ตอนที่9
[ผับ]
"คืนนี้เรามาฉลองให้คุณหนูอัคคีกันหน่อย" เสียงเฮฮาของเพื่อนๆ ที่นัดรวมตัวกันเลี้ยงฉลองให้อัคคีที่เพิ่งกลับจากอังกฤษ
"ฉลองห่าไรวะ กูก็แค่กลับบ้าน" อัคคีชนแก้วกับเพื่อนสมัยเรียนที่ฐานะทางบ้านเทียบเท่ากับเขาทุกคน เขาสนิทกับเพื่อนกลุ่มนี้ที่สุด เพราะมีรสนิยมคล้ายๆ กัน
"มึงเล่นไม่กลับบ้านเป็นสิบปี ลำบากพวกกูต้องบินไปแดกเหล้ากับมึงที่อังกฤษ เปลืองเงินฉิบหาย" หนึ่งในกลุ่มเพื่อนเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆ
"แล้วใครใช้ให้พวกมึงบินไปหากูล่ะ เสือกไปกันเอง"
"อ้าวๆ ไอ้คี พูดงี้ไม่ได้นะครับ ถ้าพวกกูไม่ไปหามึงแล้วชาตินี้จะได้เจอหน้ามึงไหมครับเพื่อน" เพื่อนอีกคนเริ่มเมาพูดไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังคงประคองสติได้
"พอๆ พูดมากน่ารำคาญ งั้นคราวหน้าไปแดกเหล้าบ้านกูแล้วกัน เดี๋ยวกูขอแม่ให้จัดปาร์ตี้ต้อนรับกู" อัคคีชูแก้วเหล้าสีอำพันขึ้นชนกับเพื่อนๆ ทุกคน
"มึง แดกกันเองไม่หนุกเลยว่ะ เรียกสาวๆ หน่อยไหม" เพื่อนในกลุ่มเสนอความคิด อัคคีตอบกลับแค่เพียงพยักหน้าน้อยๆ ไม่นานนักหญิงสาวหลายคนก็ถูกเรียกให้มาบริการบรรดาลูกมหาเศรษฐีคนมีเงินที่มีฉลองกันในคืนนี้
"ขอชมพู่นั่งด้วยนะคะ" หญิงสาวใบหน้าหวาน ดวงตากลมโตเดินตรงมาหาอัคคีอย่างไม่รีรอ
"นั่งตักเลยสิ" ชายหนุ่มกระซิบข้างหูเธอ หญิงสาวจึงขึ้นคร่อมตักเขาทันทีพร้อมกับบดเอวขยี้เบาๆ ให้ส่วนนั้นของเธอถูไถกับกลางกายที่เริ่มตุงภายใต้กางเกงของเขา
"อื้ม..อยากทำมากกว่านี้จังเลยค่ะ" เสียงหวานกระซิบข้างหูก่อนจะขบเม้มที่ติ่งหูของอีกฝ่ายอย่างยั่วยวน
"หึ! แล้วอย่าร้องขอให้หยุดล่ะ" ว่าจบก็ลุกขึ้นจูงมือหญิงสาวที่เพิ่งเจอกันแค่เพียงห้านาทีไปยังห้องพักที่จองเอาไว้
"อื้ม.." สองร่างนัวเนียกันตั้งแต่หน้าห้องจนถึงด้านในห้องพัก อัคคีจู่โจมซอกคอของอีกฝ่ายอย่างไม่รีรอ เขาไม่ชอบถูกรุก แต่ชอบเป็นฝ่ายรุกเองมากกว่า
"ไม่จูบเหรอคะ" หญิงสาวจับเขย่งปลายเท้าเตรียมจะสัมผัสริมฝีปากของเขา แต่อัคคีกลับเบี่ยงหน้าหลบพร้อมกับดันตัวเธอออก
"ฉันไม่จูบ" อัคคีปฏิเสธเสียงแข็ง เขาไม่ชอบจูบกับใคร เพราะสำหรับเขาจูบมีแค่สำหรับคนที่รักเท่านั้น
"ทำไมล่ะคะ"
"จะทำไหม?" ชายหนุ่มเริ่มเสียงแข็งไม่พอใจที่อีกคนถามไม่หยุดหย่อน
"ทำสิคะ ใจร้อนจริงๆ" ร่างอรชรหันหลังแอ่นสะโพกเข้าหาเขา มือหนาไม่รอช้ารีบถลกชุดเดรสของเธอขึ้นไว้ที่เอว
"แฉะแล้วนี่" นิ้วชี้ใหญ่สัมผัสได้ถึงความชื่นแฉะบริเวณร่องสาว
"ก็เพราะคุณไงคะ" หญิงสาวตวัดแขนโอบรอบคอหนา ดวงตาสวยหลับพริ้มเมื่อถูกนิ้วของเขาถูไถที่ส่วนนั้นเบาๆ
"เครื่องติดง่ายดีจริง"
"อ๊ะ..อยากได้อย่างอื่นมากกว่านิ้ว" เสียงหวานครวญครางกระซิบข้างหูเขาเบาๆ ร้องขอสิ่งอื่นที่ไม่ใช่แค่นิ้วชี้
"อยากได้อะไรล่ะ" คนตัวโตแสนเจ้าเล่ห์แกล้งถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
"อ๊า..ไอ้นั่น..อ๊ะ.." มือเรียวคว้าหมับเข้าที่แก่นกายใหญ่ภายใต้กางเกงตัวหนา แต่เธอสัมผัสได้ถึงความแข็งขื่นแม้จะมีกางเกงกั้นไว้ก็ตาม
"หึ! ได้สิคนสวย" ชายหนุ่มรูดซิบกางเกงออก ลำเอ็นใหญ่ผงาดขึ้นทำให้อีกฝ่ายยิ้มกว้าง พอใจกับขนาดของคนตรงหน้าที่นานครั้งเธอจะได้เจอคนที่จะทำให้เธอถึงใจได้
อัคคีฉีกซองพลาสติกขนาดเล็กที่ด้านในบรรจุเครื่องป้องกันที่เรียกว่าถุงยางอนามัยขึ้นมาสวมทับแก่นกายลำอวบของตนเอง หญิงสาวแสนรู้งานรีบหันหลังให้เขาพร้อมกับแอ่นก้นงอนให้อยู่ในระยะพอดี
"อ๊า..คุณคี..อ๊าย..เสียวมาก" เสียงหวานครางระงมทันทีที่แก่นกายใหญ่เริ่มคืบคลานเข้าสู่โพรงสวาทที่ชื่นแฉะไปด้วยน้ำเมือกใส อัคคีขยับเอวสอบกระแทกเข้าออกด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาแค่ทำเพื่อปลดปล่อยให้มันจบๆ ไปเท่านั้น
"อ๊า..แรงอีก..อู๊ย" มีแค่เสียงของหญิงสาวเท่านั้นที่ครางดังลั่นห้อง ส่วนอัคคีเขาทำแบบขอไปทีเพราะเธอคนนี้ไม่เป็นที่พอใจสำหรับเขามากนัก เวลาหลายนาทีที่อัคคีพยายามฝืนทนจนเสร็จลุล่วง
"เฮ้อ!" เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่บ่งบอกได้ถึงอารมณ์ที่ค้างคาของเขา
"เป็นอะไรครับคุณชายคี หายไปตั้งนานไม่พอใจเหรอวะ" เพื่อนสนิทที่รู้นิสัยของอัคคีดีรีบเข้ามาถามไถ่
"เฉยๆ ว่ะ ไม่ว้าวเท่าไหร่" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างหมดอารมณ์ เขาลืมความรู้สึกที่ได้ขึ้นสวรรค์จริงๆ ไปแล้ว นานแค่ไหนกันที่เขาไม่ได้เจอคนที่ถูกใจจริงๆ
"มึงเรื่องมากเองหรือเปล่า นั่นตัวท็อปของที่นี่เลยนะเว้ย" เพื่อนอีกคนช่วยเสริมทัพ
"งั้นเชิญพวกมึงต่อเลย กูกลับละ" อัคคีโบกมือลาเพื่อนๆ ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าออกจากชั้นวีไอพีของผับ เขากับเพื่อนมักจะแบ่งกันเรื่องผู้หญิงเป็นประจำ และแน่นอนว่าหญิงสาวเหล่านั้นก็พอใจเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาเงินหนา
รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้ารั้วบ้านหลังใหญ่ โดยรถคันนี้เพิ่งถอยใหม่ได้เพียงสามวัน ซึ่งเป็นของขวัญที่คุณหญิงรัศมีซื้อให้ลูกชายคนเล็กเพื่อต้อนรับลูกชายกลับบ้าน อัคคีเรียกได้ว่าเป็นคนที่โชคดี เขามีแม่ที่คอยตามใจ ฐานะทางบ้านก็ร่ำรวยไม่เป็นสองรองใคร ทำให้เขามีนิสัยเอาแต่ใจอยากได้อะไรต้องได้จนถึงทุกวันนี้
"ใครน่ะ?" เสียงทุ้มเอ่ยทักคนที่เห็นเพียงแค่เงาตะคุ่มในความมืด
"..." อีกฝ่ายยังคงเงียบแล้วทำงานของตนเองต่อไป นั่นก็คือการรดน้ำต้นไม้ในเวลาห้าทุ่ม
"ฉันถามว่าใคร?" อัคคีเริ่มมีน้ำโห เขาเดินตรงเข้าไปกระชากแขนอีกคนให้หันมา
"เจ็บค่ะ" เสียงหวานเอ่ยเพียงสั้นๆ แล้วหันกลับมาสนใจต้นไม้ที่เรียงรายอยู่ตรงหน้า
"รดน้ำอะไรเวลานี้ เธอไม่รู้หรือไงว่ามันไม่มีประโยชน์" พอรู้ว่าเป็นใครอัคคีก็ยืนเท้าเอวบ่นพึมพำกับคนที่ยังยืนรดน้ำต้นไม้ไม่เลิก
"รู้ค่ะ" มุกดาตอบแค่สั้นๆ อีกตามเคย
"รู้แล้วยังไม่หยุดอีก" เขาเดินไปปิดน้ำเพื่อให้เธอหยุด
"ฉันแค่ทำตามคำสั่งคุณหญิงค่ะ" มุกดารู้ว่ารดน้ำต้นไม้เวลานี้มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย แถมยังทำให้ต้นไม้เน่าได้ แต่เธอแค่ทำตามคำสั่งของคุณรัศมีเท่านั้น
"แม่สั่งเหรอ"
"ค่ะ"
