บท
ตั้งค่า

บทที่9 ความจริง

บทที่9 ความจริง

        " เจ้ามีสิ่งใดจะถามผู้เป็นมารดาเช่นข้าหรือไม่ "

เมื่อหานจินอี้ได้ยินสิ่งที่มารดาเจ้าของร่างกล่าวก็เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะตัดสินใจถามเรื่องที่ตนค้างคาใจ " ท่านแม่ เหตุใดรากปราณของข้าถึงได้รับความเสียหายทำให้ไม่สามารถฝึกฝนพลังวิญญาณได้ "

ซ่างเหยาโหลวได้ยินคำถามก็พลันถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ ก่อนจะสั่งให้คนที่อยู่ด้านในเรือนออกไปให้หมดเหลือมีเพียงตนกับบุตรสาวอยู่ตามลำพังแค่สองคนและก็เริ่มเล่าเหตุการณ์เมื่อสิบสามปีก่อน

      สิบสามปีก่อน

ในระหว่างที่ซ่างเหยาโหลวตั้งครรภ์ได้แปดเดือน จู่ๆนางก็เริ่มปวดท้องคลอดขึ้นอย่างกะทันหัน พอหมอตำแยเข้ามาตรวจก็พบว่านางได้โดนพิษชนิดหนึ่งเข้าเป็นเวลายาวนาน พิษชนิดนี้ไม่มีสีไม่มีกลิ่นไม่มีรสทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ พิษชนิดนี้บางทีอาจทำให้เด็กทารกในครรภ์ตายในท้องได้เลยทีเดียว ทว่าโชคยังดีที่เด็กทารกในครรภ์เเข็งเเรงจึงทำให้อยู่มาให้จนถึงตอนนี้ จำเป็นต้องทำคลอดก่อนกำหนด

เมื่อนางได้ยินเช่นนี้ก็พลันรู้สึกโกรธแค้นยิ่งนักผู้ใดกันช่างจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก แม้เเต่เด็กที่ยังไม่ลืมตาดูโลกยังกล้าที่จะฆ่าได้ลงคอ ไม่นานในจวนตระกูลหานก็เกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้งหลังจากคลอดคุณหนูห้าออกมาอย่างปลอดภัย ฮูหยินใหญ่ของจวนเกิดอาการตกเลือดแทบจะรักษาชีวิตไว้ไม่รอด

ทว่ายังนับว่ายังไม่ถึงคราวเคราะห์ของซ่างเหยาโหลว เมื่อผู้นำตระกูลหานหรือสามีของนางได้นำน้ำทิพย์วารีที่พึ่งได้มา เอามาให้แก่นางจึงสามารถช่วยชีวิตนางออกมาจากประตูนรกได้ทันการณ์

เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้นางไม่สามารถมีลูกได้อีก พอนางลองสืบเรื่องนี้ดูก็พบว่าคนที่อยู่เบื้องหลังใช้สาวใช้วางยาพิษนางคืออู่เสวี่ยชิงหรือฮูหยินรองนั้นเอง ทว่านางก็ยังไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดกับนางได้ ซ่างเหยาโหลวก็ได้เก็บความเคียดแค้นไว้ในใจ

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อหานจินอี้ค่อยๆเติบโตขึ้น ซ่าวเหยาโหลวก็ค้นพบว่าบุตรีของตนมีปัญหา หานจินอี้ได้ผลกระทบจากพิษชนิดนั้นทำให้รากปราณเสียหายไม่สามารถฝึกพลังวิญญาณได้อีกทั้งยังกลานเป็นคนสติไม่ดี

ก่อนที่ทุกคนจะรู้เรื่องนี้นางจึงได้หารือกับหานหยางเจียนที่เป็นสามีของตนให้ทำการหมั้นหานจินอี้ให้กับองค์ชายสี่เว่ยจื่อหรงเพื่อหาที่พึ่งพิงให้กับบุตรีของตนในอนาคต ทว่าเมื่อหานจินอี้เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆจนในที่สุดความจริงก็ถูกเปิดเผย นางจึงจำใจส่งหานจินอี้มาอยู่ที่เรือนหลังเล็กท้ายจวนและส่งฉินโม่ที่เป็นคนสนิทของตนคอยดูแลอย่างใกล้ชิด 

ซ่างเหยาโหลวก็ได้แต่คอยมองดูบุตรของตนอยู่ห่างๆ พอเห็นหานอิงฮวากับหานเจียงหลงคอยกลั่นแกล้งหานจินอี้ตลอด ไม่ใช่ว่านางจะไม่ค่อยทำสิ่งใดเลย ทว่านางไม่สามารถที่จะเเตะต้องเด็กทั้งสองคนนั้นได้เพราะผู้เป็นสามีของนางคอยให้ท้ายสามแม่ลูกพวกนั้นตลอด นางก็ได้แต่อดกลั้นเอาไว้เพื่อรอโอกาสที่จะเอาคืน

เมื่อหานจินอี้ได้ยินที่มารดาเจ้าของร่างเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาก็ได้แต่นิ่งเงียบตลอด จนกระทั่งมารดาเจ้าของร่างเดิมได้เล่าเรื่องจนจบ

ทันใดนั้นหัวใจที่รู้สึกเหมือนถูกบีบคั้นอย่างมิเคยเป็นมาก่อน จู่ๆน้ำตาก็ค่อยๆไหลรินลงจากดวงตาหงส์ของนาง ทั้งที่นางเองมิได้รู้สึกรู้ษาอะไรเลย ทว่าน้ำตาของนางก็พลันไหลรินอย่างต่อเนื่องคงจะเป็นความรู้สึกของเจ้าของร่างนี้กระมัง

ซ่างเหยาโหลวเห็นบุตรีของตนร้องไห้ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตนนั่งอยู่ แล้วก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาบุตรีของตนที่นั่งอยู่เก้าอี้ฝังตรงข้ามไว้แนบอกและยกมือลูบศีรษะของนางเบาๆ " เเม่รู้ว่าเจ้าเจ็บปวดกับเรื่องราวที่ผ่านมาเเต่เจ้าวางใจได้ เเม่จะจัดการกับคนที่คอยทำร้ายเจ้าได้แน่ "

หานจินอี้จึงเงยหน้าขึ้นมองมารดาเจ้าของร่างหัวใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา....ที่แท้การมีแม่ก็รู้สึกเช่นนี้เอง มารดาเจ้าของร่างเดิมก็ไม่ได้เย็นชากับบุตรของตนอย่างที่นางคิดไว้ตั้งแต่แรก ที่เเท้ความจริงก็เป็นเช่นนี้ 

 หากนางรู้ว่าบุตรีของนางได้จากโลกนี้ไปแล้วนางจะรู้สึกเช่นไร 'หานจินอี้เจ้าหลับให้สบายเถอะ ข้าจะคอยปกป้องคนที่เจ้ารักให้เอง....เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง...ความอยุติธรรมที่เจ้าได้รับ...ข้าได้จะทวงคืนให้หมด ' นางเอ่ยบอกเจ้าของร่างเดิมอยู่ในใจ ทันใดนั้นเองนางก็รู้สึกถึงสายลมพัดผ่านราวกับตอบรับขอของนาง

จากนั้นซ่างเหยาโหลวก็คลายอ้อมกอดจากบุตรีของตนแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากแก้มของบุตรีก่อนจะเอ่ยขึ้น " ในเมื่อเจ้าพึ่งกลับมาเจ้าก็พักผ่อนเถอะ แม่มีธุระที่ต้องจัดการอีกมาก "

หานจินอี้จึงพยักหน้าให้กับมารดาเจ้าของร่าง จากนั้นซ่างเหยาโหลวก็เดินออกไป 

ฉินโม่ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูตลอดและได้ยินสองแม่ลูกพูดคุยกันทั้งหมดในใจก็รู้สึกยินดียิ่งนักที่ทั้งสองหันหน้าเข้าใจกันเสียที จากนั้นก็เดินตามหลังผู้เป็นนายของตนไป ก่อนไปยังสั่งให้รั่วหลินดูแลคุณหนูให้ดีเเละจากไป

เมื่อรั่วหลินเป็นว่าฮูหยินใหญ่ของจวนจากไปแล้วก็รีบเข้าไปหานายของตนทันที พอนางเข้าไปก็พบว่านายของตนนั่งอยู่ที่เดิมไม่ได้จากไปไหน

         " คุณหนู "

 หานจินอี้ได้ยินเสียงเรียกก็เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะยกมือเช็ดน้ำตาที่เลอะอยู่บนหน้าของตนแล้วก็ปรับน้ำเสียให้เป็นปกติก่อนก็ขึ้น " รั่วหลิน ตอนนี้เจ้าอยู่ในระดับไหนแล้ว " 

รั่วหลินจึงปลดปล่อยพลังวิญญาณของตนใช้กับผู้เป็นนาย ดวงดาราพบที่ปรากฏขึ้นเป็นสีแดงมีอยู่ห้าดวง ตอนนี้ร่างหลินอยู่ในระดับต้นจิตห้าดารา ระดับเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนสองขั้นย่อย 

หานจินอี้เห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้มอย่างพึ่งใจที่รั่วหลินพัฒนาขึ้น จากนั้นนางก็เอาแกนอสูรทั้งหมดที่ได้มาออกจากป่าวิญญาณออกจากกำไลมิติ

เมื่อรั่วหลินเห็นแก่นอสูรมากมายกองอยู่บนโต๊ะก็อ้าปากค้างแล้วเอ่ยขึ้น " คุณหนู...เหตุใดแกนอสูรถึงได้มากมายเช่นนี้ล่ะเจ้าคะ " เท่าที่นางลองนับดูมีราวๆเกือบสามสิบลูก!

หานจินอี้เห็นท่าทางของรั่วหลินแล้วก็หัวเราะออกมาจากลำคอเบาๆก่อนจะเอ่ยขึ้น " เจ้าไม่เชื่อในความสามารถของคุณหนูของเจ้าหรือ "

รั่วหลินเงยหน้ามองผู้เป็นนายก่อนสายตาของนางจะเบิกกว้างขึ้น นี่หรือว่า.....คุณหนูสร้างรากปราณขึ้นใหม่ได้สำเร็จแล้วอย่างงั้นหรือ!

หานจินอี้ไม่ปล่อยให้คนสนิทของตนสงสัยไปกว่านี้ นางจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้เเละปลดปล่อยพลังวิญญาณของตน จากนั้นดวงดาราสีส้มก็ปรากฏขึ้นทั้งหมดสามดวง 

เมื่อรั่วหลินได้เห็นก็อดตกตะลึงเสียไม่ได้นางจึงเอ่ยขึ้นมาเสียงดัง " ระดับจิตวิญญาณสามดารา!...คุณหนูนี่!... "

        " ครานี้เจ้าเชื่อของแล้วหรือยัง " หานจินอี้เชิดหน้าขึ้นอย่างภูมิใจถึงแกนวิญญาณส่วนใหญ่นางจะปล้นชิงมาจากคนอื่นก็เถอะ 

รั่วหลินจึงพยักหน้าอย่างเชื่อในความสามารถของนายตนอย่าวสนิทใจโดยไม่ได้เอะใจแม้แต่น้อย " คุณหนูตอนนี้พวกเราดูดซับแกนอสูรได้แค่สีแดงกับสีส้มเท่านั้นนะเจ้าค่ะ "

        " เพราะเหตุใด " หานจินอี้เอ่ยขึ้นทันควัน เรื่องนี้นางไม่เห็นจะรู้มาก่อนเลย

       " เราสามารถดูดซับตามระดับพลังเจ้าค่ะ คุณหนูเห็นหรือไม่ว่าดวงดาราของคุณหนูเป็นสีส้ม ส่วนของข้าเป็นสีแดง ดังนั้นพวกเราสามารถดูดซับตามสีของดาวดาราที่ปรากฏขึ้นไม่สามารถดูดซับสีอื่นได้อีก ถ้าหากเราดูดซับสีอื่นเส้นลมปราณของเราจะรับไม่ไหวเจ้าค่ะ " 

       " เป็นเช่นนี้นี่เอง " หานจินอี้จึงพยักหน้าอย่างเข้าใจความหมายที่รั่วหลินจะสื่อออกมา เช่นนั้นนางก็ดูดซับได้เเค่แกนอสูรสีส้ม ส่วนที่เหลือก็เก็บเอาไว้ก่อน จากนั้นนางก็ยื่นแกนอสูรสีแดงให้กับสาวใช้คนสนิท " สีแดงเป็นของเจ้า "

รั่วหลินมองหน้านายของตนตัวความตื่นเต้นก่อนจะยื่นมือไปรับแกนอสูรสีแดงมาจากนายของตน นางรู้นิสัยของผู้เป็นนายดีว่าเป็นเช่นไร เมื่อสองเดือนก่อนผู้เป็นนายก็ซื้อเเหวนมิติระดับต่ำให้นาง ตอนแรกเคิมนางก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมรับแต่พอผู้เป็นนายบอกว่าถ้าไม่รับก็ทิ้งไป 

เมื่อรั่วหลินนางได้ยินก็เเทบจะร้องไห้ นายของนางผู้นี้เป็นคนที่รักเงินทองยิ่งชีพ! บอกว่าจะทิ้งก็ทิ้งได้หรือนางจึงจำใจรับมันมา ต่อมานางก็ไม่ค่อยคิดจะปฏิเสธอีก

หานจินอี้ได้เเบ่งของให้กับคนสนิทเสร็จแล้วก็เเยกตัวออกไปพักผ่อน พอนางมาถึงเตียงก็ล้มตัวนอนทันที เกือบหนึ่งเดือนมานี้นางต้องนอนอยู่แต่บนต้นไม้คิดถึงเตียงนุ่มๆนี่เเทบเเย่ พอหัวนางจึงหนอนไม่ก็หลับทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel