นางร้าย : 3
“คุณหนูใหญ่รั่ว คุณหนูรีบตื่นมากินอาหารก่อนขอรับ”
เสียงทหารประจำการในคุกหลวงที่ถูกรั่วฮูหยินไหว้วานให้นำสำรับอาหารมาให้บุตรสาวรีบเรียกคนขี้เซาอีกครั้ง
“น่ารำคาญจริง ยัยฉิงฉิง! ฉันบอกให้เบาเสียง…หน่อย”
อิงอิงทนเสียงปลุกนั้นไม่ไหวจึงลุกเตรียมด่าเพื่อนรักอีกครั้ง หากแต่เพียงเธอลืมตาตื่นเต็มดวง สิ่งที่เห็นกลับเป็นเพียงสถานที่อึมครึม มีแสงสลัว ๆ แถมล้อมรอบไปด้วยหินทึบหนาที่ฉาบกั้นเอาไว้ทางด้านหลัง
“คุณหนูใหญ่ตื่นแล้วรีบทานของพวกนี้เถิดขอรับ ข้าน้อยได้รับคำสั่งจากรั่วฮูหยินให้แอบเอาของพวกนี้มาให้คุณหนู”
อิงอิงจ้องมองหน้านายทหารที่พูดกับตนสลับมองอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้าด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น
“คุณหนูใหญ่ รั่วฮูหยิน แล้วก็…คุก?”
อิงอิงเริ่มตั้งสติกวาดมองรายละเอียดสถานที่ที่ตนอยู่
‘ไม่จริง ฉันอยู่ในนี้ได้ยังไง ฝันเหรอ’
“โอ้ย! เจ็บ ๆ”
“คุณหนูทำร้ายตัวเองทำไมขอรับ”
อิงอิงคิดว่าตอนนี้ตัวเองกำลังฝันอยู่จึงหยิกแขนเพื่อทดสอบ หากแต่เธอกลับรับรู้ถึงความเจ็บแปลบตรงที่หยิกจนนายทหารตกใจรีบเอ่ยถามพลางห้ามปราม
“ไม่ได้ฝัน”
อิงอิงพึมพำเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าสบมองนายทหารตรงหน้าและเอ่ยถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“ข้าคือรั่วอิงเหยา เพิ่งถูกองค์ชายใหญ่สั่งขังคุกใช่ไหม?” อิงอิงชี้นิ้วเข้าหาตนเองสำทับคำพูด
นายทหารตรงหน้ามองกลับด้วยความใคร่สงสัยอากัปกริยาของนางก่อนจะตอบ
“ขอรับ เพราะคุณหนูใหญ่เพิ่งวางยาว่าที่พระชายาขององค์ชายใหญ่ไป”
ตุบ!
อิงอิงถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวนั่งลงกับพื้นแข็งกระด้าง
“คุณหนูใหญ่!”
นายทหารตรงหน้าตกใจรีบปรี่เข้าไปช่วยพยุงเธอขึ้นนั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวยาว
“นี่เรื่องบ้าอะไร ทำไมฉันถึงเข้ามาอยู่ในนิยายของตัวเอง แถมยังมาอยู่ในร่างนางร้ายที่กำลังจะตายแบบนี้!”
“คุณหนูใหญ่พูดอะไรหรือขอรับ”
อิงอิงไม่ตอบ นางเงยหน้ามองนายทหารข้าง ๆ ด้วยแวตาหดหู่และน่าเวทนา
“ตอนนี้ยามใดแล้ว”
เธอจำได้ว่าตัวละครนี้จะถูกประหารยามห้าย
“ตอนนี้เป็นปลายยามชวีขอรับ”
ปลายยามชวี แปลว่าเหลือเวลาไม่มากแล้วที่เธอจะถูกตู้ชิงหลางลอบสังหาร
อิงอิงนั่งนิ่ง เธอกำลังตั้งสติเพื่อหาทางออก เพราะหากตัวละครที่เธอสวมอยู่ดำเนินไปตามที่เธอเขียน ไม่รู้ว่าวิญญาณเธอจะแตกดับไปพร้อมร่างกายนี้หรือไม่
“เจ้าช่วยข้าเรื่องหนึ่งได้หรือไม่”
อิงอิงสวมเป็นรั่วอิงเหยาได้อย่างแนบเนียน
“คุณหนูใหญ่จะให้ข้าน้อยทำอะไรขอรับ”
อิงอิงนิ่งไปชั่วขณะ นางไตร่ตรองความคิดอีกครั้งก่อนจะเอ่ย
“ข้าต้องการพบหลัวซื่อจื่อ”
“คุณหนูหมายถึงหลัวซื่อจื่อ หลัวฉางเฟิง หรือขอรับ”
อิงอิงนึกขึ้นมาได้ว่าตอนนั้นเธอเขียนตัวละครซื่อจื่อผู้นี้อยู่อีกเมืองซึ่งไม่มีทางมาทันตามที่นางต้องการ
“ไม่ ๆ เจ้ารีบไปทูลองค์ชายใหญ่ มีเพียงข้าที่สามารถช่วยว่าที่พระชายาให้รอดได้”
“เข้าเฝ้าองค์ชายใหญ่มิใช่เรื่องง่ายนะขอรับ”
คนผู้นี้เป็นเพียงนายทหารประจำคุกหลวงขั้นต่ำ ไม่สามารถเข้าเฝ้าเชื้อกษัตริย์ได้ตามใจชอบ
“ท่านราชครู… ท่านพ่อข้า เจ้ารีบนำเรื่องนี้ไปแจ้งแก่ท่านพ่อข้า”
“ขอรับ”
นายทหารผู้นั้นรีบรับคำสั่ง เร่งออกจากคุกไปทันที
“แกต้องรอดสิยัยอิงอิง แกต้องกลับไปที่ที่แกจากมาให้ได้”
เมื่ออยู่ลำพัง นักเขียนมือทองอย่างอิงอิงก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองพลางนึกถึงคำทำนายจากอีเมลปริศนา
‘ฉันดวงกุดเพราะตกจากระเบียงที่อยู่ชั้นสิบ และจากมาในที่ไกลแสนไกลคือโลกนิยาย เพื่อเป็นนางร้ายจากหมึกปากกาของตัวเองเนี่ยนะ’
=========
ตอนที่ 2 : รั่วอิงเหยาคนใหม่
ตำหนักอี้คุน
อิงอิงถูกองครักษ์ตู้ชิงหลางนำตัวมาเข้าเฝ้าองค์ชายใหญ่หลัวอี้เฟิง
ครั้งที่นางเห็นตู้ชิงหลางเข้าไปหาที่คุกหลวงถึงกับปากคอสั่นด้วยกลัวว่าจะถูกดำเนินไปตามเนื้อเรื่องในนิยายที่ตัวเองแต่ง แต่โชคดีนายทหารผู้นั้นทำตามคำสั่งเธอสำเร็จ หลังจากนำความของรั่วอิงเหยาไปแจ้งแก่ 'ราชครูรั่วหนานเฉิน' เขาจึงเร่งเข้าเฝ้าองค์ชายใหญ่เพื่อทูลขอให้นำตัวบุตรีใหญ่ของตนออกจากคุกเพื่อมาช่วยบุตรีรองอย่างรั่วเชียนชิง
ครานั้นอิงอิงเริ่มรู้สึกผิดที่แต่งให้รั่วอิงเหยาเป็นที่ชังของบิดาอย่างราชครู ก่อนออกมาจากคุกจึงได้สาบานกับตนเองไว้ว่า นางจะกลายเป็นรั่วอิงเหยาคนใหม่เพื่อเอาตัวรอดจากนิยายของตนเองและกลับสู่โลกที่เธออยู่
“ถวายบังคมองค์ชายใหญ่”
รั่วอิงเหยาย่อคำนับองค์ชายใหญ่หลัวอี้เฟิงอย่างมารยาทงาม บนใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวใหม่ที่เพิ่งแต่งขึ้นในหัว
