4 วันบ้าคลั่ง
เมื่อถูกสั่ง อีกคนจึงต้องลุกขึ้นมาจูบอย่างเงอะงะ ทั้งรังเกียจ มือไม้พันกันไปหมด อย่างไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหนดี เนื่องจากไม่อยากถูกเนื้อต้องตัวอีกฝ่าย นั่นจึงทำให้คนถูกจูบ อดว่าให้ไม่ได้
“ห่วยแตก!” เกาเจี้ยนหานว่าให้ไม่จริงจัง ก่อนจะดึงคนเข้ามากอดรัดและบดจูบหนักๆ อย่างต้องการแสดงให้รู้ว่าคนจูบกันจริงๆ เขาทำกันอย่างไร มือที่โอบรัดอยู่ก็ลูบไล้แผ่นหลังเนียนลื่นไปด้วยความพึงพอใจ เมื่อได้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีประสบการณ์ด้านนี้จริงๆโดยไม่ถือสาท่าทางรังเกียจของคนในอ้อมกอดเลยสักนิด
เนิ่นนานจนอากาศใกล้หมด จึงปล่อยคนที่กอดรัดอยู่ออก แล้วก็เห็นว่า คนตรงหน้าพยายามสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดไปเฮือกใหญ่ ใบหน้าแดงก่ำจากการขาดอากาศหายใจ จึงยิ้มถามด้วยความขบขัน “เป็นไง รู้สึกดีไหม? ”
จบคำถาม คนหอบหายใจก็ถลึงตาส่งมาให้ด้วยความขุ่นเคือง เกาเจี้ยนหานจึงยิ้มและเอ่ยออกมาอีกครั้ง “วันนี้ฉันอารมณ์ดี ฉันจะสอนนายเอง”
พูดจบ ก็ดึงเจ้าของใบหน้าแดงก่ำเข้ามาจูบอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ไม่จูบหนักๆ แล้ว แต่เป็นละเลียดจูบอย่างแผ่วเบา ไล้เล็มลิ้นร้อนไปรอบๆ ริมฝีปากบางอย่างหยอกเย้า
ระหว่างที่สอนจูบอยู่นั้น คนสอนก็ได้กลิ่นหอมจางๆ ของยาสมปรารถนาอันนั้น อบอวลไปทั่วทั้งปากของตัวเองและเฉินซินด้วย
ยิ่งได้กลิ่นหอมนั้นมากเท่าไหร่ เกาเจี้ยนหานก็คล้ายกับถูกกระตุ้นมากเท่านั้น จึงยิ่งอยากจูบให้ลึกซึ้งมากขึ้นกว่าเดิม
จากจูบแผ่วเบา ละเมียดละไม ก็กลายเป็นจูบหนักๆ ตวัดลิ้นพัวพันดูดดึงไม่หยุด เหมือนกับว่า จะกลืนกินคนไม่มีประสบการณ์ลงท้องไปให้ได้ สองมือที่โอบรัดคนไว้ ก็เคลื่อนไหว ลูบไล้ ทั้งเคล้นคลึงไปทั่วแผ่นหลังเนียนลื่น อย่างกระหายอยากอีกด้วย
“อือ...” เฉินซินถูกจูบของเกาเจี้ยนหานสร้างความปั่นป่วนให้จนต้องครางออกมาเบาๆ อย่างวาบหวาม ทั้งมือที่คอยลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังก็สร้างความหวามไหวให้ จนร่างกายเริ่มมีการตอบสนอง
มือหนาของคนสอนยื่นมาไล้วนและสะกิดเขี่ยส่วนชูชันเล็กๆ ตรงหน้าอกของคนผอมเพรียว ก่อนที่คนสอนจะซุกไซ้ไล่จูบมายังใบหู และโลมเลียด้วย
“อา...” คนถูกเลียร้องออกมาด้วยความวาบหวิว ทั้งเอียงหน้าหนีไม่ให้อีกฝ่ายได้เลียต่อ
เจ้าของลิ้นสากจึงลากไล้ลิ้นร้อนลงมายังซอกคอ และไล้ต่อมาที่ตุ่มไตเล็กๆ ด้วย ก่อนจะใช้ปลายลิ้นหยอกเย้าแล้ว ขบเม้มและดูดดึง มืออีกข้างหนึ่งก็ไล้วนและสะกิดเขี่ยตุ่มไตอีกฝั่งไปพร้อมๆ กันอย่างช่ำชอง จนคนถูกกระทำต้องสูดปากออกมาอีกครั้งอย่างอดไม่อยู่ ทั้งยังแอ่นหน้าอกมาให้อีกฝ่ายหยอกเย้าได้ถนัดด้วย
“อา...”
เห็นคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เกาเจี้ยนหานก็คิดอยากให้รางวัล จึงดันคนบนตัวให้นอนราบลงกับเตียง แล้วก้มลงใช้ปากครอบครองตัวตนที่ชูชันของเฉินซินไว้ อย่างไม่รังเกียจ เนื่องจากแน่ใจแล้วว่า คนมารนหาที่ตายคนนี้ เป็นผู้บริสุทธิ์มาก่อน เลยไม่ถือสาที่จะทำสิ่งนี้ให้ จึงตั้งใจอยากมอบประสบการณ์แสนพิเศษให้อีกฝ่ายได้จดจำไปชั่วชีวิต
“อ๊า...” คนถูกครอบครองร้องเสียงดังออกมาด้วยความซาบซ่านสุดเสียว และเสียวยิ่งขึ้นไปอีกเมื่ออีกฝ่ายใช้ปากชักรูดให้ พร้อมกับข้อมือที่ขยับเลื่อนส่วนห่อหุ้มขึ้นลงจนสุด
“สะ เสียว เสียวมาก อือ...” ไม่พูดเปล่า ยังสอดมือเข้าไปในเรือนผมอ่อนนุ่มสีดำของคนตรงกลางกาย แล้วขยำขยี้ไปด้วยความเพลิดเพลิน อย่างระบายอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงของตัวเอง ก่อนจะออกแรงกดศีรษะคนบนตัวให้ครอบลึกเข้าไปมากกว่านี้ด้วย
“อา...นะ นายเร็วๆ หน่อย อือ...” บอกคนที่ครอบครองและรูดรั้งตัวเองอยู่ให้เพิ่มความเร็วขึ้นอีก ทั้งยังแอ่นสะโพกยกขึ้นลงเป็นจังหวะพร้อมกันกับอีกฝ่ายด้วยความเสียดเสียว
เมื่อได้ยินอย่างนี้ คนที่ครอบครองอยู่จึงถอดถอนริมฝีปากออกมา และเพิ่มความเร็วข้อมือขึ้นอีกระดับ ชักขึ้นลงไม่กี่ครั้ง คนก็กระตุกเกร็งพ่นน้ำสีขาวขุ่นออกมาอย่างรวดเร็ว
“เห็นไหม ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด” เกาเจี้ยนหานบอกคนที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงยิ้มๆ ทั้งยังจับขาของอีกฝ่ายยกขึ้นสูงและจับให้แยกออกจากกัน จนเห็นดอกเบญจมาศสีสด หดรัดเบาๆ ตามการกระตุกเกร็งของเจ้าของ
ช่องทางนี้เกาเจี้ยนหานรู้ว่าไม่เคยถูกใครใช้งานมาก่อน จึงดูกระชับและคับแน่น ทั้งยังมีสีสดงดงามเป็นอย่างมาก ช่างถูกใจเขายิ่งนัก จึงก้มลงไปไล้เลียที่ช่องทางนี้อย่างอดใจไม่ไหว
“อ๊ะ! นะ นาย? ” เจ้าของดอกเบญจมาศสีสดเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง ที่ตรงนั้นถูกอีกฝ่ายใช้ลิ้นเลียอย่างไม่รังเกียจ และไม่ใช่แค่เลียด้วย แต่ยังใช้ลิ้นแหย่ช่องทางนี้ด้วยความเมามันอีกต่างหาก
“อ๊า..” คนทำ ทำด้วยความช่ำชอง จนคนไม่มีประสบการณ์ ตัวสั่นสะท้านอดใจไม่ไหวต้องกรีดร้องออกมาอีกครั้งด้วยความเสียดเสียว อารมณ์กระเจิดกระเจิงไปหมด
“อืม...” เกาเจี้ยนหานครางในลำคอด้วยความพึงพอใจที่อีกฝ่ายคล้อยตามไปกับตน และเมื่อไล้เลียช่องทางนี้ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของยาสมปรารถนานั้นอีกครั้งด้วย
และกลิ่นหอมในครั้งนี้ ก็กระตุ้นส่วนนั้นของเขาให้คึกคักขยายใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม จึงหยิบเจลหล่อลื่นมาป้ายลงที่ช่องทางด้านหลังนี้ และสอดนิ้วเข้าไปนวดคลึงด้วยจนคลายตัว
“อา...” เฉินซินที่ถูกนวดคลึงจนรู้สึกดี ก็ส่งเสียงออกมาอย่างผ่อนคลาย ก่อนจะมองหน้าอีกฝ่ายอย่างมึนงง ที่อยู่ๆ ก็ถูกถอดถอนนิ้วออกจากตัว
แล้วก็เห็นว่า เกาเจี้ยนหานประคองตัวตนอันใหญ่โตของตัวเอง และส่งเข้ามาในตัวเขา โดยไม่บอกไม่กล่าวก่อนเลย
“อ๊ากกก! ไอ้บ้าเอ้ย! เจ็บฉิบหาย แม่ง!” เฉินซินร้องด่าเสียงดังเพราะเจ็บที่ไม่เคยโดนใครรุกล้ำ สองขาจึงออกแรงถีบไปตามสัญชาตญาณแต่ก็ถูกคนตรงหน้ายึดจับไว้แน่น
“ฉันชื่อเกาเจี้ยนหาน” เกาเจี้ยนหานบอกชื่อตัวเองแก่อีกฝ่ายอย่างขำๆ ที่คนร้องอย่างกับถูกเชือดอย่างไรอย่างนั้น และจนใจที่ช่องทางนี้คับแคบจริงๆต่อให้เข้ามาเชื่องช้ามากเพียงใดคนก็แหกปากโวยวายร้องเจ็บอยู่ดี จึงบอกคนใต้ร่างให้ผ่อนคลาย "ผ่อนคลายหน่อย ยิ่งเกร็งก็ยิ่งเจ็บ"
ปากก็พูดบอก มือก็ลูบไล้ส่วนด้านหน้าของคนใต้ร่างไปด้วย เพื่อดึงความสนใจของอีกฝ่ายออกจากความเจ็บที่ช่องทางด้านหลัง
พูดถึงช่องทางคับแคบนี้ เกาเจี้ยนหานก็สัมผัสได้ถึงความสุขสบายอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ไม่มีความอุ่นร้อนเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่เป็นความเย็นสบายที่อยากจะสัมผัสไปเรื่อยๆไม่อยากให้สิ้นสุด
รอจนเฉินซินผ่อนคลาย ไม่ตอดกระชับอย่างรุนแรงแล้ว คนสอดใส่จึงเริ่มขยับตัวเข้าออกเบาๆ เป็นจังหวะเนิบช้าด้วยพึงพอใจ “อืม...”
“อือ...” คนถูกสอดใส่อย่างเนิบๆ ก็ส่งเสียงออกมาไม่ต่างกัน ไม่มีความเจ็บปวดดังเช่นที่เข้ามาในตอนแรกแล้ว มีแต่ความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย เมื่อถูกอีกฝ่ายเติมเต็มเข้ามาอย่างนี้
เกาเจี้ยนหานจับคนนอนหงายให้คว่ำหน้าลงกับที่นอน แล้วสอดใส่เข้าออกเนิบๆ จากทางด้านหลังอยู่อย่างนั้นไม่รีบร้อน เป็นครั้งแรกที่เขาอยากจะทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ความรู้สึกสบายที่ไม่เคยพบนี้ จึงไม่อยากให้สิ้นสุดลง
“เฉินซิน นายนี่ช่างพิเศษจริงๆ” บอกคนที่กำลังโก้งโค้งคว่ำหน้าร้องครวญครางแผ่วเบาอยู่ ด้วยความพึงพอใจ มือก็ลูบไต่ไปตามเส้นโค้งสวยงามที่หลัง แล้วเอื้อมไปหยอกเย้าตุ่มไตเล็กๆ สองตุ่มด้านหน้า ปากก็พรมจูบและไล้เลียที่หลังคอไปด้วย
“อ๊า...” เฉินซินที่ถูกลิ้นสากของคนด้านหลังลากลงยังจุดอ่อนไหวตรงคอ ก็ร้องออกมาด้วยความเสียวซ่าน ร่างกายสั่นสะท้าน ช่องทางด้านหลังหดเกร็ง
“อา...อย่า อย่าเกร็งฉันยังไม่อยากเสร็จ” เจ้าของลิ้นสากบอกพร้อมกับฟาดฝ่ามือลงไปที่แก้มก้นหนั่นแน่นของคนตรงหน้าไม่หนักไม่เบา เพื่อเตือนไม่ให้เกร็ง
“อ๊ะ...นะ นายก็อย่าเลียสิ มันเสียว” เฉินซินที่โดนฟาดก็ยิ่งขยับเกร็ง และเอ่ยบอกด้วยเสียดเสียว เพราะแค่ชักเข้าชักออกอยู่นี้เขาก็เสียวจะแย่อยู่แล้ว นี่ยังมาเลียกันอีก ใครจะไปทนไหว
“...อือ...” เกาเจี้ยนหานที่ถูกตรงนั้นของคนด้านหน้าตอดรัด จากการเกร็งก็ทนไม่ไหว จึงขยับสอดใส่เร็วๆ ไปหลายทีแล้วปลดปล่อยเข้าไปในตัวของอีกฝ่าย
จู่ๆ ก็ถูกทำให้ปลดปล่อย โดยที่ยังไม่อยากเสร็จ ก็รู้สึกไม่พอใจมาก จึงพลิกตัวคนใต้ร่างให้หันหน้ามาแล้วก้มตัวลงไปจูบใหม่อีกครั้ง และก็เป็นเหมือนเดิม กลิ่นยานั่นยังไม่จางหายไป ยิ่งจูบยิ่งคึกคักอย่างไม่รู้ตัว
คราวนี้เขาต้องสั่งสอนคนแซ่เฉินนี้ให้รู้จักดีชั่วซะแล้ว กล้าที่จะขัดใจเขา ไม่เชื่อฟังเขา...เกาเจี้ยนหานทั้งคิด ทั้งขยับแทงส่วนนั้นเข้าไปในตัวเฉินซินด้วยอย่างแรง
“อ๊ากกกก ไอ้บ้านี่! แม่ง! บอกกันสักคำสิว่ะ” เฉินซินร้องด่า จูบอยู่ดีๆ ก็แทงพรวดเข้ามา ไอ้เวรเอ้ย!
“ฉันชื่อเกาเจี้ยนหาน” เอ่ยบอกชื่อตัวเองอีกครั้ง ทั้งขยับเอวเข้าออกในตัวอีกฝ่ายไปด้วย อย่างกระแทกกระทั้นไม่พอใจ
“อ๊ะ ระ รู้แล้ว นะ นายเบาๆ หน่อย อูยย” บอกอย่างเจ็บปวด ครั้งนี้ไม่มีความนุ่มนวลเหมือนอย่างรอบที่แล้วเลย ยิ่งทำในท่าที่ต้องยกขาขึ้นสูงและถูกโถมแทงเข้ามาจนสุด นั้นเจ็บจนต้องหลั่งน้ำตาเลยทีเดียว
“เรียกชื่อฉันดีๆ” เกาเจี้ยนหานสั่งเสียงเรียบ ทั้งยังส่งเอวเข้าไปแรงกว่าเดิม
“อ๊ากกก...ไอ้บ้านี่ ทำดีๆ สิ อูยยยเจ็บนะ” อดที่จะสูดปากและร้องด่าไม่ได้ จู่ๆ ก็ทำยังกับโกรธกันมา ขาก็ออกแรงถีบด้วย
“ฉันบอกให้เรียกชื่อฉันดีๆ” คนเอาแต่ใจสั่งเสียงเข้ม ทั้งส่งตัวเองเข้าไปให้ลึกกว่าเดิมอีก มือที่จับขาอีกฝ่ายไว้ก็ออกแรงยึดไม่ให้ถีบตัวได้
“อึก..กะ เกาเจี้ยนหาน เกาเจี้ยนหานพอใจหรือยัง” คนถูกสั่งเอ่ยเรียกชื่อด้วยความเจ็บ ทั้งถามออกมาอย่างประชดประชัน
“ดีมาก เรียกต่อไป เรียกชื่อฉันไปเรื่อยๆ” เจ้าของชื่อเอ่ยอย่างได้ใจ ไม่รู้ทำไมถึงนึกอยากแกล้งอีกฝ่ายนัก
“ไอ้บ้า! แกเป็นโรคจิตหรือไง” เฉินซินที่ได้ยินคำสั่งให้เรียกชื่ออีกฝ่ายไปเรื่อยๆ ก็ด่าออกมาอย่างเหลืออด สุดท้ายก็ร้องไห้ครวญครางออกมาอย่างทนไม่ไหว “ทำไมนายไม่ฆ่าฉัน ฮือๆ ฉันไม่มีใครรัก ยังมาโดนนายรังแกอีก ฮือๆ”
จู่ๆ คนก็ร่ำไห้และคร่ำครวญออกมา เกาเจี้ยนหานจึงอดที่จะสงสารไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะน้อยใจที่ไม่มีใครรัก คนคนนี้ก็คงจะไม่มาก่อเรื่องที่นี่
“เอ่อ..เอาเป็นว่าฉันขอโทษ นายอย่าเสียใจเลยนะ ต่อไปนี้นายมาเป็นคนของฉัน อยู่กับฉันดีไหม” พูดจบ ก็ก้มลงไปจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
“ฮือๆ ฉันมันคนไม่เอาไหน เรียนก็ไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ถูกใจใคร อยากตายยังไม่กล้าฆ่าตัวตายเองอีก ฮือๆ ๆ” เฉินซินที่ได้ร้องไห้แล้วก็หยุดไม่ได้ จึงรำพึงรำพันออกมาอย่างระบายความอัดอั้น
ยิ่งได้ยินที่อีกฝ่ายพูด คนฟังก็ยิ่งใจอ่อนยวบ จึงจูบปลอบอย่างละเมียดละไม และเอ่ยบอกด้วยเสียงนุ่มทุ้มอีกครั้งอย่างตัดสินใจแล้ว “จากนี้ไป ฉันจะรักและดูแลนายเองดีไหม”
ฝ่ายเฉินซินที่จู่ๆ ก็ถูกอ่อนโยนใส่อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ได้แต่อ่อนละลายกลายเป็นน้ำไปทันที คำพูดของเกาเจี้ยนหาน สมองก็ไม่ได้ประมวลผลเลยแม้แต่น้อย เพราะความเสียวซ่านที่อีกฝ่ายมอบให้มันชัดเจนกว่า
ถูกจับพลิกคว่ำ พลิกหงาย ไปมาหลายท่า หลายตลบ เฉินซินก็ได้แต่ร้องครวญครางอยู่อย่างนั้น ยิ่งทั้งสองจูบพัวพัน ร่างกายก็ยิ่งคึกคัก ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้จะปลดปล่อยกันไปหลายรอบแล้วก็ตามที
.........................
ด้านนอกห้องบนชั้นสาม
"คุณเกายังไม่ออกมาอีกเหรอ" มือขวาเดินหาวหวอดๆ ออกมาถามชายร่างสูงใหญ่ที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง
"ยังเลยครับ" ชายร่างสูงใหญ่ตอบ มือขวาจึงยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาจากนาฬิกาที่สวมใส่อยู่
เข้าห้องไปตั้งแต่ตีหนึ่ง ผ่านมาห้าชั่วโมงแล้วนะ ไม่ใช่เป็นอย่างอื่นแล้วไปหรือ
มือขวานึกอย่างตลกขบขัน ทั้งคาดเดา หรือคุณเกาจะนอนพักที่นี่ แต่เจ้านายก็ไม่ได้บอกไว้นี่นา
ช่างเถอะๆ ออกมาตอนไหนก็ตอนนั้นแหละ
คนคาดเดาคิดอย่างไม่อยากจะเห็นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะอย่างไรเสีย เจ้านายก็กำลังทำภารกิจสำคัญอยู่ จึงสั่งคนที่ยืนอยู่หน้าห้องไว้ ถ้าเกิดเจ้านายออกมาแล้วให้รีบบอกเนื่องจากมีเรื่องจะรายงาน แล้วเดินกลับเข้าห้องทำงานของตัวเองไปตามเดิม
