บท
ตั้งค่า

Ep6 ตกลงระหว่างเรามันคืออะไร 

เมื่อทั้งคู่ทานมื้อค่ำเสร็จ พวกเขาเลือกที่จะแยกย้าย แม้ว่าเรื่องราวเมื่อคืนวานจะยังว้าวุ่นใจ แต่วันนี้คนทั้งคู่กลับทำว่าเย็นชาต่อกัน แน่นอน เขายอมรับว่าเขาเริ่มจะเลยเถิดจนจะเสียอาการ เขาแทบแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออกอยู่แล้ว ส่วนเธอเองก็ปล่อยใจปล่อยกายให้กับคนที่ไม่เห็นค่าตัวเองเช่นกัน

จารุวรรณถอนหายใจเบาๆ สองมือสอดประสานกันบนตัก ดวงตากลมโตมองแสงไฟสลัวในห้องนอนอย่างเหม่อลอย ความเงียบสงัดรอบตัวกลับยิ่งขับเสียงหัวใจเธอให้ดังขึ้น

‘สมน้ำหน้า…แกมันง่ายเอง’

เสียงในหัวดังซ้ำๆ เหมือนคอยตอกย้ำความอ่อนแอในตัวเธอเอง เธอรู้ว่ามันผิดตั้งแต่แรก แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้

แต่แล้ว…

เสียงประตูก็ถูกเปิดออกเบาๆ ฟาเอลเดินเข้ามาเขาไม่พูดอะไร เพียงเดินไปวางน้ำดื่มวางบนโต๊ะใกล้ๆ เธอ หญิงสาวสะดุ้ง เหลือบมองเขาก่อนเอ่ยคำขอบคุณ

“ขอบคุณค่ะ”

เสียงเธอเบาและสั่นนิดหน่อย

เขาแค่พยักหน้า ไม่สบตาเธอ ก่อนจะเดินไปยืนพิงขอบหน้าต่าง มือใหญ่ล้วงกระเป๋ากางเกงลำลอง ดวงตาคมเหม่อมองความมืดด้านนอก

“ถ้าคุณอยากพัก…ผมจะออกไป”

เสียงเขาเรียบเฉยเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ปิดบังความรู้สึกบางอย่างที่แฝงอยู่

จารุวรรณกะพริบตาถี่ๆ

“ไม่เป็นไรค่ะ…คุณอยู่ต่อก็ได้ค่ะ”

ฟาเอลเลิกคิ้วนิดหน่อย สายตาคมปรายมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง

ความเงียบเข้ามาแทนที่บทสนทนาอีกครั้ง ทั้งคู่ต่างจมอยู่กับความคิดตัวเอง เธอรู้ดีว่าเขาไม่เคยเปิดใจ และเขาเองก็รู้ดีว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นคนที่เขาไม่ควรปล่อยใจให้เลยแม้แต่น้อยเช่นกัน

แต่ในความเงียบนั้น…กลับเต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ไม่มีใครยอมเอ่ยปาก จารุวรรณลุกขึ้น เดินไปหยุดยืนข้างเขา กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของเขายิ่งทำให้หัวใจเธอไหวสั่น เธอกลั้นใจเอ่ยคำถามที่ไม่กล้าถามถามก่อนหน้าออกมา

“ดื่มมั้ยคะ?”

“เธออยากดื่ม?” เขาถามกลับ

“ค่ะ”

เสียงเธอแผ่วจนแทบเป็นเสียงลมหายใจ ใช่แล้วเธออยากดื่ม เผื่อว่าจะกล้าพูดอะไรในใจออกไป

ฟาเอลชะงัก ดวงตาคมเหลือบมองเธอชั่ววูบ สายตานั้นเต็มไปด้วยความลังเลและ…ความรู้สึกบางอย่างที่หญิงสาวอ่านไม่ออก

“เดี๋ยวผมลงไปเอา”

ไม่ว่าเปล่า เขาหมุนตัวเองและเดินลงไปข้างล่าง ก่อนจะเดินขึ้นมาอีกรอบพร้อมกับขวดสีอำพัน และแก้วเปล่าในมือสองใบ เขาวางแก้วลงบนโต๊ะตัวเล็กใกล้โซฟา ก่อนจะนั่งลงข้างเธออย่างสงบ ดวงตาคมเข้มสบตาเธอครู่หนึ่ง ราวกับกำลังสำรวจความรู้สึกลึกๆ ที่ซ่อนอยู่ในแววตากลมโตนั้น

“ค่อยๆ ดื่มล่ะ”

เสียงเขาต่ำและนุ่ม แต่ยังคงความเด็ดขาดในแบบฉบับของเขา

เธอพยักหน้าเบาๆ มือเล็กสั่นน้อยๆ ตอนที่รับแก้วจากเขา ขวดเหล้าในมือใหญ่ถูกรินลงมาเป็นสายสีน้ำผึ้ง กลิ่นหอมหวานผสมความขมปร่าของแอลกอฮอล์ทำให้เธอเหมือนตกอยู่ในห้วงมึนเมาตั้งแต่ยังไม่ได้ดื่ม

“ขอบคุณค่ะ…”

เธอพูดแผ่วเบา ก่อนจะยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปากเล็ก รสขมปร่าซ่านลิ้นอย่างแผ่วเบา แต่กลับทำให้ใจเธอสั่นวาบ

เขายกแก้วขึ้นบ้าง จิบเพียงนิดเดียวแต่ยังไม่ละสายตาจากเธอ จารุวรรณมองเขากลับ ดวงตากลมโตสั่นระริกเมื่อสบกับแววตาคมลึกที่อ่านไม่ออก

“มีอะไรอยากคุยกับผมงั้นหรอ”

ฟาเอลพูดเสียงนิ่ง สายตาคมไล่มองริมฝีปากเธอแวบหนึ่ง นี่เขารู้ได้อย่างไรกันว่าเธอมีอะไรอยากคุยกับเขา หญิงสาวยกดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าเพื่อเพิ่มความกล้า เขาก็ยังนั่งมองกันเป็นระยะๆ จนตอนนี้ดูท่าคนตัวเล็กจะเริ่มตึงได้ที่แล้ว เขาจึงเอ่ยปากถาม

“อยากคุยอะไรกับผม”

เขาถามซ้ำ

“ตกลงระหว่างเรามันคืออะไรคะ?”

เธอปริปากพูดออกมาในที่สุด ดวงตาแดงก่ำเล็กน้อยเพราะแรงดื่มและแรงอารมณ์

เขาเงียบไปชั่วครู่

“แล้ว…อยากให้มันเป็นแบบไหนล่ะ”

คำถามของเขาฟังดูเหมือนไม่จริงจังมากนัก แต่ในน้ำเสียงกลับดูจริงจังจนทำให้เธอหัวใจเต้นแรงถี่ๆ

“ไม่รู้ค่ะ…”

เขานิ่ง และยกแก้วสีอำพันขึ้นมากระดกในรวดเดียว เขาเองก็ตอบตัวเองไม่ถูกเหมือนกันว่าระหว่างพวกเขาตอนนี้ มันควรจะเรียกว่าอะไร เขาควรจะดีใจ ไม่ก็เฉยๆ ไม่ใช่หรอ ได้กินทั้งเธอ ได้ทั้งเม็ดเงินมหาศาล เขาควรจะดีใจสิวะ!!

แต่แล้วเมื่อเขาหันไปมองดวงตาคู่สวยของเธออีกครั้ง หัวใจเขากลับแปลกไป…ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา เธอนั่งตัวเล็กอยู่ข้างเขา ใบหน้าขาวซีดดูอ่อนแรง ดวงตากลมโตรื้นน้ำตา สั่นไหวด้วยคำถามที่เธอเพิ่งกล้าพูดออกมา

มันไม่ใช่แค่คำถาม…แต่มันเหมือนการสารภาพทั้งหมดในใจเธอ ฟาเอลกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มือใหญ่จับขอบแก้วแน่นจนข้อมือขึ้นเป็นสีขาว เขาหลุบตาลงต่ำ สูดลมหายใจลึกๆ ก่อนว่า

“จา…”

เสียงเขาแผ่วต่ำกว่าทุกที

“คะ…”

แม้ในใจจะเต้นตึกตักและลุ้นในคำตอบไม่ต่างกัน แต่ไม่ว่าเขาจะตอบอะไร เธอก็รับมันได้อยู่ดี

“คุณแอบชอบผมตั้งแต่ตอนนั้นแล้วใช่ไหม”

น้ำเสียงนั้นทั้งอ่อนโยนและเจ็บปวดในคราวเดียวกัน แทนที่เขาจะตอบคำถาม แต่ดันเล่นถามเธอกลับ

หญิงสาวเงียบไปทันที เธอหลบตา กัดริมฝีปากตัวเองแน่น น้ำตาคลอหน่วยในดวงตาคู่สวย รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่พร้อมจะให้คำตอบ แต่เธอก็อดที่จะถามไม่ได้ อย่างน้อยก็เพื่อบอกหัวใจตัวเองว่า…เธอไม่ได้เงียบเพราะไม่กล้าพอ…

“ตอนไหนคะ..อื้ม….”

แทนที่คนตัวสูงจะรอฟังคำตอบจากเธอ เขากับจู่โจมอย่างไม่ให้โอกาสกัน ริมฝีปากหยักหนาจาบจ้วงลงมาจู่โจมอย่างเอาแต่ใจ แล้วมีหรือที่ร่างน้อยๆ จะปฏิเสธ เธอกลับเกี่ยวมือโอบรอบลำคอหนาของเขาไว้แน่น แล้วอารมณ์พลุ่งพล่านของคนทั้งคู่ก็แตกกระเจิง

เขาค่อยๆ ก้มลงจูบเธออย่างระมัดระวัง ราวกับต้องการปลอบประโลมทุกความเจ็บปวดที่เธอเก็บซ่อนไว้ จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มความเร่าร้อน แสดงออกมาให้เธอได้สัมผัสถึงไฟปรารถนาที่เขาเองก็ไม่อาจปิดบัง จูบนั้นอ่อนโยน…แต่ก็หนักแน่นและรุนแรงจนเธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกเผาผลาญ จูบนั้นเนิ่นนาน…

ในที่สุดเขาก็ผละริมฝีปากออกมา

“คุณเมาแล้ว”

เสียงเขาต่ำพร่าแต่แฝงความอ่อนโยน

จารุวรรณมองหน้าเขาอย่างสับสน ก่อนจะเห็นเขาหันหลังและเดินออกจากห้องไป ร่างสูงใหญ่หายลับไปอย่างรวดเร็ว เขารู้ดีว่าตัวเองก็กำลังเก็บกลั้นอารมณ์จนแทบคลั่ง จะให้เขาซ้ำเธอสองคืนติดได้ยังไง ในเมื่อร่างกายเธอยังไม่ฟื้นจากรอยแผลเมื่อคืน

แต่สำหรับจารุวรรณ…เธอกลับไม่คิดเช่นนั้น

ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง เธอก็สะอื้นไห้โฮด้วยความน้อยใจ คิดไปเองว่าเขาดูแคลนและไม่เห็นค่าเธอ มือเล็กคว้าขวดแก้วสีน้ำตาลเข้มที่เหลืออยู่ไปเทจนแทบจะล้นแก้ว แล้วกระดกลงคอรวดเดียวตามด้วยอีกแก้ว…แล้วอีกแก้ว…จนเมามาย

สักพัก คนที่นอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่ในห้องข้างๆ ต้องย่นคิ้ว เมื่อได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรแตก ตามมาด้วยเสียงอาเจียนแรงๆ ร่างสูงใหญ่เด้งตัวลุกนั่งแทบจะในทันที ฝีเท้าหนักๆ เดินตรงไปยังประตูห้องตรงข้ามอย่างรวดเร็ว

ก๊อก ก๊อก

เขาเคาะประตูเรียกเธอด้วยความร้อนใจ “จา… จารุวรรณ! คุณโอเคหรือเปล่า? ได้ยินผมมั้ย!”

….

เคว้ง…!!

แล้วก็ได้ยินเสียงแก้วแตกดังขึ้นมาอีกรอบ เขาขมวดคิ้วแน่น สูดหายใจแรงอย่างข่มอารมณ์ ก่อนจะใช้วิชา ‘สะเดาะกลอน’ เพื่อไขประตูเข้าไปข้างใน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel