บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

โจวอี้เหิงพูดแทงใจดำเก่งมาก

หลังจากพ่อตายด้วยโรคหัวใจ ฉันประสบอุบัติเหตุจนสูญเสียการมองเห็น

แม่ไม่อยากมีฉันเป็นภาระ จึงหนีไปเงียบๆ

เนื่องจากสองตระกูลรู้จักกันมาหลายรุ่น ลุงโจวจึงรับฉันมาอยู่ที่บ้าน

ท่าทีของโจวอี้เหิงเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไรกันนะ

คงตั้งแต่ตอนที่พวกเพื่อนเขาหัวเราะเยาะ ที่พ่อเขาเอาเด็กผู้หญิงตาบอดมาเลี้ยงในบ้านล่ะมั้ง

ตอนนั้นหลังจากฉันได้ยิน ฉันด่าคนพวกนั้นไปยกใหญ่ จากนั้นเข้าไปอ้อนโจวอี้เหิง

“พี่ไม่รังเกียจฉันหรอกใช่ไหม”

เมื่อก่อนเขาจะยื่นมือมาโอบเอวฉันเสมอ แต่ตอนนั้นฉันรู้สึกว่าตัวเขาเกร็งมาก

ผ่านไปนาน กว่าจะพูดคำว่า “อืม” ออกมา

ความทรงจำถูกปกคลุมไปด้วยความอบอุ่น โต้วโต้วเลียมือฉันอย่างเชื่องมาก ฉันรู้ว่ามันรักฉัน

ฉันสัมผัสเลือดที่แข็งไปแล้ว รู้แล้วว่าถึงเวลาปล่อยวางความรู้สึกบางอย่างแล้วล่ะ

แต่มือฉันจะเป็นอะไรไม่ได้ เพราะฉันเพิ่งสมัครแข่งขันเปียโนของโรงละครเป่ยเฉิง

ขอแค่ได้รางวัลชนะเลิศ ก็จะมีโอกาสเข้าวงออร์เคสตรา และจะมีโอกาสเป็นนักเปียโนแถวหน้า

หลังจากไปทำแผลที่โรงพยาบาล ฉันมายังสถานที่ที่ฝึกเปียโนเป็นประจำ

พอลองกดเปียโนเบาๆ แม้จะทำแผลมาแล้ว แต่ก็ยังมีความเจ็บอยู่

“ให้ฉันช่วยไหม”

เสียงอบอุ่นของผู้ชายดังขึ้น เหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านหน้าเบาๆ ฉันรู้สึกว่ามีคนมองอยู่บนหัว

“อาจารย์สอนเปียโนเหรอ” ฉันถามลองเชิง

ได้ยินว่าที่นี่มีอาจารย์เปียโนสุดหล่อที่เก่งมาก มีคนมาเรียนที่นี่เยอะมาก

ผู้ชายหัวเราะเบาๆ ฉันรู้สึกว่ามีคนมานั่งข้างๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของไม้กฤษณาลอยเข้าจมูกฉัน

“ฉันชื่อฟู่หยุนเชิน”

“ที่แท้ก็อาจารย์ฟู่นี่เอง”

“ขอโทษนะ”

เมื่อสิ้นเสียง ฝ่ามือใหญ่สัมผัสลงบนหลังมือฉัน

ใจฉันสั่นตามไปด้วย จากนั้นเสียงอันไพเราะดังไปทั่วห้องเปียโน

จังหวะ ความรู้สึก ความหนักเบา พอดิบพอดีไปหมดทุกอย่าง ปัญหาที่กวนใจฉันถูกแก้ไขตามไปด้วย

“ขอบคุณอาจารย์ฟู่จริงๆ!” ฉันดีใจกับสิ่งที่เรียนรู้ได้วันนี้ รีบหันไปขอบคุณเขาทันที

ลมหายใจเบาๆ รดใบหน้าฉัน มีกลิ่นไม้กฤษณาปะปนอยู่ด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนต้องมนต์อย่างไรอย่างนั้น

ฉันรู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังมองหน้าฉันอยู่

เสื้อด้านหลังเสียดสีกันจนเกิดเสียง ฉันถึงกับขบริมฝีปาก

ผู้ชายข้างๆ ตัวเกร็ง เหมือนเขาจะถอยห่างออกไปแล้ว

“จากนี้ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนถามฉันได้ตลอด แต่ตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญกว่า”

ฉันกำลังสงสัย ความเจ็บจี๊ดส่งมาจากบาดแผล

“มือบาดเจ็บแบบนี้ แม้จะทำแผลแล้ว แต่ก็ต้องพัก”

“อื้มๆ โอเค”

ตอนที่ฉันลุกขึ้นยืน เหมือนผมฉันไปติดกับอะไรสักอย่าง ทำให้ฉันร้องออกมา

หลังผ่านไปไม่กี่นาที ฉันไม่คิดเลยว่าตัวเองจะอยู่บนขาผู้ชายด้วยท่านี้

ในหัวฉันมีแต่คำว่าอายและกระดากใจ

“ถ้าเจ็บบอกฉันนะ” ที่แท้ผมฉันติดกับกระดุมเสื้อของเขา

“พวกนายทำอะไร!”

เสียงดุดังขึ้นที่ประตู ที่แท้ก็โจวอี้เหิงนี่เอง

จากนั้นเป็นเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา อาจารย์ฟู่ประคองฉันให้ลุกขึ้นยืน

โจวอี้เหิงจับมือฉันแล้วกระชากเข้าไปหาเขา

“ปล่อยได้ไหม ฉันเจ็บนะ”

โจวอี้เหิงส่งเสียงหึแล้วหัวเราะ “เจี่ยวเจี่ยว คิดว่ามาหาผู้ชายแล้วฉันจะสนใจเหรอ อย่าด้อยค่าตัวเองแบบนี้เลย”

ฉันไม่อยากจะเชื่อ ความรู้สึกโดนดูหมิ่น ความผิดหวัง ความโมโหผุดขึ้นมาทันที

“โจวอี้เหิง นายหลงตัวเองเกินไปหน่อยหรือเปล่า นี่อาจารย์ฟู่ ฉันไม่ได้ทำตัวต่ำตมเหมือนที่นายคิดหรอก”

“อีกอย่างฉันไม่ใช่สิ่งที่ติดสอยห้อยท้ายของนาย ฉันจะทำอะไร ไม่จำเป็นต้องขอความเห็นจากนาย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel