6.ท้าทาย
คาดหวังได้ไหมนะ..คาดหวังว่าวันนี้ฉันจะได้เห็นท่านรอสเชล น้อยได้ไหมนะ..
“ปิ้งป่อง!!”
“ระบบที่คุณคิดถึงกลับมาใช้งานได้แล้วครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่เกมจีบหนุ่มในระดับเริ่มต้น..สวัสดีอีกครั้งนะครับคุณผู้เล่น”
รอยยิ้มอันแสนน่ารักของอิเกรนพลันจางหาย เธอกะพริบตาปริบๆเพื่อมองหน้าต่างข้อความที่เด้งขึ้นมา..ไหนบอกว่าระบบยังไม่เรียบร้อย และเธอจะไม่ได้ติดต่อกับระบบสักระยะเล่า!!
แล้วไอ้ระบบที่ว่าทำไมถึงได้โผล่หน้ามาให้เห็นตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ที่นี่ได้!
“เป็นอะไรไปครับ หรือว่าอาหารไม่ถูกปากอย่างนั้นหรือ?”
อิเกรนรีบโบกมือไปมาเพื่อบอกกับท่าน รอสเชลว่าไม่ใช่อย่างนั้น
“คือว่าข้าแค่..คิดอะไรเพลินๆ เท่านั้นค่ะ อาหารของที่นี่อร่อยมากๆ เลย”
อร่อยก็บ้าแล้ว เพราะอาหารของเผ่าหมีนั้นไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนอยู่เลย ทั้งๆที่ชื่อว่าเผ่าหมีแต่กลับแค่ผักเท่านั้นเนี่ยนะ ทว่ามันไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงของเธอเท่าไหร่นักที่จะอยู่ที่นี่ อาจเพราะว่าเธอไม่ใช่คนเลือกกินอะไร
“ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะเริ่มต้นได้อย่างสวยงามเลยสินะครับ เพียงแต่ทางระบบเกม เล็งเห็นถึงความง่ายดายในการพิชิตตัวละครที่มากเกินไป ดังนั้นเราจึงต้องกำหนดค่าความรู้สึกของตัวละครขึ้นมาเพื่อให้คุณผู้เล่นเกิดความท้าทายในตัวเอง”
ห้ะ..ท้าทายอะไร ใครอยากท้าทายก่อน และไอ้ที่บอกว่าง่ายน่ะ มันง่ายตรงไหนกันฟะ!
“เพื่อให้คุณผู้เล่นสนุกสนานไปกับการเล่นเกม ทางระบบจึงกำหนดค่าความรู้สึกของตัวละครขึ้นมา คุณผู้เล่นจะต้องพยายามทำให้ค่าความรู้สึกของตัวละครเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อที่จะได้มีคืนแรกร่วมกันด้วยความสุขสันต์"
นั่นมันหมายความว่า หากค่าความรู้สึกของตัวละครไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ฉันก็จะอดจ้ำจี้กับตัวละครนั้นงั้นเรอะ
“แล้วถ้าหากว่า ฉันจ้ำจี้ก่อนที่ค่าความรู้สึกจะถึงห้าสิบ มันจะเกิดบทลงโทษหรือว่าอะไรขึ้นมารึเปล่า?”
ทางระบบเงียบไปพักหนึ่ง
“บทลงโทษนั้นอาจจะร้ายแรงสักหน่อย นั่นคือคุณผู้เล่นอาจจะติดอยู่ในวนลูบที่ไร้ทางออก ในช่วงเวลาที่เป็นดั่งฝันร้าย อีกทั้งคุณผู้เล่นอาจจะไม่ได้ออกไปจากเกมนี้อีกเลย”
อา..ช่างเป็นบทลงโทษที่เลวร้ายอะไรเช่นนี้
“กระผมเห็นนะครับว่ามุมปากของคุณผู้เล่นกำลังกระตุกยิ้ม”
ก็แล้วใครจะไปอยากออกไปจากเกมนี้กันล่ะ ฉันอยากอยู่ที่นี่เพื่อมองดูหนุ่มหล่อกล้ามโตที่สวมแค่ผ้าแปลกๆ ที่แทบปิดขาอ่อนไม่มิด..
“แต่เรื่องบทลงโทษติดอยู่ในวนลูบนั้น..คุณผู้เล่นต้องคิดดีๆ นะครับ เพราะมันมีผลต่อสภาพจิตใจของคุณผู้เล่นอย่างแน่นอน”
อิเกรนยกมือขึ้นมากอดอก
“ฉันจะทำตามที่ระบบบอกค่ะ จะไม่เผลอจ้ำจี้กับใครในครั้งแรกที่พบเจออย่างแน่นอน เพราะอย่างนั้นทางระบบไว้ใจได้เลย หากพูดจบแล้วก็ไปเถอะค่ะ ฉันจะใช้เวลาอยู่กับท่านรอสเชล..”
ระบบกำลังหรี่ตาพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
“อย่าลืมนะครับว่านี่คือโอกาสสุดท้ายแล้ว หากคุณผู้เล่นยังไม่สามารถเอาชนะใจตัวละครในเกมนี้ได้ คุณผู้เล่นจะต้องออกไปจากที่นี่แล้วไปใช้ชีวิตในโลกแห่งความจริงนะครับ..”
ชีวิตในโลกแห่งความจริงงั้นเหรอ? เธอยอมตายดีกว่าจะต้องกลับไปที่นั่น
“เข้าใจแล้วค่ะ ครั้งนี้ฉันจะไม่แพ้อย่างแน่นอน เชื่อใจได้เลย”
ระบบนี่คงเป็นพวกสับสนในตัวเองสินะ เดี๋ยวก็ขู่ว่าจะให้อยู่ที่นี่ เดี๋ยวก็ขู่ว่าจะให้ออกไป ตกลงแล้วทางระบบจะเอาอย่างไรกันแน่..
แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่อยากจะออกไปจากเกมนี้อยู่ดี ไม่ว่าจะต้องพบเจออะไรที่เลวร้ายมากแค่ไหนในเกมนี้ ฉันก็ไม่อยากกลับไปในโลกความเป็นจริงเลย
“...อิเกรน? เป็นอะไรรึเปล่า ข้าเห็นเจ้าเหม่อมาพักหนึ่งแล้ว หรือว่าเจ้าง่วงแล้ว”
เสียงของท่านรอสเชลปลุกให้เธอหลุดออกมาจากภวังค์ เมื่อได้ลองมองดูดีๆ อิเกรนพบว่าหน้าต่างของระบบนั้นจางหายไปแล้ว แต่สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือค่าความรู้สึกของท่านรอสเชล
5
ช่างเป็นเลขห้าที่มีน้ำตาซ่อนอยู่จริงๆ ทั้งที่คิดว่าเขาเริ่มสนใจเธอบ้างแล้ว แต่ทำไมตัวเลขค่าความรู้สึกของเขามันช่างน้อยนิดเช่นนี้ หรือว่าทางระบบแกล้งเธอ ระบบลืมแสดงเลขศูนย์ที่อยู่ด้านหลังให้เห็นด้วยรึเปล่า?
ตัวเลขน้อยขนาดนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้เห็นท่านรอสเชลน้อยกันละเนี่ย
“อา..ดูเหมือนข้าจะเริ่มง่วงแล้วละสิ”
รอสเชลเอื้อมมือไปหยิบหมอนมาวางเอาไว้บนที่นอน ก่อนจะประคองเพื่อให้อิเกรนล้มตัวนอนลงไปอย่างช้าๆ เขาไม่ลืมห่มผ้าให้เธอด้วย
“ช่วยเล่า..เรื่องของท่านรอสเชลให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ”
เธออยากรู้จักเขาอีกหน่อย ได้เข้าใกล้เขาอีกนิดก็ยังดี
“เรื่องของข้าอย่างนั้นหรือ?”
รอสเชลโคลงศีรษะน้อยๆอย่างใช้ความคิด
“ค่ะ อันที่จริงข้าอยากจะเล่าเรื่องของตัวเองให้ท่านได้รับฟัง แต่มันติดอยู่ตรงที่ข้าจำอะไรไม่ได้นี่แหละ..เพราะอย่างนั้นท่านช่วยเล่าเรื่องของท่านให้ข้าฟังหน่อยสิคะ”
เขาไม่ได้ตอบตกลงหรือว่ากล่าวปฏิเสธ แต่ทว่ารอสเชลกลับมองเธอนิ่งๆ ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะยกยิ้มขึ้นมา
“ข้าไม่ใช่บุรุษที่มีเรื่องราวน่าสนใจเท่าไหร่นัก เพราะอย่างที่เจ้ารู้เผ่าหมีของเรานั้นไม่ได้มีชีวิตที่มีสีสันสักเท่าไหร่ ข้าถูกสอนมาตลอดในฐานะของลูกชายคนเดียวของหัวหน้าเผ่า ข้าจะต้องบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจาและใจ”
อิเกรนพลิกตัวแล้วหันหน้ามาจ้องมองใบหน้าของท่านรอสเชล
“มีอีกตั้งหลายวิธีที่เรียกได้ว่ามันคือการรักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ แล้วทำไมหัวหน้าเผ่าหมีคนก่อนถึงเลือกที่จะใช้วิธีการให้ถือครองพรหมจรรย์กันคะ ทั้งๆ ที่ความรักมันคือสิ่งที่สวยงาม และท่านรอสเชลก็เกิดมาจากความรักที่สวยงามนั้นด้วย”
ปัญหามันอยู่ตรงที่ท่านพ่อของท่านรอสเชลอย่างแน่นอน ตัวเองยังมีลูกมีภรรยาได้เลย แล้วเหตุใดถึงได้ตั้งกฎแปลกๆ นี้ออกมานะ
“เรื่องนั้น..ข้าเองก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก”
“เผ่าหมีจะล่มสลายในสักวันอย่างแน่นอน หากว่าท่านรอสเชลไม่มีทายาท แบบนั้นมันดีแล้วอย่างนั้นหรือคะ?”
สิ่งที่อิเกรนเอ่ยถามมานั้น เธอไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เขาเสียใจหรือว่าจะดูถูกความตั้งใจของเขา จากที่เขามองเห็นนั้น แววตาในระหว่างที่อิเกรนเอ่ยถามออกมามันเต็มไปด้วยความสงสัย..และนั่นแหละคือสาเหตุว่าทำไมเขาถึงได้ให้ความสนใจเธอมากขนาดนั้น เพราะความตรงไปตรงมาที่ไร้ความเสแสร้ง
อิเกรนที่เป็นเช่นนั้นมันช่างดึงดูดสายตาของเขามากจริงๆ
4
ดะ..เดี๋ยวสิ เธอแค่เอ่ยถามด้วยความสงสัย นี่เขาไม่ชอบใจถึงขนาดที่ค่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอลดลงเลยงั้นเรอะ
.
.
“นั่นตัวเลขมันผิดรึเปล่าครับหัวหน้า..อันที่จริงตัวเลขต้องเพิ่มขึ้นไม่ใช่เหรอครับ”
อีกฝ่ายเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่เสียงหัวเราะจะดังขึ้นมา
“..คือว่าข้ากดผิดน่ะ เอาไว้คราวหน้าเจ้าค่อยเพิ่มค่าความรู้สึกให้รอสเชลแบบเนียนๆ หน่อยก็แล้วกัน”
