ภรรยาท่านรอง 3 ใจกล้าดี
เช้าวันต่อมา
“ค่ะ”
(ผมอยู่หน้าบ้านคุณ)
“ค่ะ ท่านรองจอดรถข้างบ้านเลย เดี๋ยววาไปรับหน้าบ้าน” ส่องกระจกเช็กการแต่งตัวว่าเรียบร้อยหรือยัง สวยไหมก็สวยนะ ใครบ้างมองตัวเองไม่สวย
เดินออกมาจากในห้องเห็นลูกชายนั่งกินข้าวก่อนไปเรียน หน้าที่ไปส่งลูกชายคือเธอ ส่วนไปรับบางทีก็พ่อหรือแม่ไปให้
“แม่วา” สิบทิศโบกมือให้ วิวาห์จึงโบกมือกลับไปให้ลูก
“เดี๋ยวแม่มานะคะ” ส่งยิ้มหวานไปหนึ่งทีแล้วรีบเดินออกมารับท่านรองที่หน้าบ้าน ปล่อยให้รอนาน ๆ คนที่ซวยก็เธอนี่ไง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” ปั้นหน้ายิ้มให้กับความนิ่งเรียบและสายตาเย็นชาของท่านรอง
วาไม่ชินกับความเย็นเป็นน้ำแข็งของท่านรองจริง ๆ ค่ะ ท่านรองประธานยืนพิงรถในชุดทำงานที่ดูปกติ ทว่าวันนี้เสน่ห์ท่านเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ดูเท่มาก เท่จริง ๆ
“อืม”
“อุ้ย!” ถึงกับชะงัก ใจหล่นวูบเมื่อมือใหญ่ของท่านรองวางที่หัวแล้วลูบเบา ๆ ใบหน้าท่านรองเผยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่วาเพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรก ครั้งแรกจริง ๆ ตั้งแต่ทำงานร่วมกันมา
ท่านรองโน้มใบหน้าลงมาเสมอใบหน้าวาแล้วพูดเสียงแผ่วเบา “แม่คุณเดินออกมามอง”
“…” อ่อ เพราะแม่คอยจับพิรุธทำให้วาได้เห็นรอยยิ้มของท่านรอง แบบนี้เรียกเป็นบุญได้ไหม รอยยิ้มของท่านรองดูอบอุ่นดีจัง
“วาบอกแม่ว่าเราแอบคบกันหกเดือนแล้วค่ะ ขอโทษนะคะท่านรองที่วาไม่ได้ปรึกษาคุณก่อน คือมันปุบปับมากเลยค่ะ แม่จะให้วาไปดูตัวอีกแล้ว วาไม่อยากไปจึงเผลอหลุดปากไป”
“เอาไว้ค่อยคุยที่บริษัท”
“แต่วาต้องไปส่งน้องสิบด้วยนะคะ”
“อืม ผมไปได้” ท่านรองคว้ามือเล็กมาจับเดินเข้ามาในบ้าน การถึงเนื้อถึงตัวแบบไม่ทันตั้งตัวทำเอาใจเล็ก ๆ เต้นโครมคราม
ทิพวรรณรีบเดินมายังโต๊ะทานข้าวก่อนที่ลูกสาวและแฟนลูกจะเข้ามา บ้านไม่ได้ใหญ่โตมากนัก เป็นบ้านปูนชั้นเดียว วิวาห์เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว สากลพ่อของวิวาห์เป็นข้าราชการกรมป่าไม้ปลดเกษียณกินเงินบำนาญ ทิพวรรณเป็นแม่บ้านมาแต่ดั้งแต่เดิม รอบบ้านมีเนื้อที่พอปลูกผักทำสวน แก้เหงาแก้เบื่อตามประสาเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ที่เกษียณอายุ ครอบครัวของวิวาห์ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่ร้อนใจที่ลูกสาวครองตัวโสด มีลูกติดอีกหนึ่งด้วย
“ใครคับแม่วา” เด็กชายสิบทิศวางช้อนหันมามองแม่วาด้วยความอยากรู้ แม่วาไม่เคยพาใครเข้าบ้าน ผู้ชายตัวสูงคนนี้ใครกัน แต่ไม่ใช่พ่อของสิบแน่ ๆ เพราะสิบเคยเห็นพ่อ
“คุณลุงค่ะ”
“วา” คนถูกเรียกลุงถึงกับเรียกสติเลขา อีกแล้ว ลุงอีกแล้ว ลืมเรื่องอายุไปเขาก็ยังหล่อไหม จำเป็นต้องเรียกลุงเหรอ
“น้องสิบจะได้จดจำค่ะ” ดวงหน้าหวานเงยหน้าขึ้นมายิ้มแหย กลัว กลัวท่านรองจะคิดบัญชีทีหลังที่สุด
“ทานข้าวเช้าจ้ะ” ทิพวรรณถือถ้วยข้าวต้มเดินออกมาจากในครัว
“ครับ” ตั้งแต่เริ่มกลับมาทำงานชอปเปอร์ไม่ชอบทานข้าวเช้า แค่กาแฟดำก็พอ ทว่าวันนี้คงปฏิเสธน้ำใจคนที่จะมาเป็นแม่ยายไม่ได้
“ลุงคะนี่แม่ของหนูค่ะ ส่วนพ่อรดน้ำผักอยู่ในสวน แม่คะนี่แฟนหนู”
“สวัสดีครับ” เขายกมือขึ้นไหว้อย่างเป็นทางการ
“จ้า นั่ง ๆ ทานข้าวเดี๋ยวไม่ทัน ข้าวต้มธรรมดาทานได้ใช่มั้ย”
“ได้ครับ” เขาก็ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากที่ไหนทำไมจะกินไม่ได้ แค่ไม่อยากตักเข้าปากเพราะไม่หิวก็เท่านั้น
แต่แล้วก็ต้องฝืนกินให้หมดถ้วยด้วยต้องรักษามารยาท
“เย็นนี้แม่จะทำกับข้าวไว้รอ คุณทานได้ทุกอย่างมั้ยคะท่านรองประธาน” ทิพวรรณถามขณะที่น้องสิบทิศเข้ามานั่งในรถคันหรูของท่านรอง
“ผมทานอะไรก็ได้ทั้งนั้นครับ”
“จ้ะ เย็นนี้เจอกัน”
“ครับ”
“เดินทางปลอดภัยนะ”
รถขับออกจากหน้าบ้าน ริมฝีปากทิพวรรณบิดยิ้ม แม่จะจับพิรุธให้ได้ ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าจะเป็นแฟนกัน เมื่อสามเดือนก่อนลูกสาวยังมานอนโอดครวญเรื่องเจ้านายอยู่เลย ทิพวรรณถึงได้จัดแจงหาคู่ให้ลูก ลูกจะได้เลิกทำงานเลขา ทว่าลูกสาวคงลืมว่าเคยบ่นกับแม่เมื่อไม่นานมานี้ ถึงได้โกหกว่ามีแฟนหกเดือนแล้ว
@บนรถ
“คุณลุงคับ” นั่งเงียบอยู่นานพอควรสิบทิศก็เริ่มใจกล้าถามสิ่งสงสัย
“ครับ”
“คุณลุงเป็นแม่วาแฟนเหรอคับ”
“แฟนแปลว่าอะไรครับ” ชอปเปอร์มองกระจกหลังเห็นเจ้าหนูน้อยนั่งมองเขาอยู่ เด็กน้อยอยากรู้อยากเห็นเป็นเรื่องปกติ เขาที่คลุกคลีกับลูกของคนรักเก่าเข้าใจเด็กดีทุกอย่าง
“แฟนก็แบบตายายไงคับ”
“น้องสิบรู้จักคำนี้ได้ยังไงคะลูก”
“เพื่อนพูดกันคับ แม่วาคับ คุณลุงจะเป็นพ่อใหม่ให้สิบใช่มั้ยคับ”
“เอ่อ…” ควรจะตอบลูกว่ายังไงดีนะ
“ใช่ครับ ลุงจะเป็นพ่อให้สิบทิศ”
“เป็นพ่อไม่ได้คับ สิบมีพ่อแล้ว เพื่อนบอกมีพ่อคนเดียวก็พอ” น้องสิบทิศพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เจ้าหนูตัวป้อมนั่งกอดอกขมวดคิ้วใส่เขา
“งั้นเป็นลุงก็ได้ครับ”
“คับ เป็นลุงนะคับ”
“น้องสิบทิศห้ามทำตัวไม่น่ารักกับคุณลุงนะคะ จำไม่ได้เหรอแม่บอกว่าต้องน่ารักกับทุกคน ขอโทษคุณลุงเดี๋ยวนี้ค่ะ” เลขาสาวส่งเสียงเอ็ดลูก
“ขอ…”
“อย่าดุแกเลย แกแค่ยังไม่คุ้นเคย เด็กก็เป็นแบบนี้”
“ยิ่งคนแปลกหน้ายิ่งต้องมีมารยาทค่ะท่านรอง” แล้วเธอก็เผลอขึ้นเสียงใส่เจ้านายไปหนึ่งที
“คุณดุผม?”
“วาลืมตัวค่ะ” ยิ้มเจื่อนให้ท่านรองไปอีกหนึ่งที ใบหน้านิ่งขรึมของท่านรองประธานทำให้วิวาห์ใจหวิว ไม่น่าลืมตัวเลย คดีเก่ายังไม่เคลียร์ก็เหมือนจะสร้างคดีใหม่แล้ว
“ใจกล้าดี”
“ท่านรองคะคือวา…”
“ผมบอกแล้วว่าเดี๋ยวค่อยคุย”
“ค่ะ” หน้านิ่งอีกแล้ว วาจะไม่หาเรื่องใส่ตัวเพิ่มค่ะ
ผ่านไปสิบห้านาทีรถจอดที่โรงเรียนของน้องสิบทิศ เจ้าหนูเตรียมกระเป๋าสะพายไว้ที่หลังเรียบร้อย ก่อนลงจากรถก็ยกมือไหว้พร้อมเอ่ย “ขอบคุณคับคุณลุง”
วิวาห์ที่เปิดประตูรถให้ลูกชายก็ยิ้มกริ่ม “เก่งมากครับสิบทิศ ไปลามาไหว้เก่งที่สุด ใครเห็นก็จะได้รักและเอ็นดูหนู”
“ขอบคุณคับแม่วา ต่อไปสิบจะทำตัวให้น่ารักนะคับ” ได้คำชมจากแม่ทำให้สิบทิศยิ้มกว้าง
“ครับผม เก่งที่สุดเลยลูกชายของแม่” นั่งลงหอมแก้มน้อย ๆ แล้วจูงมือลูกชายไปเข้าโรงเรียนไป ทุกอย่างอยู่ในสายตาของท่านรองประธานที่มองด้วยสายตาไร้ความรู้สึก
ครืด ครืด
“ว่าไงนุ่ม”
(เย็นนี้แม่อยากเจอพี่ชอปนะจ๊ะ พี่ชอปงานยุ่งมั้ย ถ้ายุ่งนุ่มจะบอกแม่ว่าพี่ยังไม่สะดวก)
“พี่ไปได้ พี่มีเรื่องอยากคุยกับนุ่มเหมือนกัน นุ่มอยู่รอพี่ได้มั้ย”
(ได้จ้ะ เดี๋ยวนุ่มรอนะ)
“ครับ ฝากแม่พี่ด้วยนะ”
(ด้วยความยินดีเลยจ้า กินข้าวด้วยนะ)
“ครับ ขอบคุณนะ”
เลขาสาวกลับมาทันได้เห็นใบหน้าของท่านรองที่กำลังยิ้มให้กับหน้าจอสมาร์ตโฟน รอยยิ้มที่ดูอบอุ่นมาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากคนที่มีสีหน้าเฉยชาตลอดเวลา
