บท
ตั้งค่า

บทที่2 ปัญหาเรื่องเงินๆทองๆ 

บทที่2 ปัญหาเรื่องเงินๆทองๆ 

        " รั่วหลินเจ้ามีธาตุอะไรแล้วตอนนี้อยู่ในระดับไหน " หานจินอี้เอ่ยถามพลางกวาดสายตาหาตำราที่ตนต้องการ

        " คุณหนูข้ามีธาตุลมเจ้าค่ะ ส่วนระดับพลังวิญญาณอยู่ในระดับต้นจิตสามดาราเจ้าค่ะ "

เมื่อหานจินอี้ได้คำตอบที่ตนต้องการแล้วก็พยักหน้าก่อนจะหยิบตำราทักษะพื้นฐานของธาตุลมให้กับรั่วหลิน 

รั่วหลินได้แต่มองตำราในมือของผู้เป็นนายแล้วเอ่ยขึ้น " คุณหนู.... "

หานจวินอี้เห็นว่ารั่วหลินยังไม่รับตำราทักษะที่นางมอบให้ก็ยัดมันใส่มือของรั่วหลินแล้วเอ่ยขึ้นมา " ต่อไปข้าต้องพึ่งเจ้าให้คอยปกป้องนะ เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่มีพลังวิญญาณต่อต้องรบกวนเจ้าแล้ว "

รั่วหลินได้ยินที่นายของตนกล่าวก็รับตำราทักษะพื้นฐานโดยไม่ลังเลอีกต่อไป ส่วนหานจินอี้นางก็เลือกตำราพื้นฐานทั่วไปและตำราสมุนไพรอีกสองสามเล่ม ทันใดนั้นเองสายทางของนางก็สะดุดกับตำราที่มีปกสีดำที่มีสภาพเก่าแก่เล่มหนึ่ง บนปกมีอักษรโบราณอะไรสักอย่างที่นางอ่านไม่ออก

 ทว่านางก็รู้สึกสนใจเป็นอย่างมากจึงหยิบมันติดมือด้วยแล้วค่อยเดินไปจ่ายเงินกับชายชราที่อยู่โต๊ะคิดเงิน " ผู้อาวุโส ตำราห้าเล่มนี้ท่านคิดเท่าไรเจ้าคะ " 

 ทันทีที่ชายชราได้ยินเสียงก็ลืมตามองตำราห้าเล่มที่วางอยู่บนโต๊ะก็พลันแปลกใจว่าเหตุใดถึงได้มีตำราปกสีดำรวมอยู่ในนี้ด้วยแล้วหรี่ตามองดรุณีน้อยที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะคิดเงิน เมื่อสำรวจดูก็รู้ว่าดรุณีน้อยนางนี้รากปราณถูกทำลายตั้งแต่เกิดก็อดแปลกใจไม่ได้ พอมองดูตำราสมุนไพรทั้งสองเล่มที่รวมอยู่ในนั้นก็พลันเข้าขึ้นมา " ทั้งหมดสิบเหรียญทอง " 

        " ถูกขนาดนี้เซียว! " รั่วหลินหลุดปากเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ หลายร้านที่ผ่านมาตำราทั้งห้าเล่มนี้ต้องไม่ต่ำกว่าสี่สิบเหรียญทองแน่นอน

หานจินอี้ได้ยินราคาของตำราทั้งห้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกนางนึกว่าจะแพงกว่านี้เสียแล้ว ยังเหลือเงินอีกห้าสิบเหรียญทองพอจะซื้อสมุนไพรได้บ้าง 

       " ตำราพวกนี้ล้วนแต่เป็นของเก่าทั้งนั้น ราคาเท่านี้นับว่าถูกต้องแล้ว " ชายชราเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจแล้วล้วงหยิบตำราที่วางอยู่ใต้โต๊ะขึ้นมาวางรวมกับตำราทั้งห้าเล่ม " พวกเจ้าซื้อเยอะเช่นนี้ข้าแถมให้แล้วกัน "

หานจินอี้มองดูตำราที่ชายชราแถมให้ก็รู้สึกว่าตำราเล่นนั้นไม่ธรรมดาเฉกเช่นกับตำราปกดำเลย นางจึงจ่ายเงินและเอ่ยขอบคุณชายชราผู้นั้นแล้วเดินออกไปจากร้าน พอได้ตำราอย่างที่ตั้งใจไว้แล้วทั้งสองจึงตรงกลับจวนทันที

