บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 [1/2]

แสงแดดยามบ่ายส่องลอดผ่านกระจกสีขาวนวลเข้ามาในโถงกว้างของคฤหาสน์ เสียงลมพัดอ่อน ๆ ทำให้ผ้าม่านปลิวไหวเบา ๆ ทว่าความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์กลับไม่สามารถละลายความอึมครึมในบ้านหลังนี้ได้แม้แต่น้อย

เซเรน่ายืนอยู่ริมหน้าต่าง มองสวนกว้างด้านนอกที่ดูงดงามราวภาพวาด แต่ภายในใจกลับรู้สึกอึดอัดอย่างประหลาด เหมือนคนที่ยืนอยู่ในกรงทองที่แสนสวยงามแต่ไร้อิสระ เพราะเธอไม่รู้จักใครในโลกนี้ในฐานะวิเวียนเลย

เมื่อเซเรน่าหันมองรอบตัวอีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านหลังนี้เรียบร้อยจนเกินไป พื้นหินอ่อนขาวสะอาดไร้คราบฝุ่น เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นถูกจัดวางอย่างสมบูรณ์แบบ ราวกับฉากละครที่ถูกสร้างขึ้น

“เธอมีความสุขกับการอยู่แบบนี้จริง ๆ เหรอเซเรน่า”

เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ พลางยกมือแตะกรอบรูปบนโต๊ะข้างฝา เป็นภาพของหญิงสาวในชุดเจ้าสาวยิ้มหวานข้างชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเย็นชา ราวกับไม่เต็มใจในการแต่งงานครั้งนั้น ภาพนั้นดูเหมือนสวยงามในสายตาคนนอก แต่ในความจริงกลับเป็นเพียง ภาพลวงของชีวิตคู่ที่ไร้ความรัก

“ทำไมฉันต้องมาติดอยู่ในนิยายบ้า ๆ นี่ด้วย”

หญิงสาวถอนหายใจแผ่ว ก่อนจะเดินออกจากห้องนั่งเล่น กะว่าจะเดินสำรวจรอบ ๆ คฤหาสน์นี้ให้มากขึ้น เธออยากรู้ว่าชีวิตของเซเรน่าก่อนที่เธอจะเข้ามาแทนนั้นเป็นอย่างไร

ในขณะเดียวกันทางเดินยาวทอดไปจนสุดปลายโถง เสียงพูดคุยแผ่ว ๆ ลอยมาเข้าหู ทำให้เซเรน่าชะงัก

“เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าเมื่อเช้าคุณเซเรน่าต้องขึ้นไปวีนคุณภาคินอีกแน่ ๆ”

“เธอนี่นะ ยังไม่เลิกยุให้เขาแตกกันอีกเหรอ ชอบนักแหละเรื่องแบบนี้”

“ก็คุณภาคินหล่อจะตาย ไม่เหมาะสมกับคุณหนูเอาแต่ใจอย่างคุณเซเรน่าหรอก!” เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังตามมา

เซเรน่าหยุดยืนอยู่ตรงมุมกำแพง เสียงของเหล่าแม่บ้านและสาวใช้ดังมาจากอีกฟากหนึ่งของห้องโถง พวกเธอกำลังจัดดอกไม้ใส่แจกัน แต่ปากก็กำลังนินทาเจ้านายตัวเองอย่างสนุกปาก เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่ถ้อยคำเหล่านั้นกลับไหลทะลักเข้ามาในหัวอย่างห้ามไม่ได้ เพราะมันกำลังพูดถึงเธอยังไงล่ะ

“คุณภาคินน่ะดีจะตายไป ทั้งสุภาพ ทั้งใจเย็น ถ้าไม่ต้องมาเจอผู้หญิงอย่างคุณเซเรน่า ป่านนี้คงมีความสุขแล้ว”

“ใช่สิ คุณเซเรน่าน่ะเอาแต่ใจ แถมยังชอบหาเรื่องใส่ตัวอีก สร้างเรื่องให้คุณภาคินรำคาญใจอยู่เรื่อย แต่ก็น่าขำ เป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่โต กลับโง่งมเชื่อคำยุแยงจากสาวใช้อย่างฉัน” เธอหัวเราะอย่างสะใจ

เซเรน่าหลับตาอย่างสะกดอารมณ์ ขณะความรู้สึกมากมายอย่างแล่นเข้ามาในใจ นี่คงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ ทำให้เซเรน่าถึงกลายเป็นนางร้ายในเรื่องนี้ เธอถูกทำให้เชื่อ ในสิ่งที่บิดเบือน ถูกผลักให้กลายเป็นปีศาจในสายตาทุกคน

แต่เมื่อเปิดตาอีกครั้ง แววตาของเซเรน่าเย็นลงเล็กน้อย เมื่อโกรธแทนเจ้าของร่างเดิมในฐานะผู้หญิงด้วยกัน เธอก้าวออกมาจากมุมกำแพงอย่างเงียบงัน ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

“เสียงดังกันจังนะคะ...คฤหาสน์หลังนี้ไม่มีกฎห้ามนินทาเจ้านายด้วยเหรอ?” เสียงของเธอเรียบจนแทบไม่มีอารมณ์ แต่แววตากลับนิ่งลึกและกดดันจนพวกแม่บ้านสะดุ้งเฮือก

“คะ...คุณเซเรน่า!”

“ไม่ใช่นะคะ! พวกเรา...พวกเราแค่—”

“พูดต่อสิคะ อยากพูดอะไรก็พูด ฉันอยากฟัง” เธอเดินเข้าไปใกล้ ช้า ๆ แต่เต็มไปด้วยแววกดดัน

สาวใช้ที่โอ้อวดว่าตนเป็นคนยุแยงเซเรน่ากลืนน้ำลายดังอึก ใบหน้าซีดเผือด มือสั่นจนแจกันเกือบหล่นแตก

“มะ...ไม่มีอะไรค่ะ ดิฉันแค่พูดเรื่องดอกไม้—”

“งั้นเหรอ งั้นจำไว้นะคะ ถ้าอยากพูดเรื่องดอกไม้ อย่าให้ชื่อของฉันหลุดออกมาจากปากอีก ไม่งั้นต่อให้คุณภาคินปกป้องพวกคุณแค่ไหน ฉันก็ไม่รับปากว่าจะใจดีอีกต่อไป”

เซเรน่าพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่แฝงคมมีด บรรยากาศรอบตัวเย็นลงจนทุกคนก้มหน้าต่ำ ไม่มีใครกล้าขยับหรือแม้แต่หายใจ เมื่อเห็นดังนั้นเซเรน่าจึงหมุนตัวเดินออกมา ทิ้งไว้เพียงความเงียบที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของเหล่าสาวใช้

“บางทีการเป็นเซเรน่าก็ต้องใช้วิธีแบบนี้สินะ”

แต่ทันทีที่พ้นจากห้องนั้น เธอก็ถอนหายใจยาว รอยยิ้มจาง ๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก แต่ลึก ๆ แล้ว เธอรู้ดีเธอไม่ได้อยากร้าย เธอแค่ต้องการอยู่ให้รอดในบ้านที่ไม่มีใครต้อนรับเธอเท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel