บทที่ 1 การกลับมายังประเทศไทย
"จะเกิดอะไรกั...บ..." ดาวเหนือตั้งท่าจะถามต่อไปอีก ถ้านับเงินไม่ใช้ยื่นนิ้วชี้ของเธอมาแตะริมฝีปากของเขาเสียก่อน
"อย่าพึ่งกวน พี่กำลังใช้สมาธิ" เธอยิ้มหวานปิดท้าย แล้วเบนสายตากลับไปยังถนนเบื้องหน้า ที่ซึ่งรถยนต์มากมายกำลังคืบคลานเรียงรายต่อแถวกันข้ามผ่านสี่แยกไฟแดง 3 นาที ไฟเขียว 3 วิ ขณะที่ดาวเหนือรีบเช็ดริมฝีปาก ตรงที่นิ้วชี้เรียวยาวสัมผัสเมื่อครู่ ราวกับว่าการกระทำนั้นจะทำให้เขา... ผื่นขึ้น
วาบ!
รถหรูคันหนึ่งแล่นเข้ามาเทียบข้างฟุตบาท เป็นเวลาเดียวกับที่แสงเล็กๆ สะท้อนเปลวแดดส่องประกายชั่ววินาทีหนึ่งจากหน้าต่างบานหนึ่งของตึกร้างใกล้ๆ แม้เหล่ามนุษย์ที่ต่างกำลังดำเนินชีวิตประจำวันของตนจะไม่ทันสังเกตเห็น แต่มันไม่อาจเล็ดรอดสายตาของสองยมทูตไปได้
"มาแล้วสินะ... เหยื่อของฉัน" นับเงินยิ้มมุมปาก นัยน์ตาที่เคยส่องประกายแวววาว เวลานี้สุกสกาวยิ่งกว่าหลอดไฟแอลอีดียี่ห้อไหนๆ ทันทีที่เธอเห็นชายผิวขาวร่างท้วม หน้าเหลี่ยม ตาหยี จมูกชมพู่ กับหูแหลมรีคล้ายค้างคาว ในชุดสูทลงจากรถหรู ท่ามกลางบอดี้การ์ดสูทดำที่เตรียมตั้งขบวนรายล้อมรักษาความปลอดภัย ทว่า...
ปัง!
กระสุนลูกเล็กจากระยะไกลพุ่งเข้าทะลุทะลวงสูทตัวหนาที่เจ้าของร่างท้วมสวมใส่ ก่อนที่เขาคนนั้นจะล้มลง เลือดสีแดงสดค่อยๆ ซึมออกมาย้อมเชิ้ตขาวภายในสูทดำ
"นายอนุยุทธ เชี่ยวชาญกัญชง ถูกยิงตัดขั้วหัวใจเสียชีวิต... คอนเฟิร์มเคส" นับเงินรายงานกับเครื่องบันทึกภาพรูปลูกตาในมือ ส่วนมืออีกข้างก็ตะปบคอเสื้อสูทของดาวเหนือพาวาร์ปเข้าไปที่จุดเกิดเหตุ และแม้จะไม่ทันได้ตั้งตัว แต่หนุ่มน้อยยมทูตฝึกหัดก็ตื่นเต้นสุดๆ ที่กำลังจะได้เห็นวิธีการนำส่งดวงวิญญาณลงนรกของหัวหน้าสาว
เธอ... จะใช้ผมยาวๆ รัดคอวิญญาณที่กำลังหลุดออกมาจากร่างนั่น แล้วลากลงไปเข้าเฝ้าท่านยมใช่ไหม!?
"พะ... พะ... พวกเธอเป็นใคร!?" ดวงวิญญาณหน้าตาซีดเซียวอมเขียวของนายอนุยุทธ หันขวับมาหานับเงินและดาวเหนือด้วยอากานตกใจสุดขีด
"นายอนุยุทธ เชี่ยวชาญกัญชง" นับเงินจ้องหน้าเหยื่อของเธอ ทำเอาอีกฝ่ายเลิกลั่ก หันรีหันขวางเรียกหาบอดี้การ์ดเสียงลั่น
"เฮ้ย! พวกแกมัวทำอะไรอยู่ ทำไมปล่อยให้พวกนี้มันมาถึงตัวฉันได้"
เสียงนั้นดังพอจะเรียกคนทั้งถนนให้หันมามอง หากว่านั่นไม่ได้เป็นเพียงแค่เสียงของคนตายล่ะก็นะ
"เสียใจด้วยนะ พวกเขาไม่ได้ยินคุณหรอก เอาล่ะ... ไปกันได้แล้ว ฉันยังต้องขึ้นมารับวิญญาณอื่นอีก" นับเงินเปลี่ยนสรรพนามบุรุษที่ 3 เล็กน้อย ระหว่างที่เธอดึงแส้สีดำสนิทออกมาจากแขนเสื้อสูท ยิ่งทำให้ดาวเหนือตื่นเต้นสุดๆ เขาเดาว่าเธอคงจะใช้แส้นั่นฟาดนายอนุยุทธให้ยอมศิโรราบตามลงไปในนรกแต่โดยดีแน่ๆ
"บะ... บะ... บ้าน่า!! ฉันยังไม่ตายสักหน่อย ฉันจะตายได้ยังไง โกหก!! เธอโกหกฉั...น..." วิญญาณชายร่างท้วมตั้งท่าจะโวยวาย แต่กลับต้องชะงักไปกับสายตาที่จ้องมองมาของหัวหน้ายมทูตสาว ดวงตาของเธอในเวลานี้ ดูราวกับกำลังจะฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆ หากว่าเขา... ยังไม่ยอมปิดปากกว้างๆ นั่นให้สนิท
"ฉันไม่ได้ว่างหรอกนะ ถ้าไม่อยากตายรอบสองก็หุบปาก แล้วตามฉันมา!" นับเงินตวัดแส้ในมือที่กลับกลายเป็นงูสีดำสนิทตัวเท่าแขน ตรงเข้าพันข้อมือของนายอนุยุทธ ทำเอาอีกฝ่ายร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว
"ฉะ... ฉะ... ช่วยด้วย!! ฉันไม่ไป ฉันยังไม่อยากตาย งูนี่มันจะกัดฉัน เอามันออกไป เอามันออกปายยยย ม่ายยยยย... ฮือออออ!!" ชายร่างท้วมร้องลั่นและร้องไห้ เมื่องูเจ้ากรรมดันแกล้งยื่นหัวของมันเข้ามาใกล้หน้าเหลี่ยมๆ ของเขา มิหนำซ้ำมันยังแลบลิ้นมาแตะจมูกชมพู่ของเขาด้วย
"เจ้านิล! ปิดปากมัน เอาให้สนิท อย่าให้มีเสียงลอดนะ" นับเงินออกคำสั่ง หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสียงร้องโวยวายเมื่อครู่ก็เงียบลง โดยปราศจากแม้เสียงอู้อี้ของชายผู้ถูกงูยมทูตรัดรอบใบหน้าและลำคอ
"น่าขนลุกชะมัด" ดาวเหนือพึมพำ ทุกอย่างผิดจากที่คาดคิดไปมาก แต่ก็ใช่ว่าเขาจะอยากหนีไปจากหน้าที่นี้หรอกนะ แค่นึกสงสัยนิดหน่อยเท่านั้น
"แล้ว... ผมจะจับวิญญาณลงนรกยังไงล่ะครับ ผมไม่ได้มีแส้งูเหมือนหัวหน้าสักหน่อย" เขาถามขึ้น ระหว่างที่ทั้งคู่พาวิญญาณของนายอนุยุทธลงไปพิจารณาโทษในนรก
"ก่อนเริ่มงานวันแรก เธอจะต้องไปสุ่มกาชาปองงูที่แดนอสรพิษ เจ้านั่นจะเป็นคู่หูเธอไปตลอดอายุขัยของการเป็นยมทูต" นับเงินตอบคำถามยิ้มๆ ไม่มีวี่แววอารมณ์เสียๆ ที่ตกค้างจากการรับมือดวงวิญญาณขี้โวยวายให้เห็น
"กาชาปองงู?" ยมทูตดาวเหนือนิ่วหน้าทวนคำ พร้อมกับพยายามนึกภาพตาม ถึงยังไงเขาก็คิดว่ามันคงไม่ใช่ตู้กาชาปองหยอดเหรียญสุ่มงูแน่ๆ
"ฝากด้วยนะ ยังเหลืออีก 24 เคส ดาวเหนือ... ไปกันได้แล้ว!"
เสียงของนับเงินปลุกดาวเหนือให้ตื่นจากภวังค์ความคิด เขาเหลือบมองงูเจ้านิลของรุ่นพี่สาวซึ่งกำลังคลายร่างที่รัดหน้าและคอของนายอนุยุทธออก ก่อนจะเลื้อยกลับเข้าไปในแขนเสื้อสูทของนับเงิน แล้วหนุ่มน้อยก็อดทำท่าขนพองสยองเกล้าไม่ได้
"เดี๋ยวก็ชิน แรกๆ ฉันก็เป็นแบบนายนั่นแหละ" ผู้คุมสูทแดงหน้าหล่อ ผิวเข้มเยี่ยงชายไทยแท้ไร้เลือดผสม ยักคิ้ว ยิ้มมุมปากให้ดาวเหนือ ก่อนจะดึงปากกาด้ามแดงจากกระเป๋าเสื้อ ควงปากกาหนึ่งครั้งให้มันเปลี่ยนเป็นกระบอง ฟาดใส่วิญญาณของนายอนุยุทธที่ดิ้นพราดๆ อยู่บนพื้นดินสีดำปนแดงอันร้อนระอุ แล้วลากเหยื่อคนล่าสุดของตัวเองออกไป โดยไม่รอให้ดาวเหนือตอบประโยคบอกเล่านั้น
"เอ้าๆ มัวโอ้เอ้ เดี๋ยวก็ทิ้งไว้นี่หรอก" นับเงินคว้าคอเสื้อดาวเหนือ ทำเอาเขาเซถลา กว่าจะรู้ตัวอีกที ทั้งคู่ก็กลับมาปรากฏกายบนโลกมนุษย์แล้ว ทว่าคราวนี้ไม่ใช่ย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร
"อ้าว... แล้วขอทานคนนั้นล่ะครับ?" ดาวเหนือถามขึ้น ด้วยจดจำได้ว่าคนคนนั้นมองเห็นพวกเขาก็เพราะกำลังจะถึงฆาตในวันนี้
"ยังไม่ถึงคิว" นับเงินตอบสั้นๆ แล้วพาดาวเหนือวาร์ปต่อมายืนตรงรถเข็นขายลูกชิ้นริมฟุตบาทเอียงๆ มีน้ำขัง ทำเอาเขางุนงงหนักขึ้น
"รุ่นพี่หิวเหรอครับ?" ดาวเหนือชำเลืองมองลูกชิ้นปลาในหม้อทอด แต่แล้ว... เพียงเสี้ยววินาที
