บทที่ 3 ต้องหนีเท่านั้น! NC เบาๆ
ลู่หนิงใช้ความมืดบดบังร่างของตน เดินลัดเลาะมาจนถึงประตูจวนอ๋องทางด้านหลัง รอจนกระทั่งทหารยามเดินผ่านไปจึงรีบวิ่งไปที่ประตูพลางเปิดออก
จบสิ้นเรื่องราวเสียที! นางจะต้องหาทางกลับไปยังแคว้นหูให้จงได้!
ทว่าเพียงแค่ประตูเปิดออก หญิงสาวก็รู้สึกเจ็บตึงที่หน้าอกทั้งสองข้างอย่างรุนแรง ยามนี้มันทั้งบวมแดงร้อน เจ็บปวดจนทรงตัวแทบไม่ไหว ในใจหวนนึกไปถึงเจ้าก้อนกลมที่นอนอยู่ในห้องเด็กอ่อน ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ฉู่ไจ๋ไจ๋นอนหลับดีแล้วใช่หรือไม่ หากตื่นขึ้นมาร้องไห้หิวนม จะมีผู้ใดเอานมให้นางกินหรือไม่
ลู่หนิงนิ่วหน้าเข้าหากัน ทว่ายังไม่ทันจะได้ขยับตัวไปไหน จู่ๆก็มีคมกระบี่จิ้มมาที่ลำคอบางจนรู้สึกเจ็บแปลบ!
“หันหน้ากลับมา!” เสียงกระด้างดังขึ้นจากทางข้างหลัง ลู่หนิงรู้ว่าตอนนี้ตนกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ตกเป็นรอง นางไม่มีอาวุธใดติดกาย อีกทั้งยังรู้สึกเจ็บตึงที่เต้าจนแทบจะยืนไม่ไหว แขนเรียวยกขึ้นทั้งสองข้าง ค่อยๆ หมุนกายหันหน้ากลับมา
ฉู่เติ้งหาวเปล่งเสียงหึออกมาในลำคอ ก่อนจะเก็บกระบี่เข้าฝักตามเดิม ถามคนตรงหน้าเสียงกระด้าง
“เจ้าออกมาทำอะไรที่นี่ดึกๆดื่นๆ!”
“หม่อมฉันรู้สึกไม่สบายเลยออกมาเดินรับลม”
ชายหนุ่มจดจ้องมองร่างบางตรงหน้า แสงจากดวงจันทร์ส่องให้เห็นใบหน้าซีดเซียวของนาง คนตัวโตย่างสามขุมเข้าไปใกล้ดึงห่อผ้าที่แขวนอยู่บนแขนของนางออกมาแกะออก
“ออกมาเดินเล่นไยต้องขนข้าวของพวกนี้มาด้วย”
ลู่หนิงกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ หลักฐานมัดตัวเช่นนี้ เขาคงรู้แล้วว่านางกำลังจะหนีเป็นแน่
“เมื่อเช้าเรียกร้องความสนใจจากข้าโดยการกระโดดหน้าต่าง ตกเย็นเรียกร้องความสนใจโดยการแกล้งหนีออกไปจากจวน ข้าอยากรู้นักว่าพรุ่งนี้เจ้าจะเรียกร้องความสนใจจากข้าด้วยวิธีใดอีก”
“ไม่รู้สิเพคะ ไว้คิดออกแล้วหม่อมฉันจะบอกท่านอ๋องนะ” เพราะหงุดหงิดในความหลงตัวเองของเขา นางจึงตอบไปด้วยน้ำเสียงยียวน
ฉู่เติ้งหาวขบกรามแน่นจนเห็นสันนูนปรี่เข้ามากระชากต้นแขนเรียวเสลาอย่างแรง ลู่หนิงพยายามแกะมือของเขาออก แต่ยิ่งทำเขาก็ยิ่งบีบมันแน่นขึ้น สุดท้ายรู้ว่าไม่อาจต่อกรกับคนตัวโตได้ในยามนี้ นางจึงคิดหาวิธีเอาตัวรอด ทว่าอาการคัดตึงที่หน้าอกกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง ครานี้มันรุนแรงมากกว่าเดิม เจ็บจนแทบจะทรงตัวไม่ไหว สุดท้ายจึงทิ้งร่างลงไปนอนบนพื้น
ชายหนุ่มมองร่างเล็กที่ร่วงผล็อยลงไปบนพื้นราวกับใบไม้ที่ร่วงลงจากกิ่งด้วยแววตาเรียบเฉย มีเพียงไฉอันองครักษ์คนสนิทของเขาที่ปรี่เข้าไปหานางด้วยความเป็นห่วง
“พระชายาหมดสติไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“…” ฉู่เติ้งหาว
“ท่านอ๋อง ถึงไม่เห็นแก่พระชายาก็ทรงเห็นแก่ท่านหญิงน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
คนฟังได้แต่พ่นลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเดินเข้าไปอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกของนางขึ้นมา เห็นแก่ฉู่ไจ๋ไจ๋ หากจวีลู่ม่านเป็นอะไรไป ไจ๋ไจ๋จะไม่ได้กินนมแม่ หาไม่เขาจะปล่อยให้นางนอนตากลมอยู่ที่นี่ทั้งคืน
ฉู่เติ้งหาวอุ้มร่างบางเดินกลับมายังหอนอน ทันทีที่ซานอิ๋งเห็นร่างไร้สติของเจ้านายก็รีบผุดลุกขึ้นเดินตามเข้าไปในห้องด้วยความตกใจ อีกทั้งยังรู้สึกแปลกใจอยู่มาก นางนอนเฝ้าที่หน้าประตูตลอดเวลา ทว่าเหตุใดพระชายาจวีลู่ม่านถึงออกไปอยู่ข้างนอกได้
“พระชายาเพคะ” ร่างบางถลาเข้าไปใกล้ที่ข้างเตียงของนาง หลังจากที่ฉู่อ๋องวางจวีลู่ม่านลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว
“อือ เจ็บ” มือบางยกขึ้นแตะลงบนเนินอกของตนเบาๆ
ซานอิ๋งเห็นเช่นนั้นจึงไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปจากห้อง ไม่นานก็กลับมาพร้อมมู่ตาน
“นางเป็นอะไรไป” ฉู่เติ้งหาวกอดอกถาม
“พระชายาทรงรู้สึกเจ็บคัดที่ทรวงอกเพคะ สงสัยเป็นเพราะเกิดจากการคั่งของน้ำนมที่อยู่ภายใน” มู่ตานตอบ ถึงแม้จะไม่เคยมีลูกเป็นของตัวเอง แต่ก็เคยรับจ้างเลี้ยงเด็กมาหลายบ้านทำให้นางคุ้นเคยกับอาการพวกนี้เป็นอย่างดี
“ต้องรักษาอย่างไรพี่มู่ตาน” ซานอิ๋งถามเสียงสั่น น้ำตาคลอ เสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังแผ่วมาจากคนที่นอนหลับตาอยู่เป็นระยะๆ นางรู้สึกสงสารเจ้านายจับใจ
“เจ้าไปสั่งให้คนต้มน้ำมา ข้าจะช่วยประคบและบีบน้ำนมออกให้ก่อน พระชายาจะได้ไม่รู้สึกคัดตึงมาก”
ซานอิ๋งผงกศีรษะรับจากนั้นจึงรีบวิ่งออกไปจากห้อง มู่ตานจึงหันมาปลดสายรัดเอวของนางออก ในตอนที่สาบเสื้อเปิดแยกออกจากกันเผยให้เห็นทรวงอกอิ่ม ฉู่เติ้งหาวรีบเบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน โหนกแก้มสากร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างสูงรีบหมุนกายทำท่าจะก้าวเดินออกไปจากห้อง หากแต่ว่ามู่ตานกลับเรียกเขาไว้เสียก่อน
“ท่านอ๋องเพคะ ท่านอ๋องทรงเรียนรู้วิธีบีบน้ำนมออกไว้ก็ดีนะเพคะ หากพระชายามีอาการเช่นนี้อีก ท่านอ๋องจะได้ช่วยนางได้”
“ไยข้าต้องทำในเมื่อมีเจ้าคอยทำอยู่แล้ว” ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงแข็ง แค่เขาอุ้มนางกลับมาที่หอนอน ไม่ปล่อยให้นอนตากลมอยู่ข้างนอกนั่นก็นับว่าเมตตามากพอแล้ว
“หม่อมฉันต้องดูแลท่านหญิงน้อย นี่ก็ปล่อยนางไว้คนเดียวนานแล้ว หากท่านหญิงน้อยตื่นมาร้องไห้งอแง จะไม่มีคนดูแลนางนะเพคะ” สีหน้าของมู่ตานเต็มไปด้วยร่องรอยของความกังวล นึกเป็นห่วงท่านหญิงน้อยที่นอนอยู่ในห้องคนเดียวยิ่งนัก
“เช่นนั้นก็ให้ซานอิ๋งทำ”
“ซานอิ๋งต้องไปคุมบ่าวต้มน้ำร้อนนะเพคะ”
คิ้วกระบี่ขมวดเข้าหากันเป็นปมแน่น หายใจฟึดฟัดออกมาด้วยความโมโห ทว่าสุดท้ายก็ยอมก้าวขาเดินเข้ามานั่งลงอยู่ข้างเตียง
“ต้องทำอย่างไร”
มู่ตานสาธิตวิธีบีบน้ำนมออกให้เขาดู และลองให้ฉู่อ๋องทำด้วยตัวเอง มือหนาสั่นเล็กน้อยในยามที่ยื่นเข้าไป ในตอนที่มือสัมผัสได้ถึงความอวบอิ่มของทรวงอกหนั่นแน่น ทว่ายามนี้มันแข็งและร้อนผ่าวจนคนจับรู้สึกได้ ชายหนุ่มกัดฟันข่มอาการใจเต้นโครมครามไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยและทำอย่างที่มู่ตานสอน มู่ตานเห็นว่าลูกศิษย์จำเป็นทำได้ดีแล้วจึงล่าถอยออกไป
กว่าที่ชายหนุ่มจะรู้ตัวก็พบว่ายามนี้เขาอยู่ในห้องกับจวีลู่ม่านตามลำพังเสียแล้ว
ฉู่เติ้งหาวรีบถอนมือออกจากก้อนซาลาเปาทั้งสองข้าง มองน้ำนมสีขาวบริสุทธิ์ในมือด้วยความแปลกใจ ความสงสัยทำให้เขายกมันขึ้นมาดมทำให้ได้รู้ว่ากลิ่นของมันหอมหวนอย่างแปลกๆ
“อื้อ มู่ตานบีบมันออก” คนที่นอนปิดเปลือกตาอยู่คว้าหมั่บมาที่มือหนาให้วางไปบนหน้าอกของนาง ฉู่เติ้งหาวกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ในตอนที่ดวงตามองไปเห็นยอดผลอิงเถาสีชมพูระเรื่อที่ประดับอยู่กลางอกสองข้างของนาง
“เจ้าจะว่าข้าไม่ได้นะ” เขาเป็นบุรุษทั้งแท่งมีสตรีมานอนเปลือยอกให้ลูบๆคลำๆอยู่แบบนี้ใครจะไปทนไหว ในตอนที่ได้ร่วมรักกับนางในคราที่นางวางยาปลุกกำหนัดเขานั้น เป็นเพราะฤทธิ์ยาทำให้เขาไม่สามารถควบคุมอาการตัวเองได้ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกที่ได้ร่วมรักกันในตอนนั้นเป็นอย่างไร เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็พบว่าเขากับนางกำลังนอนกอดกันในสภาพร่างกายเปลือยเปล่า หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยแตะต้องนางอีกเลย
ดวงตาคมมองดวงหน้างามสลับกับสองเต้าที่อยู่ในมือพร้อมหลุดเสียงครางฮือในลำคอ กลิ่นหอมของน้ำนมที่หลั่งไหลออกมาจากยอดถันงามทำให้เขารู้สึกเคลิบเคลิ้มอย่างบอกไม่ถูก
ใบหน้าหล่อเหลาซุกซบลงไปบนกลางอกนุ่มหยุ่น ก่อนจะอ้าปากงับยอดถันสีสวย ร่างบางสะดุ้งโหยงขึ้นเล็กน้อย เปล่งเสียงครางฮือในลำคอเบาๆ ทว่าเปลือกตายังคงปิดสนิทอยู่เช่นเดิม
จ๊วบ!
“อ่าาส์” จมูกคมสันฝังอยู่บนก้อนเนื้อหยุ่น ปากและลิ้นประสานกันอย่างรู้งาน ดูดกลืนเอาน้ำนมรสจืดลงไปในลำคอจนได้ยินเสียงดังจ๊วบจ๊าบ ยอดถันสองข้างถูกรุกรานอย่างต่อเนื่อง คนตัวโตไม่มีทีท่าว่าจะหยุด มือข้างที่ว่างสะกิดยอดถันสลับกับบีบบี้มันจนน้ำนมเปรอะไปตามสองมือและปาก ดวงตาคู่คมฉ่ำปรือเต็มไปด้วยเพลิงปรารถนา หลุบสายตามองตามหยาดน้ำนมที่ไหลจากอกลงมาสู่ร่องสะดือสวย และค่อยๆไหลลงไปสู่เบื้องล่าง
“พี่มู่ตานน้ำอุ่นมาแล้ว” เสียงของซานอิ๋งดังอยู่หน้าประตูทำให้ร่างสูงรีบผละห่างออกจากเรือนกายเย้ายวนด้วยความตกใจ มือหนารีบคว้าผ้าห่มมาคลุมร่างบางที่เปลือยท่อนบนของนางเอาไว้ จากนั้นจึงรีบถอยห่างออกไปอีกหลายก้าว
ซานอิ๋งเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับสาวใช้อีกคนหนึ่ง หันซ้ายแลขวาไม่เห็นมู่ตานจึงคิดว่านางน่าจะกลับไปยังห้องเลี้ยงเด็กอ่อนของท่านหญิงน้อยแล้ว แต่เมื่อหันมาเห็นร่างสูงที่ยืนอยู่มุมประตูอย่างเงียบๆก็ทำให้นางสะดุ้งโหยงขึ้น ทว่าเมื่อเห็นหยดน้ำสีขาวที่เลอะอยู่บนปากหนานั้นทำให้นางตกใจยิ่งกว่า
ฉู่เติ้งหาวขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นซานอิ๋งกำลังเพ่งสายตามองมายังเขา ชายหนุ่มหันหน้าไปยังกระจกทองเหลืองจึงได้เห็นว่ามีคราบน้ำนมติดปากเขาอยู่!
'บัดซบที่สุด!’ ชายหนุ่มสบถขึ้นในใจด้วยความอับอาย ไม่รู้ว่าซานอิ๋งคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว!
มือหนารีบเช็ดมันออกอย่างรวดเร็วพลางขึงตาใส่สาวใช้คนสนิทของจวีลู่ม่าน ก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว ซานอิ๋งเห็นเช่นนั้นจึงรีบก้มหน้างุดด้วยความหวาดกลัว หันไปคว้าผ้าชุบน้ำอุ่นประคบลงบนทรวงอกของเจ้านายสาวด้วยความเป็นห่วง
