บท
ตั้งค่า

บทที่4 คุณชายรองตระกูลหาน 

บทที่4 คุณชายรองตระกูลหาน 

ณ ยอดเขาสูงเฉียดฟ้าแห่งหนึ่ง มีบุรุษที่สวมอาภรณ์สีขาวนวลผมสลวยพลิ้วไหวไปตามสายลมกำลังยืนให้อาหารปลาอยู่ริมสระจำลอง 

        " เรียนซื่อจื่อ องค์ชายสี่มีความเคลื่อนไหวแล้ว " องครักษ์ที่มีนามว่าซูเฉินเข้ามารายงานนายของตน

เมื่อคนที่ถูกเรียกขานว่าซื่อจื่อก็หันกลับไป ก็เผยให้เห็นใบหน้าที่งดงามคล้ายกับเทพเซียนจากสวงสวรรค์ ผิวพรรณขาวดั่งหิมะ ริมฝีหยักได้รูป รูปลักษณ์เช่นนี้เเม้แต่สตรียังต้องอาย 

         " เว่ยจื่อหรง มีความเคลื่อนไหวแล้วงั้นหรือ " เว่ยตงหนานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ 

         " ขอรับ เมื่อไม่อีกวันก่อนองค์ชายสี่ไปถอนหมั้นคุณหนูห้าตระกูลหานแล้ว " ซูเฉินรายงานสิ่งที่ตนได้รู้ให้กับผู้เป็นนายของตน

เว่ยตงหนานยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างเย้นหยัน ดูท่าเว่ยจื่อหรงคงจะคิดได้แล้วว่าตระกูลหานไม่ได้มีประโยชน์อันใดกับตนมากนัก อีกทั้งคู่หมั้นของเว่ยจื่อหรงยังเป็นสตรีสติไม่ดีคนหนึ่ง " แล้วตระกูลหานมีท่าทีเช่นไร " 

        " ตระกูลหานยอมถอนหมั้นแต่โดยดีขอรับ คุณหนูห้าตระกูลหานยอมคืนของหมั้นให้กับองค์ชายสี่โดยไม่โวยวายอะไร " 

เมื่อเว่ยตงหนานได้ยินว่าหานจินอี้ยอมคืนของหมั้นหมายให้กับเว่ยจื่อหรงง่ายๆก็อดรู้สึกแปลกใจ เท่าที่เขารู้มาหานจินอี้ผู้นี้คอยตามติดเว่ยจื่อหรงเป็นประจำมิใช่หรือ แล้วเหตุใดถึงยอมคือของหมั้นไปง่ายๆ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นต่อ" ค่อยจับตาดูเอาไว้ " 

        " ขอรับ " แล้วซูเฉินก็หายตัวออกไปทันที

เว่ยตงหนานจึงหันกลับได้ให้อาหารปลาต่อแล้วพลางครุ่นคิดเหตุผลที่หานจินอี้ยอมคืนของหมั้นให้กับเว่ยจื่อหรง เท่าที่เขารู้มาคุณหนูห้าผู้แห่งตระกูลผู้นั้นเป็นคนไร้ความมารถ ทว่าคนผู้นี้ปักใจกับเว่ยจื่อหรงมากมิใช่หรือเหตุใดถึงได้รามือไปง่ายๆเช่นนั้น 

 ในเมื่อเขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ตกจึงได้ปัดเรื่องนี้ออกไป อย่างไรเสียพวกเขาทั้งสองคนก็ถอนหมั้นกันไปแล้วไม่อยาก ในเมื่อไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันแล้วก็ไม่มีเรื่องให้คิดถึงอีก เมื่อเว่ยตงหนานให้อาหารปลาเสร็จแล้วก็หมุนตัวจากไปในทันที

ทางด้านของหานจินอี้ที่ตอนนี้นางก็กำลังช่วยรั่วหลินพลิกหน้าดินรอบๆเรือนหลันฮวาของตนให้เป็นแปลงสมุนไพรทั้งหมด ช่วงนี้นางต้องการเงินเป็นอย่างมาก สมุนไพรที่เป็นส่วนผสมของโอสถสร้างรากปราณล้วนเป็นสมุนไพรหายากและราคาเเพงทั้งสิ้น บางต้นมีราคาเกือบร้อยเหรียญทองบางต้นก็สูงถึงสองร้อยสามเหรียญทองเลยทีเดียว ดังนั้นต้องหาเงินให้มากหน่อยก็ดี

 ทันใดนั้นเองหานจินอี้ก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังขึ้นไม่ไกลจากเรือนหลันฮวาของตน นางจึงรีบป้ายดินที่ติดอยู่ที่มือของตนบนเสื้อผ้าและใบหน้าของตัวเอง

รั่วหลินเห็นนายของตนมีท่าทางเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วก่อนจะอ้าปากแล้วกำลังเอ่ยถาม ทว่าเมื่อเห็นสายตาของผู้เป็นนายส่งสัญญาณให้มองไปยังประตูทางเข้าเรือนก็เข้าใจได้ทันทีแล้วเริ่มเล่นงิ้วโรงใหญ่ตามที่ผู้เป็นนายต้องการ " คุณหนู! ทำเช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ! " 

' หานจื่อชิง ' ที่เป็นคุณชายรองของจวน วันนี้เขาพามารดาของตนหรือก็คืออนุสาม 'เฉินจื่อฉิน' ออกมาเดินเล่นรับลมหลังจากที่ป่วยไข้มานานพอหายแล้วเขาจึงอยากให้มารดาของตนได้สูดอากาศบริสุทธิ์บ้างมิใช่แต่อุดอู้อยู่แต่ในเรือน

พอทั้งเดินเข้าใกล้เรือนหลันฮวาก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านในเรือน หานจื่อชิงจึงประคองมารดาของตนเดินเข้าไปดูว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปด้านในก็พบว่าหน้าดินรอบๆเรือนหลันฮวาถูกขุดจนเละเทะไปหมด ห่างไม่ไกลมากนักก็พบกับหานจินอี้ที่ตอนนี้เนื้อตัวเต็มไปด้วยดินและมีอุปกรณ์ขุดดินวางอยู่ใกล้ตัวของนาง หานจื่อชิงจึงเอ่ยถามขึ้น " นี่มันเรื่องอะไรกัน "

หานจินอี้จึงมองไปทางทิศทางของเสียงก็พบว่าเป็นบุรุษผู้หนึ่งที่มีท่าทีคล้ายกับบัณฑิตที่ประคองสตรีวัยกลางคนเดินเข้ามา

 รั่วหลินเมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดจึงย่อตัวลงคำนับผู้มาใหม่ " บ่าวคารวะคุณชายรอง อี๋เหนียงสามเจ้าค่ะ "  

 เฉินจื่อฉินจึงพยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน " คุณหนูห้าเกิดสิ่งใดขึ้นกัน เหตุใดถึงได้เนื้อตัวมอมแมมเช่นนี้ " 

 หานจินอี้จึงเอียงคอมองทั้งสองคนที่มาใหม่ของพิจารณาแล้วส่งยิ้มให้ทั้งสองอย่างคนโง่งมสติไม่ดี

          " พี่รอง อี๋เหนียงสาม ข้ากำลังจะปลูกสวนดอกไม้เจ้าค่ะ " 

         " สวนดอกไม้หรือ " หานจื่อชิงเอ่ยพึมพำออกมาเบาๆ

         " ใช่เจ้าค่ะ เมื่อวันก่อนคุณหนูฝันว่าได้นอนอยู่ที่ทุ่งดอกไม้ พอมาวันนี้จึงอยากปลูกดอกไม้รอบๆเรือนเจ้าคะ " รั่วหลินเอ่ยอธิบายให้ทั้งสองคนฟัง

 หานจื่อชิงมองไปยังน้องห้าที่ส่งยิ้มโง่งมมาให้กับตนก็ได้ถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างหนักใจ ตลอดมาน้องห้าของคนผู้นี้ถูกมารดาเเท้ๆของตนทอดทิ้งให้อยู่เรือนหลังเล็กท้ายจวนและยังโดนเหล่าบรรดาพี่น้องคอยกลั่นแกล้ง ที่ผ่านมายังดีที่มีพี่ใหญ่คอยปกป้อง ทว่าเมื่อสองปีก่อนพี่ใหญ่เข้าไปศึกษาในสำนักศึกษาหมื่นเมฆาแล้วจึงไม่มีผู้ใดคอยปกป้องนางอีกจะมีก็แต่สาวใช้ที่อยู่ข้างกาย ทว่าอย่างไรสาวใช้ก็คือสาวใช้อยู่วันยังค่ำมิสามารถทำสิ่งใดได้มาก

 เมื่อหลายเดือนก่อนก็ยังโดนผลักตกน้ำจนเกือบจมน้ำเอาชีวิตไม่รอด น้องสาวของเขาผู้นี้ช่างน่าเวทนายิ่งนัก จะให้เขายืนมือเข้าไปช่วยก็ไม่ได้เช่นกัน ลำพังตัวของเขากับมารดาผู้ให้กำเนิดก็ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ขืนพาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเเย่งชิงอำนาจในจวนชีวิตของพวกเขาเเม่ลูกคงไม่รอดเป็นแน่

ในจวนต่างก็รู้ดีว่าฮูหยินใหญ่กับฮูหยินรองคอยห้ำหั่นกันอยู่ตลอดไม่มีผู้ใดยอมผู้ใดเลย พวกเขาที่เป็นอนุและลูกอนุก็คอยถอยออกไปห่างๆ เพราะตระกูลของสตรีทั้งสองคนต่างก็เป็นตระกูลใหญ่ไม่ต่างจากตระกูลหานเลย

 ตระกูลหานถึงจะไม่ได้เป็นตระกูลขุนนางในราชสำนัก ทว่าก็เป็นตระกูลคหบดีที่ร่ำรวยเป็นที่นับหน้าถือตาของทั้งสองดินแดน ตระกูลหานเป็นเจ้าของโรงประมูลเซี่ยอินที่ตั้งอยู่ในหัวเมืองใหญ่ในทั้งสองดินเเดินและยังเป็นขุมกำลังที่ค่อยสนับสนุนราชสำนักของดินแดนชิงหลงอยู่เงียบๆ

 คนทุกรุ่นของตระกูลหานก็มีแต่ผู้ที่เป็นอัจฉริยะกันทั้งนั้น ทว่าพอหันมามองหานจินอี้ที่อยู่ไม่ไกลจากตนนักก็ถอนใจหายอย่างหนักอก หานจินอี้เป็นความอัปยศของตระกูลโดยแท้จริง 

        " รั่วหลินเจ้ารีบพานายของเจ้าไปล้างเนื้อล้างตัวเถอะ ถ้าเรื่องนี้ถึงหูนายท่านคงไม่ดีต่อตัวคุณหนูห้า " เฉินจื่อฉินเอ่ยขึ้น 

       " เจ้าค่ะ อี๋เหนียงสาม " เมื่อรั่วหลินขานรับเสร็จทั้งสองแม่ลูกก็หมุนตัวเดินออกไปจากเรือนหลันฮวาทันที

พอแผ่นหลังของสองแม่ลูกหายลับไปแล้วหานจินอี้จึงล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากเเขนเสื้อของตนเเล้วก็ค่อยๆเช็ดคาบดินที่เลอะอยู่ที่ใบหน้าและอาภรณ์สีเข้มของตนออก    

       " คุณหนูเหตุใดต้องปิดบังความจริงที่คุณหนูหายจากอาการสติไม่ดีด้วยหล่ะเจ้าคะ " รั่วหลินเอ่ยถามขึ้นมา

       " ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา " หานจินอี้เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ สายตาของนางยังจับเจอไปยังที่หน้าประตูเรือนที่สองแม่ลูกพึ่งจากไป โลกใบนี้ไม่มีผู้ใดไม่เห็นแก่ตัว คนทุกคนก็รักชีวิตของตนเองกันทั้งนั้นสองแม่ลูกคู่นั้นก็เช่นเดียวกัน 

จากนั้นหานจินอี้กับรั่วหลินก็ทำงานของตนต่อจนเสร็จ สมุนไพรชุดสองนำออกไปขายจนเกือบหมดแล้ว หานจินอี้จึงปรับหน้าดินในเรือนหลันฮวาทั้งหมดให้เป็นแปลงสมุนไพร นางต้องการเงินเป็นจำนวนมากเมื่อถึงเวลาจวนตัวจริงๆนางจะได้มีหนทางไว้ไปต่อ นางไม่คิดจะอยู่ที่จวนแห่งนี้ตลอดชีวิตหรอกนะ

กว่าที่ทั้งสองนำเมล็ดพันธุ์สมุนไพรลงเดินเสร็จฟ้าก็มืดแล้ว รั่วหลินจึงช่วยนายของตนอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ พอหานจินอี้ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็ไล่รั่วหลินไปพักผ่อนเพราะวันนี้รั่วหลินก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว 

หานจินอี้นั่งพิงหัวเตียงพลางครุ่นคิดแผนการขั้นต่อไปว่าจะทำเช่นไรต่อ นางมาถึงโลกใบนี้มาก็หลายเดือนแล้วและก็ได้รับรู้ความจริงอีกข้อว่าในโลกใบนี้มีแต่เพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้ นางจำเป็นต้องเเข็งแกร่งขึ้นเพื่อเอาชีวิตรอดจากโลกที่โหดร้ายใบนี้ นางจึงต้องเเข็งเเกร่งขึ้นถึงจะมีชีวิตรอด.....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel