บทที่ 10 แบ่งปันน้ำแกงไก่
เมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว แม่หวังก็ทำการตักน้ำแกงไก่ให้กับทุกคน เสวี่ยหมิ่นเดาไม่ผิดเลยสักนิดเดียวว่าหวังหยุนกับหลานทั้งสองคนนั้นได้น้ำแกงกับเนื้อไก่แทบจะเต็มถ้วย ส่วนของหวังชิงก็ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นับประสาอะไรกับเธอและหลินหลินที่ได้แต่น้ำแกงกับเนื้อไก่ไม่กี่ชิ้น
แต่เสวี่ยหมิ่นก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ยังดีที่เธอฉลาดได้ตักน้ำแกงและชิ้นไก่ซ่อนเอาไว้แล้ว
หวังชิงเห็นลูกสาวกินน้ำแกงกับชิ้นไก่จนหมดถ้วยก็รู้ว่าลูกสาวคงจะไม่อิ่ม ก็เลยตักชิ้นไก่ในถ้วยของตนเองไปให้ลูกสาว เสวี่ยหมิ่นเห็นชายหนุ่มทำแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ อย่างน้อยชายหนุ่มก็ยังเป็นพ่อที่ดี รู้จักห่วงใยลูกสาว
"เสวี่ยหมิ่นอยู่ล้างถ้วยด้วยนะ" เมื่อกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วแม่หวังก็เอ่ยบอกลูกสะใภ้คนโตทันที
"ฉันทำกับข้าวแล้ว น้องสะใภ้เล็กยังไม่ได้ทำอะไรเลย หน้าที่ล้างถ้วยนี้ก็คงต้องยกให้น้องสะใภ้เล็กแล้ว" ยัยแก่นี่จะมาลำเอียงใช้เธอคนเดียวได้อย่างไรกัน เรื่องอะไรที่เธอจะยอมทำ
"พอดีว่าเด็กทั้งสองคนมีการบ้าน ฉันต้องไปสอนการบ้านลูกๆ อีก" เจียงซินหยูเอ่ยปฏิเสธทางอ้อม
"ถ้าหากว่าน้องสะใภ้เล็กไม่ว่างที่จะล้างถ้วย ก็ยกหน้าที่นี้ให้น้องเหม่ยเถอะ" เสวี่ยหมิ่นเอ่ยบอกพร้อมกับบอกไปที่หวังเหม่ย
"นี่ฉันเจ็บหัวอยู่นะจะไปล้างถ้วยได้อย่างไง พี่สะใภ้เล็กก็ยกหน้าที่สอนหนังสือหลานให้กับฉันเถอะ ส่วนพี่สะใภ้เล็กก็ไปล้างถ้วยละกัน" หวังเหม่ยเองก็ไม่ใช่คนโง่ จึงรีบรับหน้าที่สอนการบ้านให้กับเด็กๆ แทน
"ทำตามอย่างที่อาเหม่ยพูดก็แล้วกัน แยกย้ายกันได้แล้ว" แม่หวังตัดสินใจแทนทั้งสองคนก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องอย่างอารมณ์ดีที่วันนี้ได้กินเนื้อไก่
เมื่อทุกคนพากันเข้าห้อง เสวี่ยหมิ่นจึงเดินไปหยิบถ้วยน้ำแกงไก่ที่ซ่อนเอาไว้ออกมา ร่างบางยกถ้วยเดินไปที่ห้อง วันนี้เธอไม่ได้หลบซ่อนสามี เพราะหวังชิงยังตื่นอยู่ ถึงเขาจะรู้ว่าเธอได้ซ่อนน้ำแกงไก่เอาไว้แล้วจะอย่างไรในเมื่อแม่ของเขาลำเอียงให้หลินหลินกินเนื้อแทบจะนับชิ้นได้ ถ้าหากว่าเธอไม่ทำแบบนี้แล้วหลินหลินจะกินอิ่มได้อย่างไรกัน
"หลินหลินแม่เก็บน้ำแกงไก่เอาไว้ให้ รีบมากินเถอะจ้ะ" เสวี่ยหมิ่นเอ่ยบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงนุุ่มนวล ร่างเล็กจึงรีบวิ่งไปหาแม่ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้แล้วใช้ช้อนตักน้ำแกงกินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"คุณเองก็มากินเถอะ ฉันตักน้ำแกงเอาไว้เยอะเลย ฉันกับลูกกินไม่หมดหรอก" หญิงสาวเอ่ยบอกชายหนุ่ม ที่ชวนเขากินไม่ใช่ว่าพิศวาสอะไรเขาหรอกนะ ก็แค่เห็นเขายกชิ้นไก่ของตนเองให้กับหลินหลินจนเขาแทบจะไม่ได้กิน ก็เลยสงสารเขาก็เท่านั้นเอง
"คุณกับลูกกินเถอะ ผมอิ่มแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยปฏิเสธเพราะอยากให้ลูกได้กินอิ่ม
"ฉันบอกให้มากินก็มากินเถอะน่า อย่าเรื่องมากได้ไหม" เสวี่ยหมิ่นเอ่ยบอกพร้อมกับลุกขึ้นไปดึงมือของชายหนุ่มมานั่งที่เก้าอี้แล้วเลื่อนถ้วยน้ำแกงไก่ไปตรงหน้าของเขา
หวังชิงอดที่จะแปลกใจไม่ได้ เพราะปกติแล้วเสวี่ยหมิ่นไม่เคยสนใจเลยสักครั้งว่าเขากับลูกจะกินอิ่มหรือไม่
ชายหนุ่มตักน้ำแกงไก่เข้าปากก่อนจะลอบมองหญิงสาวไปด้วย ทำไมเขารู้สึกว่าภรรยาของเขาไม่ใช่เสวี่ยหมิ่นคนเดิมกันนะ แต่จะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อหน้าตาทุกอย่างก็คือเสวี่ยหมิ่น สงสัยเขาจะคิดมากเกินไป ชายหนุ่มสะบัดศีรษะไปมาก่อนจะตั้งใจตักน้ำแกงไก่ใส่เข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยความอร่อย วันนี้เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เขาได้กินอาหารจนอิ่ม
เมื่อทั้งสามคนกินจนเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็นำถ้วยออกไปล้างก่อนจะเดินกลับมาเข้าห้องเตรียมชุดจะไปอาบน้ำ
พอไปถึงห้องน้ำก็มีคนกำลังเข้าอยู่ เสวี่ยหมิ่นจึงยืนรออยู่หน้าห้อง ไม่นานเจียงซินหยูก็เปิดประตูออกมาก่อนจะเดินผ่านเสวี่ยหมิ่นไป
เสวี่ยหมิ่นเดินเข้าไปในห้องน้ำ พอมองไปที่ถังใส่น้ำก็อดที่จะโมโหไม่ได้ เมื่อเจียงซินหยูใช้น้ำจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือให้เธออาบเลยสักนิดเดียว ทั้งๆที่น้ำถังนึงสามารถอาบได้ตั้งหลายคน
"อุ๊ย ขอโทษด้วยนะจ๊ะพี่สะใภ้ใหญ่ พอดีว่าวันนี้ฉันอาบน้ำเพลินไปหน่อย ก็เลยใช้น้ำซะหมดเลย ถ้าหากว่าพี่สะใภ้ใหญ่อยากจะอาบน้ำก็ต้องไปตักที่บ่อแล้วล่ะ" เจียงซินหยูเอ่ยบอกเสวี่ยหมิ่นด้วยน้ำเสียงน่าหมั่นไส้ ทำเอาหญิงสาวอยากจะลากนังตัวดีนี่มาตบเสียเดี๋ยวนั้น
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันรู้ว่าน้องสะใภ้เล็กเนื้อตัวสกปรก เหม็นสาบ จะใช้น้ำมากกว่าคนอื่นก็เป็นเรื่องปกติ" เสวี่ยหมิ่นเด่าเจียงซินหยูทางอ้อม อีกคนได้ฟังถึงกับใบหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที
"นี่แกด่าฉันเหรอนังเสวี่ยหมิ่น" เจียงซินหยูเอ่ยถามออกไปอย่างเก็บอาการไม่อยู่
"แล้วคิดว่ามีคนอื่นให้ฉันด่าไหมละ ตรงนี้ก็ทีแค่เธอกับฉัน หรือเธอคิดว่าฉันกำลังด่าตัวเอง" เสวี่ยหมิ่นพูดจาด่าว่าอีกฝ่ายอย่างไม่อ้อมค้อม ถ้าหากว่าเธอด่าขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ว่าเธอกำลังด่า ก็ควรจะต้องไปเช็คสมองแล้วล่ะ
"ฝากไว้ก่อนเถอะ" เจียงซินหยูเอ่ยบอกด้วยความโมโห ก่อนจะเดินเข้าห้องไป เสวี่ยหมิ่นรู้สึกสะใจไม่น้อยที่ได้ระบายอารมณ์ออกมา ร่างบางยืนมองถังน้ำตรงหน้าก็ได้แต่คิดว่า ลำบากสามีต้องแบกน้ำมาให้ภรรยาอย่างเธออาบแล้วล่ะ
