บท
ตั้งค่า

บทที่ 14 เรื่องราวในห้องพักฟื้น

ภาพข่าวในทีวี ทั้งเหตุการณ์จุดไฟเผาร้านซึ่งหน้า โดยคนร้ายที่เข้ามาทำทีเป็นซื้อของ รวมไปถึงรายงานข่าวที่บอกว่ามีพนักงานร้านได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ก้อนดินนั่งนิ่งอึ้งไปนาน ราวกับลมหายใจของเขาได้ขาดช่วงไปแล้ว

ทั้งที่เขา... ยังหายใจอยู่ และหัวใจของเขา... ยังคงเต้นอยู่

"มือถือ... มือถือ... มือถือ...!!" เขาพึมพำอยู่หลายต่อหลายรอบ กว่าจะได้สติมองหาสิ่งที่ตัวเองกำลังพูดถึง และพบว่ามันวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงคนไข้ ข้างๆ กันกับกระเป๋าสตางค์เหี่ยวๆ และว่างเปล่าใบนั้น

"โอ๊ยยยย!!" ชายหนุ่มพยายามขยับตัว และขยับเฝือกขาหนักๆ เพื่อที่ตัวเองจะได้เอื้อมมือไปให้ถึงโทรศัพท์มือถือ แม้ความเจ็บปวดจะบังเกิดขึ้นกับแขนและขาของเขาหลายต่อหลายครั้ง แต่มันก็ยังไม่เท่าความรู้สึกเจ็บปวดข้างในหัวใจ ไม่ได้... แม้แต่เศษเสี้ยวหนึ่งของมัน

"โอ๊ยยยย... โธ่เว๊ย!!"

เสียงสบถดังขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ในช่วงที่มือของก้อนดินยังคงพยายามเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์มือถือ อีกนิดเดียว... อีกนิดเดียว... นั่นคือคำที่ชายหนุ่มใช้ปลุกใจตัวเอง มันทำให้เขาไม่ลังเลเลยที่จะปลดเหล็กข้างเตียงลงอีกครั้ง เพื่อที่จะไปให้ถึงสิ่งนั้น แม้ว่ามันอาจทำให้เขา...

พลั่กกกกก!!

"อ๊ากกกกก!!"

เสียงสบถเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเสียงร้องโหยหวน เมื่อร่างของก้อนดินร่วงตกจากเตียงลงมากระแทกพื้นอย่างแรง และแม้จะเป็นอย่างนั้น แต่เขาก็คว้าโทรศัพท์มือถือมาไว้ในมือได้สำเร็จ

"ได้... แล้ว... โว้ย" เขายิ้มทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาตอนเฝือกกระแทกพื้น แม้จะยังเจ็บหนักชนิดที่ไม่รู้ว่ามีชิ้นส่วนไหนหักเพิ่มอีกหรือไม่ แต่เวลานี้ก้อนดินไม่คิดจะสนใจสิ่งอื่นใดนอกจากโทรศัพท์ในมือ

"ฮัลโหล พี่เป้ง!! พี่เป้งใช่ไหมครับ!?" ชายหนุ่มละล่ำละลักเรียกชื่อเจ้าของเบอร์ด้วยความดีใจ ทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย

"ใช่ๆ เฮ้ย! พวกเรา... ไอ้ก้อนโทรมาโว้ย"

และไม่ใช่แค่ก้อนดินเท่านั้นที่ดีใจ แต่กลุ่มคนทางปลายสายก็ดีใจไม่แพ้กัน แม้จะไม่ได้เจอและไม่ได้ทำงานร่วมกันมาแรมปี แต่สายสัมพันธ์ในคำว่า 'เพื่อน' ระหว่างพวกเขายังคงแน่นแฟ้น ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

"ไอ้ก้อน... ละ... ละ... ลูกพี่ของพวกเรา..."

ไม่ทันที่ก้อนดินจะได้ซักถามถึงเรื่องราวในภาพข่าว เจ้าของชื่อเป้งก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นก่อน น้ำเสียงสั่นเครือของผู้ชายผิวเข้มร่างใหญ่ไว้หนวดปานนักรบโบราณในภาพจำของก้อนดิน ช่างสั่นไหวความรู้สึกและหัวใจของเขา เวลานี้โลกทั้งใบของชายหนุ่มคล้ายจะหยุดหมุน เพื่อรอฟังประโยคถัดไปที่เป้งกำลังจะพูด

"ฮึก... ฮึก... ฮึก... ลูกพี่อาการปางตายอยู่ในห้องไอซียู ฮือออออ..."

แม้จะเตรียมใจไว้ล่วงหน้าตั้งแต่แรก ว่าคงมีใครคนใดคนหนึ่งในกลุ่มรุ่นพี่รุ่นน้องของเขา ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่พอถึงเวลาที่ได้รับรู้ความจริง เขาก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี

"ละ... ละ... แล้วลูกพี่... อยู่โรงบาลไหนครับ" ก้อนดินพยายามกลืนก้อนแข็งๆ ที่จุกอยู่ตรงคอลงไป ก่อนจะตั้งคำถามออกมาอย่างลำบากยากเย็น ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะลากสังขารไปเยี่ยมยังไง ในสภาพไหน

"โรงบาล..."

คำตอบปนเสียงสะอื้นของอีกฝ่ายทำเอาก้อนดินถึงกับชะงัก ในเมื่อโรงพยาบาลที่ว่าคือโรงพยาบาลที่เขากำลังใช้บริการอยู่ และคงจะต้องใช้บริการไปอีกหลายวัน

"ผมก็อยู่โรงบาลนี้เหมือนกัน พวกพี่ๆ ยังอยู่ที่โรงบาลกันหรือเปล่าครับ ผมอยากไปเยี่ยมลูกพี่ แต่ผมใส่เฝือกขา เดินไม่ถนัด" ก้อนดินละล่ำละลักเหมือนกลัวว่าคนทางนั้นจะชิงตัดสาย หนีไปร้องไห้ไม่ให้เขาได้ยิน

"พี่เจ็บไม่เยอะ เลยกลับมาห้องเช่าแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เข้าไปหา แล้วจะพาไปเยี่ยมลูกพี่นะ แล้วนี่ไปทำอะไรถึงได้ขาหักต้องเข้าเฝือก?"

เมื่ออีกฝ่ายถามไถ่มา การพูดคุยไต่ถามสัพเพเหระ สารทุกข์สุกดิบจึงบังเกิดขึ้น แม้จะเป็นบทสนทนาที่ฝ่ายหนึ่งยังคงนอนเจ็บสาหัสอยู่บนพื้น แต่ก้อนดินก็มีความสุข สีหน้าและรอยยิ้มของเขามันบ่งบอกได้

เวลาเดียวกัน... อีกมุมหนึ่งของโรงพยาบาล สถานที่ซึ่งก้อนดินและลูกพี่ของเขาพักรักษาตัวอยู่

"ไปไหนแล้วเนี่ยรุ่นพี่ไมเคิล วาร์ปคลาดกันนิดเดียว หายเลย" ดาวเหนือยืนเกาหัวพลางหันรีหันขวางมองหาหัวหน้าหน่วยยมทูต อยู่ตรงทางเดินหน้าห้องพักฟื้นภายในโรงพยาบาล

"รุ่นพี่ไมเคิลคร้าบ..." เขาร้องเรียกไมเคิล ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าคนคนนั้นจะได้ยินเสียงเรียกของเขา แล้วโผล่หน้าออกมากวักมือเรียกเป็นสัญญาณการตอบรับ

"คงต้องเดินหาทุกห้องแล้วล่ะแบบนี้" ดาวเหนือสรุปกับตัวเอง ก่อนจะเริ่มต้นเดินทะลุเข้าทะลุออกห้องพักฟื้นในแถบนั้นทีละห้อง... ทีละห้อง... จนกระทั่ง...

"รุ่นพี่ไมเคิล... อยู่ห้องนี้หรือเปล่าคร้าบบบบ?" หนุ่มน้อยยมทูตฝึกหัดเดินทะลุประตูห้องพักฟื้นเข้ามาเดินวนๆ ภายในห้อง ก่อนที่สายตาของเขาจะเหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งที่กำลังนอนหมดสภาพอยู่บนพื้นเย็นๆ ข้างเตียงคนไข้

"อ้าว... ห้องนี้เหรอที่มีคนตาย หรือว่ารุ่นพี่ไมเคิลจะลงพิกัดผิด?" เขาพึมพำเบาๆ ถึงอย่างนั้นก็ยังเสียงดังฟังชัดอยู่ดี ในความเงียบของห้องพักฟื้น ซึ่งโทรทัศน์กำลังขึ้นภาพจอดำ พร้อมตัวหนังสือ 'ไม่มีสัญญาณ'

"ใครตายฟะ! ฉันยังไม่ตายเฟ้ย!"

เสียงของชายผู้นอนนิ่งอยู่ข้างเตียงคนไข้ดังประท้วงขึ้น ทำเอาดาวเหนือถึงกับสะดุ้ง เพราะไม่คิดว่าจะมีคนได้ยินสิ่งที่เขาพูด มิหนำซ้ำ... เสียงนั้นยังฟังดูคุ้นๆ ซะด้วยสิ

"นะ... นายเป็นใครน่ะ?" ดาวเหนือร้องถามออกไป ระหว่างที่ค่อยๆ ย่อตัวลงและก้มมองชายผู้นอนอยู่บนพื้นข้างเตียง แถมยังมีเฝือกเป็นของตัวเองถึง 2 อันอีกด้วย

"ฉันต่างหากที่ควรจะถามนาย นายเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง ทำไมฉันถึงไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู แล้วนายใช่บุรุษพยาบาลหรือเปล่า?"

คำถามมากมายถูกยิงตรงมายังดาวเหนือ ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งคุ้นหู เหมือนเคยได้ยินเสียงเสียงนี้มาก่อน แม้จะไม่มั่นใจว่ารู้จักเจ้าของเสียงก็ตาม

"ผมไม่ใช่บุรุษพยาบาล" หนุ่มน้อยเลือกตอบเพียงคำถามเดียว ซึ่งนั่นก็เพราะเขาไม่รู้จะบอกอีกฝ่ายว่ายังไงดี ถึงเรื่องที่เขาทะลุประตูเข้ามาเพื่อตามหารองหัวหน้ายมทูต

"ฉันว่าฉันคุ้นๆ เสียงนาย"

คำพูดของคนคนนั้นทำเอายมทูตหนุ่มน้อยชะงัก ในเมื่อเขาเองก็คิดแบบนั้น

"นายเป็นใคร ถ้าไม่ใช่บุรุษพยาบาล แล้วเข้ามาในห้องฉันทำไม?" คนคนนั้นวกกลับมาที่คำถามซึ่งยังไม่ได้คำตอบ

"ผม... เข้าห้องผิด" ดาวเหนือตอบเลี่ยงๆ และตั้งใจจะวาร์ปหนีออกไปจากห้อง ทว่า...

"นายจะเป็นใครก็ช่าง มาช่วย... ฉันหน่อยได้ไหม หนาวจะตายอยู่แล้วเนี่ย"

คำขอร้องของอีกฝ่ายทำเอาดาวเหนือชะงักไปอีกรอบ เปล่าเลย... เขาไม่ได้นึกแปลกใจหรอก ที่อีกฝ่ายบ่นว่าหนาว ทั้งที่อุตริลงไปนอนตรงนั้นเอง แต่ที่เขาชะงักไปนั่นก็เพราะ...

"ขอโทษด้วย... ผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้" หนุ่มน้อยตอบด้วยความรู้สึกสงสารระคนเห็นใจ หากแต่อีกฝ่ายกลับตีความตรงกันข้าม

"นายนี่มันแล้งน้ำใจชะมัด ไหนๆ ก็เข้าห้องผิดมาแล้ว แค่ช่วยพยุงฉันขึ้นไปนอน มันยากหรือไง หรือถ้ากลัวจะทำฉันแขนหักขาหักอีกข้าง ช่วยไปตามพยาบาลมาให้ก็ได้" คนคนนั้นเสนออีกหนึ่งทางเลือกให้ดาวเหนือ ถึงอย่างนั้นหนุ่มน้อยยมทูตฝึกหัดก็ยังมั่นใจว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทำได้อยู่ดี

"ต้องขอโทษจริงๆ" ดาวเหนือตอบกลับด้วยข้อความที่มีความหมายเดิม

"ก็ได้... งั้นก็รีบๆ ออกไปซะ อย่าให้ฉันนึกออกแล้วกัน ว่าทำไมถึงคุ้นเสียงนายนัก"

คำพูดของคนคนนั้น ทำให้ดาวเหนือเริ่มอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา เขาเองก็อยากได้คำตอบเหมือนกันว่าเจ้าของเฝือกสองท่อนนี่เป็นใคร ทำไมทั้งเขาและหมอนั่นถึงได้คุ้นเสียงของอีกฝ่ายเหลือเกิน ไม่แน่... อาจเป็นคนที่เขาเคยรู้จักสมัยยังเป็นมนุษย์ก็ได้

"นั่นสิ... ผมก็คุ้นเสียงคุณเหมือนกัน"

ไม่พูดเปล่า... ดาวเหนือวาร์ปจากจุดที่ยืนอยู่ไปโผล่ตรงที่ที่คนคนนั้นนอน แล้วชะโงกหน้าเข้าไปมองจ้องอีกฝ่าย นั่นเองที่ทำให้เสียงประสานดังขึ้นพร้อมกันแบบไม่ต้องนัดหมาย

"ไอ้เซลล์ลวงโลก!"

"ไอ้ตัวซวยจอมจุ้น!"

ทั้งคู่ต่างยกมือขึ้นชี้หน้าอีกฝ่ายด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่โรงพยาบาลแบบนี้ ในสภาพนี้

"ทำให้ฉันโดนรถชนไม่พอ ยังตามมาสมน้ำหน้าซ้ำเติมฉันอีกเหรอไอ้เด็กผี!" ก้อนดินโวยวายเสียงลั่น นี่ถ้าเขาไม่เข้าเฝือกอยู่ล่ะก็ คงวิ่งหนีทะลุประตูห้องออกไปแล้ว

เปล่าเลย... เขาไม่ได้กลัวผี แต่กลัวจะต้องเจอเรื่องซวยๆ อะไรอีกต่างหาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel