บทที่ 3 สวนยับ
"ดี! ดีมากนะนังเจียงเฉิง ที่ผ่านมาเธอเสแสร้งมาตลอดเลยสินะ?" แม่หลินโกรธจนหน้าสั่น หายใจหอบฟืดฟาด
เจียงเฉิงสวนกลับแบบประชิดตัวทันที น้ำลายแทบกระเด็นรดหน้าแม่หลิน
"เสแสร้งเหรอ? ได้สิคะ แม่ก็ลองใช้เวลาสามปี ทำงานหัวปั่นตั้งแต่ตีสี่ถึงสี่ทุ่มไม่หยุดพัก แม่ลองมาเสแสร้งดูบ้างสิ!"
"ผลประโยชน์แม่ก็กอบโกยไปหมดแล้ว ยังจะหันกลับมาด่าฉันอีกเหรอ นี่มันกินบนเรือนขี้รดบนหลังคาชัดๆ หน้าไม่อายจริงๆ!"
"หลินเฉิงหย่วนแต่งงาน เรื่องใหญ่ขนาดนี้ พวกแม่จะไม่รู้ได้ยังไง?"
"รู้ทั้งรู้ก็ยังใช้ชื่อ 'ลูกสะใภ้' มาผูกมัดให้ฉันทำงานรับใช้บ้านหลินของพวกแม่ พวกนายทุนที่ดินหน้าเลือดสมัยก่อนยังน่าขยะแขยงสู้พวกแม่ไม่ได้เลย!"
เจียงเฉิงหยุดไปอึดใจหนึ่ง ราวกับพยายามสงบสติอารมณ์ ก่อนจะพูดต่อ "คืนเงินชดเชยมา แล้วฉันจะไปจากบ้านหลินทันที ไม่อย่างนั้นฉันจะไปแจ้งความว่าพวกแม่เป็นพวกนายทุนขูดรีด นิสัยเยี่ยงโจร!"
พอสิ้นคำพูดนี้ สีหน้าของคนบ้านหลินก็เปลี่ยนไปทันที ใจกระตุกวูบ แค่โดนไดอารี่ปลอมๆ ของเจียงเฉิงตบหน้า พวกเขาก็ตั้งตัวไม่ติดอยู่แล้ว แต่การต้องคืนเงิน... มันเจ็บปวดยิ่งกว่าการถูกเฉือนเนื้อเสียอีก
เจียงเฉิงเห็นคนบ้านหลินนิ่งเงียบ ก็หันไปมองเหอตานทันที
"นี่น้องสาว บ้านหลินเขาคงเสียดายฉันน่ะ ไม่นึกเลยว่าอยู่ในสังคมใหม่แล้ว ฉันยังจะได้เห็นคน 'รับเมียน้อย' เข้าบ้านอีก"
เจียงเฉิงเน้นเสียงคำว่า 'รับเมียน้อย' หนักเป็นพิเศษ
สีหน้าของเหอตาน เปลี่ยนไปทันที เธอผลักหลินเฉิงหย่วนแรงๆ ทีหนึ่ง
ขมับของหลินเฉิงหย่วนเต้นตุบๆ
"เจียงเฉิง คุณอย่าพูดจาเหลวไหลนะ! ผมกับเหอตาน เราเป็นสหาย¹ ร่วมปฏิวัติที่มีเป้าหมายเดียวกันต่างหาก"
เจียงเฉิง 'เหอะ' ออกมาอย่างเย็นชา พลางแบมือออก
"งั้นก็อย่าดีแต่ปาก ทำตัวเป็นผู้ดีจอมปลอม แต่การกระทำต่ำทราม คืนเงินมา!"
หลินเฉิงหย่วนรู้ดีว่าเรื่องนี้สำคัญแค่ไหน งานใหม่หลังจากปลดประจำการของเขายังไม่เรียบร้อยเลย แต่เจียงเฉิงงั้นเหรอ? ดี... ดีมาก... ต้องทำให้มันอับอายขายขี้หน้ากันขนาดนี้เลยใช่ไหม ในเมื่อชอบเขามากขนาดนั้น ทำไมถึงไม่คิดถึงหน้าเขาบ้าง
หลินเฉิงหย่วนจ้องเจียงเฉิงเขม็ง แววตานั้นทำเอาเจียงเฉิงขนลุกซู่ (อาการหนักนะนายน่ะ พวกหลงตัวเองขั้นสุดนี่มันกู่ไม่กลับจริงๆ)
หลินเฉิงหย่วนละสายตา หันไปมองพ่อกับแม่ "แม่ครับ พ่อครับ คืนเงินให้เธอไป!"
แม่หลินกับพ่อหลินรู้ดีว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงก็ต้องควักเงินออกมา
แต่... "อาหย่วน ลูกมานี่หน่อย"
หลินเฉิงหย่วนเดินเข้าไปอย่างงงๆ ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกซุบซิบกระซิบกระซาบกันอยู่ครู่หนึ่ง
"พวกคุณ!"
หลินเฉิงหย่วนเองก็รักหน้าตาเหมือนกัน เขาโกรธจนหน้าแดงก่ำ เดินกระทืบเท้ากลับมา แล้วดึงเหอตานออกไปซุบซิบกันอีกรอบ
เหอตานที่เมื่อกี๊ยังทำท่าสูงส่งอยู่ ในที่สุดก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป แถมยังถลึงตาใส่เจียงเฉิงอย่างแรง
เจียงเฉิง: (ผัวเมียคู่นี้ มันช่างเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก! ล็อกไว้เลย! ล็อกไว้แน่นๆ เลยนะ! ไม่ต้องแยกจากกันไปไหนหรอก)
เหอตาน โดนหลินเฉิงหย่วนทั้งดึงทั้งปลอบ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอจะทำอะไรได้? โชคดีที่หลินเฉิงหย่วนยังมีหน้าที่การงานดี สุดท้ายเธอก็เลยพยักหน้า
พอทั้งคู่เดินกลับมา หลินเฉิงหย่วนก็ล้วงซองกระดาษสีน้ำตาลซองหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเดินทางของเหอตาน
"หกร้อยหยวน คุณนับให้ดี"
"เจียงเฉิง คุณคิดให้ดีนะ ถ้ารับเงินนี้ไป คุณกับบ้านหลินก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"
เจียงเฉิงไม่แม้แต่จะชายตามองหลินเฉิงหย่วน เธอเลิกเสแสร้ง ทำเสียง 'เหอะ' ในลำคอ "พูดมากอยู่ได้!"
หลินเฉิงหย่วนกำหมัดแน่น แค่นเสียงเย็นชา ดีมากเจียงเฉิง ต่อไปนี้ต่อให้เธอคุกเข่าอ้อนวอนอยู่ข้างๆ เขา เขาก็จะไม่ชายตามองเธอเลยแม้แต่นิดเดียว!
เจียงเฉิงยังไม่รับเงิน แต่เดินตรงไปหาลุงซุน ผู้ดูแลลานบ้านรวม
"ลุงซุนคะ รบกวนลุงช่วยเป็นพยาน ช่วยนับเงิน แล้วก็ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรให้หน่อยได้ไหมคะ?"
ลุงซุนเป็นคนฉลาด ลึกๆ แล้วเขาก็ดูถูกการกระทำของบ้านหลินอยู่แล้ว อีกทั้งเขายังเป็นผู้ดูแลลานบ้านรวมแห่งนี้ด้วย จึงรับปากเป็นอย่างดี
ตามคำขอของเจียงเฉิง ทุกอย่างถูกเขียนลงไปชัดเจนถึงที่มาที่ไป มีการนับเงินกันต่อหน้า ทั้งสองฝ่ายลงชื่อและประทับลายนิ้วมือ
เจียงเฉิงเก็บสัญญาไว้อย่างดี
เจ้าของร่างเดิมกับหลินเฉิงหย่วนไม่ได้จัดงานแต่ง ไม่ได้จดทะเบียน ทะเบียนบ้านของเธอก็เลยย้ายเข้ามาในเมืองไม่ได้ เธออาศัยอยู่ที่บ้านหลินในฐานะ 'ญาติ' มาโดยตลอด ทะเบียนบ้านและสิทธิ์ปันส่วนอาหารของเธอจึงยังคงอยู่ที่หมู่บ้าน
ตอนที่บ้านหลินไปสู่ขอ ญาติๆ ของตระกูลเจียงที่บ้านเดิมก็กำลังบีบบังคับให้เจ้าของร่างเดิมเอาเงินชดเชยออกมา นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เจ้าของร่างเดิมไว้เนื้อเชื่อใจบ้านหลินอย่างสุดหัวใจ
"ดูท่า... บางคนคงจะต้องไปนอนข้างถนนแล้วล่ะ!" หลินเจียวเจียวพูดด้วยสีหน้าเหยียดหยามร้ายกาจเกินวัย พลางควงแขนเหอตานอย่างสนิทสนม
"พี่เหอตานคะ พี่สวยจังเลย สวยกว่าเจียงเฉิงตั้งเยอะ พี่ชายฉันโชคดีจริงๆ ไม่เหมือนเจียงเฉิง วันๆ เอาแต่ทำหน้าซึมกะทือ น่ารำคาญจะตาย!"
เหอตาน ยิ้มอ่อนโยน พลางลูบมือหลินเจียวเจียว "เจียวเจียวก็สวยจ้ะ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องไปพูดถึงเขาหรอก เขาไม่ใช่คนสำคัญอะไร"
"ค่ะๆๆ! พี่สะใภ้พูดถูก!"
ทั้งคู่ประสานเสียงกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ตั้งใจจะพูดให้เจียงเฉิงช้ำใจ
เจียงเฉิงคือใคร? เธอคือมือหนึ่งเรื่องการโต้เถียงแห่งบ้านเด็กกำพร้า ที่ไม่เคยแพ้ใครหน้าไหน! อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอยังเคยสงสัยหลายครั้งเลยว่า ที่เธอเรียนถึง 5 ภาษาน่ะ ก็เพื่อจะไปตระเวนด่าคนต่างประเทศโดยเฉพาะใช่ไหม! แค่ในประเทศมันไม่พอให้เธอระบาย!
เจียงเฉิงยืดหลังตรง ไพล่มือไว้ด้านหลัง สายตาจดจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเจียวเจียว จนอีกฝ่ายต้องขมวดคิ้ว
"หลินเจียวเจียว เธอก็มีหน้าอยู่แค่นี้หัดอายซะบ้างสิ! อายุก็ยังน้อย แต่ปากคอเราะร้ายถอดแบบมาจากย่าเธอเป๊ะๆ ใครได้เธอไปเป็นเมีย ก็ไม่ต่างอะไรกับได้เมียแก่คราวแม่หรอก"
"แล้วก็... สหายคนนี้ที่ชอบเก็บผู้ชายเหลือเดนของคนอื่นมากิน กรุณามองให้ต่ำลงสักหน่อยสิคะ คุณยืนอยู่บนแผ่นดินเดียวกับฉันแท้ๆ จะทำเป็นสูงส่งให้ใครดู? หรือว่า... สหายดูถูกชนชั้นชาวนาอย่างฉัน?"
เหอตานถึงกับจุกพูดไม่ออก ใครจะกล้าตอบว่าดูถูกชนชั้นชาวนากันเล่า?
พอเจียงเฉิงปล่อยของออกมาเต็มที่ บรรดาคนมุงต่างก็ตาโตเป็นไข่ห่าน นี่มันใช่ยัยเจียงเฉิงคนที่ 'ไม้สิบอันทุบยังไม่ร้องสักแอะ'² คนนั้นแน่เหรอ? ฝีปากแบบนี้ รู้สึกว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรสักอย่างคงเสียของแย่
แต่ก็นะ... สมน้ำหน้าบ้านหลิน
หลินเจียวเจียวอ้าปากจะเถียง แต่ก็ถูกหลินเฉิงหย่วนที่หน้าเขียวปั้ดตะคอกตัดบท "พอได้แล้ว!"
"เจียงเฉิง คุณได้เงินแล้วก็ไปซะ"
เจียงเฉิงเคาะปลายเท้ากับพื้น พูดจาแดกดัน
"พื้นที่ส่วนรวมของลานบ้านรวมนี่ ตกเป็นของบ้านหลินตั้งแต่เมื่อไหร่กันเหรอ?"
หลินเฉิงหย่วนจ้องเจียงเฉิงเขม็ง กัดฟันกรอด "พวกเรา เข้าบ้าน!"
คนบ้านหลินหน้าเสียกันหมด หันหลังกลับเข้าห้องปีกตะวันตก³ ทั้งสามห้องของพวกเขาไป
แม่หลินกับย่าหลินก็โกรธเหมือนกัน แต่ทั้งคู่ยังแอบมีความหวังลมๆ แล้งๆ พวกเธอคิดพร้อมกันว่า วันนี้หลินเฉิงหย่วนกลับมากะทันหัน เรื่องมันเลยแรงไปหน่อย เดี๋ยอีกสักสองสามวัน ค่อยไปกล่อมเจียงเฉิงกลับมาก็คงได้ ในความคิดของพวกเธอ ที่เจียงเฉิงพูดจาตัดรอนขนาดนี้ ก็เพราะกำลังน้อยใจหลินเฉิงหย่วน ถ้าไม่รัก แล้วจะแค้นได้ยังไง
"เฉิงเฉิงเอ๊ย ยังไงเราก็ครอบครัวเดียวกันนะ อย่าทำตัวห่างเหินไปเลย"
ย่าหลินแกล้งปาดน้ำตา พูดดักคอไว้
เจียงเฉิงเบ้ปาก (แก่จนป่านนี้ยังจะโลกสวยอยู่อีก)
"คนที่นอนในหลุมเดียวกันนั่นแหละค่ะถึงจะเรียกว่าครอบครัวเดียวกัน คุณย่าอย่าหลงไปผิดทางเข้านะคะ เรื่องแบบนี้ถ้าหลงแล้ว ไม่มีโอกาสได้กลับออกมาหาทางใหม่นะ"
สีหน้าของย่าหลินเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ถึงขีดสุด ยิ่งคนแกยิ่งถือสาเรื่องพวกนี้
"ดี! ดีมาก! ย่าจะคอยดู ว่าเธอจะใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวได้ยังไง!"
เจียงเฉิงยังคงยืนตัวตรง พูดเนิบๆ "สงสัยจะลำบากหน่อยนะคะ พอดีฉันยังเด็ก คุณย่าอาจจะอยู่ไม่ถึงวันนั้นก็ได้"
"เจียงเฉิง คุณอย่าทำตัวให้มันมากนักนะ!" หลินเฉิงหย่วนจ้องเขม็งอย่างโกรธจัด เจียงเฉิงทำให้เขาผิดหวังอย่างรุนแรง! โชคดีเหลือเกินที่เขาแต่งกับตานตาน เจียงเฉิงแบบนี้มันช่างไร้ค่าน่ารังเกียจสิ้นดี
เจียงเฉิงทำหน้าถ่อมตัว ยิ้มหวานหยด "การจัดการกับคนเลว ต่อให้ต้องทำเรื่องที่ดู 'มากเกินไป' มันก็ถือเป็นการทำบุญทั้งนั้นแหละค่ะ นี่ฉันก็แค่... โชว์ฝีมือไปแบบเบาๆ เองนะคะ"
"อะไรคะ? จะตบเหรอ?"
เจียงเฉิงใช้มือตบหน้าผากตัวเองเบาๆ ท่าทางยั่วยุเต็มพิกัด
"มาเลย! มาเลย! ตบตรงนี้เลย คุณตบปุ๊บ ฉันล้มปั๊บ ถ้าไม่ได้สักแปดร้อยถึงหนึ่งพันหยวน อย่าหวังว่าเรื่องนี้จะจบง่ายๆ!"
"ไม่รู้ว่าในซองของเมียคุณน่ะ จะยังเหลือพอให้ขูดรีดอีกหรือเปล่า"
หลินเฉิงหย่วนกับเหอตานหน้าเสียไปพร้อมกัน
พ่อหลินดึงแขนหลินเฉิงหย่วนไว้ จ้องเจียงเฉิงเขม็ง "พวกเราดูถูกเธอเกินไปจริงๆ"
"ไม่ค่ะ! ที่ถูกต้องคือ 'พวกคุณมันตาต่ำ' ต่างหาก"
คนบ้านหลินโกรธจนตาแทบถลน แต่เจียงเฉิงพ่นไฟออกมาแต่ละที ไม่มีคำหยาบเลยสักคำ (แต่ทำไมชาวบ้านฟังแล้วมันสะใจอย่างนี้นะ?) พวกวัยรุ่นหลายคนแถวนั้นถึงกับอยากควักสมุดปากกาออกมาจด ไม่เคยตั้งใจเรียนขนาดนี้มาก่อน
"ปัง!"
เสียงประตูปิดดังลั่น คนบ้านหลินทนไม่ไหว ปิดประตูหนีไปแล้ว
เจียงเฉิงยักไหล่ (แค่นี้เองเหรอ? เจ๊เพิ่งจะวอร์มเครื่องเองนะ)
ชาวบ้านในลานกว้างเห็นตัวเอกที่โดนด่าหนีเข้าบ้านไปแล้ว ก็เลยแกล้งพูดปลอบใจเจียงเฉิงสองสามคำ ก่อนจะแยกย้ายกันไป
แต่หัวข้อสนทนาค่ำคืนนี้ มีเรื่องให้เมาท์กันเหลือเฟือเลย!
ในกลุ่มชาวบ้าน มีผู้หญิงท้องโตคนหนึ่งที่ไว้ผมทรง 'หลิวหูลาน'⁴ แอบส่งสายตาให้เจียงเฉิง เจียงเฉิงก็พยักหน้ารับเบาๆ แล้วเดินตามผู้หญิงท้องโตคนนั้นไป
ทั้งสองเดินตามกันห่างๆ ออกไปจากลานบ้านรวม
(จบตอน)
เชิงอรรถจากผู้แปล:
² ไม้สิบอันทุบยังไม่ร้องสักแอะ: ดัดแปลงจากสำนวนจีน "十棍子打不出一个屁" (ไม้สิบอันทุบยังไม่ผายลมออกมา) หมายถึง คนที่เงียบมากๆ หรือขี้อายสุดๆ
³ ห้องปีกตะวันตก : ในสถาปัตยกรรมบ้านลานกว้างแบบจีน (ซื่อเหอย่วน) ห้องปีกตะวันตกมักเป็นที่อยู่ของลูกๆ หรือสมาชิกครอบครัวที่มีความอาวุโสน้อยกว่า
⁴ ผมทรงหลิวหูลาน (刘胡兰发型): ทรงผมบ๊อบสั้นระดับคาง คล้ายทรงนักเรียนหญิง เป็นทรงผมที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น โดยตั้งชื่อตามวีรสตรีนักปฏิวัติ 'หลิวหูลาน'