 พอทั้งสองกลับจวนก็เกือบพลบค่ำแล้ว รั่วหลินจึงแยกตัวออกไปนำอาหารเย็นจากห้องครัวใหญ่มาให้นายของตน ส่วนหานจินอี้ก็เข้าไปรอในเรือน พอเดินเข้าไปก็พบกับสตรีอายุประมาณสามสิบปลายๆคนนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ทว่าอายุจะสี่สิบแล้วแต่ใบหน้าของสตรีผู้นั้นยังเหมือนอยู่อายุยี่สิบต้นๆอยู่เลยเห็นได้ชัดว่าดูแลตัวเองเป็นอย่างดีด้านหลังยังมีแม่นมฉินกับสตรีผู้อาวุโสท่านหนึ่งยืนอยู่

หานจินอี้เอียงมองทั้งสามคนด้วยท่าทางโง่งมก่อนจะเอ่ยขึ้น " ท่านแม่ "

 ซ่างเหยาโหลวปรายตามองบุตรสาวของตนเองครู่หนึ่งก็รู้สึกว่าบุตรสาวของตนมีบางอย่างเเปลกไปจากเดิม ทว่าแปลกอย่างไรนั้นนางก็ไม่อาจรู้ได้ ก่อนที่สายตาของนางจะสะดุดกับตำราหลายเล่มที่อยู่ในอ้อมก่อนของบุตรสาวของตน " เดี๋ยวนี้เจ้ารู้จักใช้เงินด้วยหรือ ไม่กลัวพี่สามกับพี่สี่ของเจ้าจะเเย่งไปแล้วหรือไร " 

หานจินอี้ได้ยินคำถามของมารดาเจ้าของร่างถามถึงกับสะดุ้งขึ้นมาก่อนจะตอบด้วยท่าทางโง่งมเช่นเคย " ข้าไม่กลัวเจ้าคะ ข้าออกไปทางประตูหลัง " เอ่ยจบพร้อมกับยิ้มโง่งมให้กับมารดาเจ้าของร่างเดิมไปทีหนึ่ง

       " เเม่ได้ยินว่าเจ้าไม่สบายเลยมาดูเสียหน่อย ดูท่าเจ้าจะหายดีถึงได้ออกไปข้างนอกทั้งวันเช่นนี้ " ซ่างเหยาโหลวเอ่ยขึ้นกับบุตรสาวของตนเสร็จแล้วค่อยหันไปเอ่ยกับฉินโม่ที่ยืนดูด้านหลัง " ดูแลคุณหนูให้ดี ขาดเหลือสิ่งใดก็ให้รั่วหลินไปแจ้ง " เมื่อสั่งทุกอย่างเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไปทันที

หานจินอี้จึงล้มหน้าลงแล้วลอบยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยันโดยมิมีผู้ใดเห็น หึ!...ตอนข้านอนโทรมอยู่บนเตียงกลับไม่มา เเต่พอข้าออกไปข้างนอกกลับมาได้เหมาะเจาะเหลือเกิน

เมื่อคนทั้งสามก่อนไปแล้วรั่วหลินก็นำอาหารเข้ามาพอดี จากนั้นหานจินอี้ก็เริ่มลงมือกินข้าวทันที พอกินเสร็จแล้วรั่วหลินก็ช่วยนางอาบน้ำ ตอนแรกๆนางก็ยังไม่ชินพอเป็นแบบนี้นานๆเข้าก็เริ่มชินเสียแล้ว พอนางทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็ไล่รั่วหลินออกไป ส่วนนางก็หยิบตำราพื้นฐานขึ้นมาอ่าน

หานจินอี้อ่านตำราพื้นฐานก็เข้าใจว่าถ้าต้องการเพิ่มพลังวิญญาณนอกจากโอสถรวมปราณแล้วยังมีแก่นอสูรและผลึกวิญญาณที่รวบรวมพลังวิญญาณไว้ แต่ละอย่างล้วนมีราคาแพงกันทั้งนั้น ยิ่งเป็นผลึกวิญญาณยิ่งหายากและราคาสูง

แก่นอสูรทั้งสิบสีที่แบ่งไปตามระดับของสัตว์อสูรทั้งแต่ระดับต่ำจนถึงระดับสูง ยิ่งแกนอสูรของสัตว์อสูรระดับสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งราคาสูงตามความยากเท่านัก ไม่แปลกเลยที่มีแต่คนจากตระกูลใหญ่ที่อยู่ในระดับสูง 

 ถ้าเป็นชาวบ้านทั่วไปคงไม่มีกำลังทรัพย์มากขนาดนั้นอย่างมากก็ซื้อได้แต่แก่นอสูรสีส้มเท่านั้น หรือถ้าคนมีฝีมือหน่อยก็เข้าไปล่าสัตว์อสูรเอง แกนอสูรระดับต่ำก็มีราคาสิบเหรียญทองแล้วและยิ่งระดับสูงคงไม่ต้องเอ่ยถึงเลย 

หานจินอี้อ่านตำราพื้นฐานจนจบก็พบว่าเลยเที่ยงคืนไปแล้ว นางจึงลุกขึ้นดับเทียนที่อยู่ในห้องนอนจากนั้นก็ลงตัวนอนลงไม่นานก็เข้าสู่ห้วงนิทรา

วันต่อมาหานจินอี้ก็ขลุกตัวอยู่กับตำราสมุนไพรที่ตอนซื้อกลับมาทั้งวัน ไม่นอนก็ค้นพบว่าตำราที่นางซื้อมาทั้งสองเล่มมีแต่สมุนไพรธรรมดาสามัญไม่มีสิ่งใดแปลกไปจากที่ตนรู้มาเลย นางจึงหยิบตำราสมุนไพรที่ชายชราแถมมาให้ 

 เมื่อเริ่มอ่านมาได้แค่ครึ่งทางดวงตาหงส์ของนางก็สั่งระริก ไม่คิดว่าในตำราเล่มนี้จะมีวิธีปรุงโอสถอยู่ จากสมุนไพรธรรมดาก็สามารถปรุงโอสถให้กลายเป็นโอสถแสนล้ำค่าได้ ยิ่งทำได้นางรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา หากสามารถปรุงโอสถได้ก็ไม่มีปัญหาเรื่องทรัพย์กรในการฝึกฝนแล้ว ดังนั้นหานจินอี้จึงต้องหน้าต้องตาอ่านตำราในมือของตน

พออ่านมาจนจะจบเล่มก็พบว่าบนโลกใบนี้มีโอสถที่สามารถสร้างรากปราณขึ้นมาใหม่และยังมีโอสถชำระไข้กระดูกอีก ทำให้นางตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ถ้าเป็นเช่นนั้นรากปราณก็จะสามารถฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ได้ ทว่าพออ่านไปจนจบก็พบว่าสมุนไพรที่ใช้ปรุงยานั้นเป็นสมุนไพรที่มีราคาเเพงทั้งนั้น จนทำให้นางถอนหายใจออกมาอย่างเเรง

ทว่าพอนางครุ่นคิดวิธีหาเงินซื้อสมุนไพรพวกนั้นอยู่นานริมฝีปากบางก็คลี่ยิ้มออกมา ไม่ใช่ว่านางมีสูตรปรุงยาพวกนี้ในมือหรอกหรือ

 วันต่อมาหานจินอี้ก็ออกจากจวนไปอีกรอบโดยมีรั่วหลินคอยตามไปด้วยเช่นเคย ไม่นานนักหานจินอี้ก็มาหยุดที่ร้านขายสมุนไพรแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านไม่ใหญ่มาก จากนั้นนางก็บอกความต้องการของตนให้ผู้ดูแลร้านแห่งนี้ทราบแล้วผู้ดูแลร้านก็จากไปเพื่อจัดหาสมุนไพรที่นางต้องร้าน 

 เมื่อผู้จัดการจากไปแล้วหานจินอี้ก็เดินดูเมล็ดพันธุ์สมุนไพรไปพลางๆเพื่อรอผู้ดูเเลร้าน ระหว่างนั้นรั่วหลินก็ถามว่านางต้องการสมุนไพรไปทำไม พอหานจินอี้ก็กระซิบข้างหูบอกจุดประสงค์ของตนให้คนสนิทฟัง

รั่วหลินถึงกลับตาเบิกกว้างแทบจะถลนออกจากเบ้า ทั้งแต่คุณหนูของนางฟื้นขึ้นก็เปลี่ยนไปราวกับคนระคน ตอนนี้คุณหนูของนางเป็นคนปกติแล้วไม่ได้สติไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนและคุณหนูก็ยังมีวิธีฟื้นฟูรากปราณได้เเล้วจะไม่ให้นางดีใจได้เช่นไร 

หานจินอี้เห็นท่าทางของรั่วหลินเหมือนจะเอ่ยสิ่งใดสักอย่างนางจึงห้ามไว้ก่อน จากนั้นนางก็เลือกเมล็ดพันธุ์สมุนไพรที่ตนเองต้องการมาจนครบ

ผู้จัดการร้านก็กลับพร้อมกับห่อสมุนไพรพอดี นางจึงจากเงินพร้อมกับนำเมล็ดพันธ์ุกลับไปด้วย ทั้งสมุนไพรกับเมล็ดพันธุ์รวมเป็นสามเหรียญทองพอดี ยังดีที่สมุนไพรที่นางต้องการราคาไม่แพงมาก จากนั้นทั้งสองก็เดินทางกลับจวนตนเองทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel