่เช้าทัก ตื่นยัง เที่ยงกินข้าวยัง ก่อนนอน ฝันดีนะ แบบนี้เรียกว่าคบก็ได้หรอวะ!!

“แสดงว่าแกไม่ได้ชอบคุณธนากรมากพออะสิ” เสียงของชะเอมเอ่ยถามเพื่อน

“ก็น่าจะใช่มั้ง เอ่อ คือว่า!!” เธอไม่รู้ว่าจะคุยเรื่องนี้ดีไหมนะ

“ว่า??? ” เพื่อนทั้งสามต่างเอ่ยขึ้นพร้อมๆ กัน

“คือฉันชอบเจอเรื่องอะไรแปลกๆ อะพวกแก พวกแกอย่าหาว่าฉันบ้านะ”

“เล่ามาเดี๋ยวนี้เลย” แม็กกี้จีบปากจีบคอถามเพื่อน “แกต้องเล่าเดี๋ยวนี้”

ไหนๆ ก็อยากมาทำให้พวกเธอรู้แล้วนี่นะ ก็คงต้องเล่าแหละ

“คือเรื่องมันมีอยู่ว่า ……”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel