บทที่5
กลับมาที่ปัจจุบัน
“ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ”
ธาดาพูดกับยายของหวาย
“ ยายขอฝากสิ่งนี้ไปให้ปู่ของเราด้วยนะ บอกเขาว่ายายทำตามสัญญาที่ให้ไว้แล้ว ”
ยายของหวายยื่นซองกระดาษให้กับธาดา เป็นของสำคัญที่เก็บรักษาเอาไว้อย่างดี
จากนั้นธาดากับหวายก็ขึ้นรถไปด้วยกันหลังจากที่หวายร่ำลายายกับสุนัขตัวน้อยอยู่อีกพักใหญ่ๆ
ระหว่างทางทั้งคู่ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง จนกระทั่งธาดาแวะปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ระหว่างที่พนักงานของปั๊มกำลังเติมน้ำมันรถ หวายก็ไปเข้าห้องน้ำ
ขณะที่หวายกำลังจะทำธุระส่วนตัวเธอก็สังเกตุเห็นเงาคนอยู่ตรงประตูและมีมือถือเครื่องหนึ่งสอดเข้ามา
“ ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วยมีโรคจิต!! ”
หวายตะโกนเสียงดัง พอเห็นว่าคนร้ายกำลังจะหนีเธอก็วิ่งตามออกไปเพราะเสียงที่หวายตะโกนทำให้ธาดาที่เข้าห้องน้ำอยู่ฝั่งผู้ชายได้ยินจึงรีบวิ่งมาดู เขายืนประจันหน้ากับคนร้าย
“ เขาเป็นโรคจิตค่ะ!! ”
หวายรีบบอกธาดาทำให้คนร้ายกลัวว่าจะถูกจับไปดำเนินคดีจึงได้เข้าไปล็อคตัวหวายเอาไว้ มือข้างหนึ่งถือมีดจ่อไปที่คอของเธอด้วยความเกรี้ยวกราด
“ อย่าเข้ามาไม่งั้นนังหนูนี่ไม่รอดแน่! ”
“ ใจเย็นๆนะครับมีอะไรค่อยๆคุยกันก็ได้ ” ธาดาพยายามเกลี้ยกล่อม
“ หลบไป! ”
คนร้ายบอกธาดา ธาดาจึงต้องหลีกทางให้เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของหวาย
แต่เขาก็คิดหาวิธีช่วยเอาไว้แล้ว
ระหว่างที่คนร้ายกำลังพยายามจะหลบหนีโดยมีหวายเป็นตัวประกันนั้นเด็กปั้มก็เข้ามา ทำให้คนร้ายเกิดความวิตกอีกครั้ง
“ อย่าเข้ามาเว้ย! ”
คนร้ายเตรียมจ่อมีดลงไปที่คอของหวาย
นาทีนั้นธาดาคิดว่าถ้าขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้หวายอาจจะเป็นอันตรายได้ เขาจึงออกอุบายให้คนร้ายตายใจ
“ โอเค พวกเราจะปล่อยคุณไป ”
“ ไม่ได้นะครับเราต้องแจ้งตำรวจ! ”
เด็กปั้มพูดขึ้น คราวนี้คนร้ายกรีดมีดลงไปที่คอของหวายแม้จะไม่ได้ลึกแต่ก็ทำให้มีเลือดออก ธาดาจึงคิดว่าแผนการที่จะหลอกให้คนร้ายตายใจคงจะไม่ได้ผลซะแล้วเขาจึงใช้วิธีสุดท้าย
ธาดาใช้จังหวะที่คนร้ายชะล่าใจถีบเข้าไปยังชายโครงเต็มๆ จนคนร้ายเสียหลักล้มลง หวายรีบลุกออกมา
“ ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ”
ธาดาถามหวายพร้อมกับดูแผลที่คอของเธอด้วยความเป็นห่วงแต่ไม่ทันที่หวายจะได้พูดอะไร คนร้ายก็ฉวยโอกาสนี้พุ่งเข้าใส่ทั้งคู่
เพราะเหตุการณ์จวนตัวธาดาจึงตัดสินใจใช้ตัวเองบังตัวหวายเอาไว้ ทำให้เขาถูกมีดแทงเข้าที่หน้าอกด้านซ้าย
ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาจับกุมคนร้ายได้ทัน ธาดาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หวายนั่งรอธาดาอยู่หน้าห้องฉุกเฉินหลังจากมีพยาบาลทำแผลที่คอให้เธอแล้ว ผ่านไปกว่าชั่วโมง คุณหมอก็ออกมา
“ คนไหนคือญาติคนไข้ที่ชื่อธาดาครับ ”
“ หนูค่ะ เขาเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ ”
ตอนนี้หวายเป็นห่วงธาดามากเพราะธาดาเสี่ยงชีวิตช่วยเธอไว้
“ คนไข้ไม่ได้เป็นอะไรมากครับโชคดีที่จุดที่มีดแทงเข้าไปมีสิ่งนี้อยู่ไม่งั้นคงจะถูกจุดสำคัญไปแล้ว ”
คุณหมอยื่นซองสีขาวที่มีร่อยรอยขาดเป็นรูให้กับหวาย พอเปิดออกดูในนั้นมีโลหะชิ้นหนึ่งอยู่ เป็นสิ่งของที่ยายของเธอเอาให้กับธาดา
ตอนนั้นธาดาเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อของเขา
หลังจากผ่านไปราวๆสามชั่วโมงธาดาก็ขอคุณหมอออกมาจากโรงพยาบาลเพราะอาการของเขาไม่ได้หนักหนามาก ธาดาเองก็รู้สึกขอบคุณของที่ยายหวายมอบให้
แม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่มันก็ได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้
“ ไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับใครนะผมไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ”
ธาดาหันไปบอกหวายในขณะที่กำลังขับรถมุ่งหน้ากลับกรุงเทพ
“ ค่ะ แล้วรีบออกมาแบบนี้แผลคุณจะไม่เป็นไรหรอคะ ”
แม้คุณหมอจะบอกว่าอาการของธาดาไม่ได้สาหัสแต่หวายก็อดเป็นห่วงธาดาไม่ได้อยู่ดี
“ แผลไม่ลึกไม่เป็นอะไรหรอกเดี๋ยวผมค่อยไปรักษาต่อที่นู่นก็ได้ ผมเคยเป็นหมอมาก่อน ไม่ต้องห่วงหรอก ”
เพราะธาดาสังเกตุว่าหวายยังดูกังวลอยู่เลยต้องอธิบายให้เข้าใจ
ในระหว่างนั้นเองมีสุนัขตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้ารถทำให้ธาดาต้องเหยียบเบรคอย่างกระทันหัน
เอี๊ยดดด!!! ??
“ เป็นอะไรมั้ย ”
ธาดาถามทันทีที่เขาควบคุมรถได้โดยที่ไม่ได้ชนสุนัขตัวนั้น หวายค่อยๆลืมตาและเงยหน้าขึ้นจากแผงอกของธาดาที่ลืมตัวโผลเข้าไปซบด้วยความตกใจ
ทั้งคู่สบตากันนิ่ง หนึ่งคนหัวใจเต้นแรง
“ เป็นอะไรมั้ย ” ธาดาถามทันทีที่เขาควบคุมรถได้โดยที่ไม่ได้ชนสุนัขตัวนั้น หวายค่อยๆลืมตาและเงยหน้าขึ้นจากแผงอกของธาดาที่ลืมตัวโผลเข้าไปซบด้วยความตกใจ
ทั้งคู่สบตากันนิ่ง หนึ่งคนหัวใจเต้นแรง
พอตั้งสติได้หวายก็รีบผละออกแต่เสียงหัวใจที่เต้นตึ่กตั่กอยู่ข้างในทำให้เธอออกอาการประหม่า
ทำไมความรู้สึกมันเหมือนเวลาที่เราบรรยายฉากของเนี่ยถานเอ๋อตอนที่ตกหลุมรักคุณชายลู่ในนิยายเลยล่ะ! ไม่จริง เป็นไปไม่ได้!
หวายพยายามสลัดความคิดบ้าๆออกจากหัวก่อนจะรีบกลับไปนั่งที่เบาะตัวเอง
“ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าให้ผมดูหน่อย ” ธาดาถามด้วยความเป็นห่วง
“ ปะ…เปล่าค่ะ ” หวายรีบปฏิเสธ
จากนั้นธาดาก็ออกรถ ระหว่างทางไม่มีการพูดคุยกันอีกจนกระทั่งมาถึงยังบ้านหลังหนึ่ง ทันทีที่รถแล่นเข้ามาจอดก็เห็นทิพย์ธารามายืนรอต้อนรับทั้งคู่อยู่ก่อนแล้ว
“ เป็นยังไงบ้างเหนื่อยมั้ย ”
ทิพย์ธาราถามว่าที่ลูกสะใภ้คนโต
“ ไม่เหนื่อยค่ะ ”
“ งั้นเราเข้าไปในบ้านกันดีกว่านะ น้าเตรียมอาหารไว้รอเราสองคนแล้ว ”
หวายเดินตามทิพย์ธาราเข้าไปในบ้านพร้อมกับสำรวจรอบๆไปด้วย
โหยยย อย่างกับในละครแน่ะ
เนื่องจากคุณปู่ของธาดาออกไปทำธุระข้างนอก ตอนนี้จึงมีเพียงทิพย์ธารา ธาดาและภาคิณเท่านั้นที่ร่วมโต๊ะอาหารกันอยู่
“ ผมชื่อภาคิณนะ เป็นน้องชายของพี่ธาดา ยินดีที่ได้รู้จักนะ พี่สะใภ้ ”
ภาคิณแนะนำตัวเองด้วยท่าทางที่เป็นมิตรและเขาก็ไม่ลืมที่จะหันหน้าไปหาธาดาในตอนที่พูดคำว่า "พี่สะใภ้ "
ภาคิณไม่คิดว่าพี่ชายของเขาจะได้เมียเด็กขนาดนี้
“ หวายค่ะ ”
“ หวาย ชื่อน่ารักดีนะ ”
ภาคิณยิ้ม เขารู้สึกถูกชะตากับหวายไม่น้อยในขณะที่ธาดาเอาแต่นั่งทานข้าวไม่พูดไม่จา
“ เอ๊ะ! นั่นคอหนูไปโดนอะไรมาจ๊ะ ”
ทิพย์ธาราพูดขึ้น เธอพึ่งสังเกตเห็นผ้าก็อชที่ติดอยู่ตรงคอของหวาย
“ เอ่อ หนูโดนเล็บตัวเองข่วนค่ะ ”
หวายยิ้มแห้งๆ
“ เล็บข่วนเนี่ยนะ ”
ภาคิณถาม เขาเกือบจะหลุดขำออกมา
เด็กหนอเด็ก
“ รีบทานข้าวเถอะครับเราสองคนอยากรีบไปพักผ่อนแล้ว ”
คราวนี้ธาดาเป็นคนที่พูดขึ้น พอเห็นหวายเริ่มจะจนมุมเขาเลยต้องยื่นมือเข้าช่วยแต่ทิพย์ธารากับภาคิณกลับพากันคิดไปไกล
เขาสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้ม
จนกระทั่งทุกคนทานข้าวอิ่ม หวายก็ถูกพามาที่ห้องๆหนึ่ง
“ พออยู่ได้มั้ย ”
ธาดาถามหลังจากที่เปิดประตูห้องให้ หวายมองไปรอบๆห้อง เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างดูหรูหราทั้งนั้น
“ ได้ค่ะ ”
ธาดาถือกระเป๋าของหวายเข้าไปในห้อง
“ เอ่อ เราสองคนไม่ได้พักห้องเดียวกันใช่มั้ยคะ ”
อยู่ๆหวายก็เกิดกลัวธาดาขึ้นมา เพราะคำพูดกำกวมพวกนั้น
แต่ไม่ทันที่ธาดาจะได้พูดอะไร มือถือของเขาก็ดังขึ้น ธาดารับสาย
“ ได้ เจอกันที่เดิมนะ อืม ฉันจะออกไปตอนนี้เลย ”
คำพูดของธาดาที่กำลังคุยกับคนในสายทำให้หวายแอบยิ้ม
ไม่น่าคิดมากเลยเรา เขาเป็นเกย์นินา แล้วนี่คงจะรีบออกไปหาคู่ขาสิท่า
“ ยิ้มอะไร ”
ธาดาถาม
“ เอ่อ เปล่าค่ะ ถ้าคุณมีธุระก็รีบไปเถอะ เรื่องแบบนี้หนูเข้าใจ ”
หวายยื่นหน้าเข้าไปใกล้ธาดา ประโยคหลังเธอพูดเสียงเบา
“ เข้าใจอะไรแล้วเมื่อกี้ที่พูดหมายความว่าไง ”
“ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูอยากอาบน้ำแล้วคุณรีบไปเถอะ ”
หวายเกรงว่าธาดาจะเกิดอายเรื่องเพศทางเลือก เลยรีบตัดบท
“ งั้นก็รับพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เรายังต้องไปลองชุดแต่งงานกันอีก เจอกันตอนแปดโมง ห้ามสาย ”
ธาดาปิดประตูห้องให้หวายก่อนจะรีบออกไปหา "วีกิต" รุ่นน้องคนสนิทที่โทรมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเขาแค่นั้น
